โดยในการขนส่งทุเรียนครั้งนี้ ลูกค้าได้จองตู้สินค้าควบคุมอุณหภูมิ LEO Reefer Container ครบทั้ง 50 ตู้ ตั้งแต่สามวันแรกหลังเปิดฤดูกาล สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในคุณภาพและบริการของลูกค้าที่มีต่อ LEO

ปัจจุบัน LXE ได้ทยอยส่งสินค้าผ่านเส้นทางรถไฟลาว-จีน ไปถึงปลายทางภายในสองสัปดาห์ และกำลังทยอยรับตู้เปล่ากลับมายังประเทศไทย เพื่อดำเนินการขนส่งในรอบถัดไป ซึ่งได้มีลูกค้าจองล่วงหน้าอย่างต่อเนื่อง

โดย LEO ระบุว่าการขนส่งในปีนี้มีความท้าทายมากกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากขั้นตอนด้านพิธีศุลกากรมีความซับซ้อนขึ้น และยังต้องผ่านการตรวจสอบสารตกค้าง อาทิ สาร Basic Yellow (BY2) และสารแคดเมียม ซึ่งส่งผลให้ระยะเวลาขนส่งเฉลี่ยเพิ่มขึ้น จากเดิมสี่วันเป็นแปดถึงสิบวัน ประกอบกับปริมาณสินค้าที่ออกสู่ตลาดในเวลาเดียวกัน จึงทำให้เกิดความแออัดในพื้นที่ด่านไทย-ลาว-จีน ที่อาจส่งผลต่อระยะเวลาขนส่งได้ อย่างไรก็ตาม ด้วยความสามารถและประสิทธิภาพของตู้ LEO Reefer Container ในการควบคุมอุณหภูมิได้อย่างแม่นยำ จึงทำให้สามารถรักษาคุณภาพทุเรียนได้อย่างสมบูรณ์จนถึงปลายทาง พร้อมสร้างความเชื่อมั่นด้านคุณภาพให้แก่ลูกค้า และตอกย้ำการลงทุนเชิงกลยุทธ์ของ LEO ที่สามารถสร้างความแตกต่างทางการแข่งขันได้

คุณเกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท LEO Global Logistics

นอกจากนี้ ด้วยการประสานความร่วมมือกับพันธมิตรสำคัญอย่าง China Railway International Multimodal Transport (CRCT) บริษัทในเครือ China Railway Group (CR) ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ของจีนที่ดำเนินธุรกิจการขนส่งทางราง ในการจัดการตารางตู้รถไฟขาออกจากลาวและรับคืนตู้เปล่าจาก Kunming อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้บริษัทฯ สามารถบริหารรอบตู้ได้อย่างต่อเนื่องและตอบสนองความต้องการตลาดได้ทันท่วงที

ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมา บริษัท LEO ได้เริ่มทดลองการขนส่งทุเรียนทางรถไฟในช่วงปลายฤดูกาล ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถวางแผนเชิงรุกและขยายบริการได้อย่างเต็มที่ในปีนี้

คุณเกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท LEO Global Logistics กล่าวว่า “เรามีความภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนการส่งออกผลไม้ไทย โดยเฉพาะทุเรียน ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกสำคัญของประเทศ เราเชื่อมั่นว่าการลงทุนในทรัพย์สินตู้ควบคุมอุณหภูมิ และการพัฒนาศักยภาพของทีมงานตลอดเส้นทาง จะช่วยผลักดันขีดความสามารถของโลจิสติกส์ไทยให้ทัดเทียมระดับภูมิภาคและสร้างความยั่งยืนในระยะยาว”

โดยบริษัทฯ มุ่งมั่นในการพัฒนาขีดความสามารถการขนส่งทางรางระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ด้วยเทคโนโลยีควบคุมอุณหภูมิและการร่วมมือกับพันธมิตรที่แข็งแกร่งในไทย ลาว และจีน เพื่อสร้างระบบขนส่งสินค้าทางการเกษตรของไทยที่มีประสิทธิภาพในระยะยาว


อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Logistics Mananger เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Logistics Manager หรือคลิกที่นี่

บทความก่อนหน้านี้CNC ยกระดับบริการ YSX เพิ่มความเร็ว ความถี่ และปลายทางการเชื่อมต่อ
บทความถัดไปPIL เปิดสำนักงานใหม่ในชิลี เดินหน้าขยายฐานธุรกิจในละตินอเมริกา