Dextra Industry and Transport (Dextra Transport) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1992 ในฐานะบริษัทในเครือของ Dextra Group ผู้นำด้านโซลูชันเหล็กโครงสร้างระดับโลก เพื่อมอบโซลูชันด้านโลจิสติกส์ระดับมืออาชีพ โดยมุ่งเน้นการบริหารจัดการความต้องการด้านโลจิสติกส์ทั้งหมดของ Dextra Group อย่างมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงการมอบบริการแก่ลูกค้าซึ่งเป็นบริษัทภายนอกอีกด้วย โดย Dextra Transport มีความเชี่ยวชาญในการจัดการปฏิบัติการขนส่งสินค้าโครงการ สินค้าอุตสาหกรรมและบริการย้ายสถานที่ตั้งสำหรับโมดูลเครื่องจักรและชิ้นส่วนประกอบขนาดใหญ่ รวมไปถึงการให้บริการขนส่งสินค้าทั่วไปตามความต้องการของลูกค้า ซึ่งครอบคลุมทั้งการขนส่งทางอากาศและทางทะเล การจัดการสินค้าอันตรายและบริการด้านคลังสินค้า

เมื่อไม่นานมานี้ Dextra Transport ได้ถูกเข้าซื้อกิจการโดย FRACHT Group บริษัทโลจิสติกส์ระดับนานาชาติที่มีสำนักงานในที่ตั้งยุทธศาสตร์สำคัญทั่วโลก ประกอบด้วยสำนักงานสาขากว่า 140 แห่งใน 50 ประเทศ ครอบคลุมทุกทวีปทั่วโลก โดย FRACHT Group ก่อตั้งขึ้นในเมือง Basel ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อปี 1955 และมุ่งให้บริการนวัตกรรมโซลูชันโลจิสติกส์ที่ทันสมัย ครบวงจร และออกแบบตามความต้องการของลูกค้าเพื่อมอบมูลค่าเพิ่มที่มีความคุ้มค่าแก่ลูกค้า

โดยบริการด้านการจัดการสินค้าโครงการและสินค้าที่มีขนาดใหญ่และน้ำหนักมากของ FRACHT Group นั้นครอบคลุมโซลูซันต่างๆ ในอุตสาหกรรมพลังงานไฟฟ้า พาหนะขับเคลื่อนบนราง น้ำมันและก๊าซ เหมืองแร่โลหะ พลังงานทางเลือก งานวิศวกรรมโยธาและอุตสาหการ และอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์

ด้วยปรัชญาการทำงานที่มีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง FRACHT Group จึงมุ่งมั่นในการให้บริการที่ตอบสนองความต้องการเฉพาะของลูกค้าแต่ละราย นอกจากนี้ ภายใต้สภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเช่นในปัจจุบัน การบูรณาการวัฒนธรรมที่เน้นความคล่องตัวและความยืดหยุ่นภายในกลุ่มบริษัทจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

Mr. Frederic Pagniez กรรมการผู้จัดการ บริษัท Dextra Industry and Transport

LM มีโอกาสได้พูดคุยกับ Mr. Frederic Pagniez กรรมการผู้จัดการ บริษัท Dextra Industry and Transport ซึ่งร่วมงานกับบริษัทมาอย่างยาวนานกว่าสามทศวรรษ โดยเขาได้เปิดเผยถึงวิธีการที่บริษัทใช้ในการสั่งสมความเชี่ยวชาญจากศูนย์กลางการปฏิบัติการในกรุงเทพฯ  ตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา ในฐานะผู้ให้บริการตัวแทนรับจัดการขนส่งสินค้าจากและไปยังปลายทางทั่วภูมิภาคเอเชียบริการด้านวิศวกรรม ไปจนถึงการประสานงานเพื่อส่งมอบสินค้าขนาดใหญ่พิเศษจนถึงที่ตั้งของลูกค้าในแบบ door-to-door อีกทั้งยังมีบริการอื่นๆสำหรับภาคอุตสาหกรรม อาทิ การติดตั้ง รื้อถอนและโยกย้ายที่ตั้งอุปกรณ์การผลิตขนาดใหญ่อีกด้วย

“สิ่งสำคัญที่สุดในการปรับตัวให้เข้ากับความท้าทายและโอกาสใหม่ๆ คือการเข้าไปมีส่วนร่วมกับโครงการให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อคอยสังเกตสัญญาณของความเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้น และปรับตัวให้สอดรับกับสถานการณ์อย่างคล่องแคล่วและยึดหยุ่น ในการนำเสนอโครงการให้กับลูกค้า ซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่ขั้นตอนการประมูลโครงการ เราจะพยายามนำเสนอแผนรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินให้กับลูกค้า เพื่อลดความเสี่ยงของปัญหาที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่คาดฝัน ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับปัญหาด้านการเมืองหรือสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ โครงสร้างการจัดการที่เรียบง่ายของเรายังช่วยสนับสนุนการตัดสินใจที่รวดเร็วและมีความยืดหยุ่น ซึ่งความเป็นองค์กรที่มีความยืดหยุ่นและคล่องตัวนี้เองที่ช่วยให้เราสามารถปรับตัวเข้ากับสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างรวดเร็ว” Mr. Pagniez กล่าว

Forwarding Solutions

ตลอด 31 ปีที่ดำเนินธุรกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก Dextra Transport ได้มอบโซลูชันที่ชาญฉลาดในการขนส่งสินค้าที่มีขนาดใหญ่พิเศษผ่านแนวทางที่สร้างสรรค์และการคิดนอกกรอบเดิมๆ มาโดยตลอด ด้วยศักยภาพในการจัดการกับโครงการที่มีความท้าทาย บริษัทฯ จึงได้รับความไว้วางใจให้เป็นผู้ขนย้ายส่วนประกอบขนาดใหญ่สำหรับโรงไฟฟ้า โรงงานปิโตรเลียม รวมไปถึงโครงการต่างๆ สำหรับอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซอย่างต่อเนื่อง

“เราเริ่มต้นดำเนินการในประเทศไทยโดยการทำงานร่วมกับบริษัทในเครือที่ Paris ประเทศฝรั่งเศส ชื่อ CP Trans ในเวลานั้น ซึ่ง Alstom ลูกค้าของเราได้มอบหมายให้เราดูแลโครงการนำส่งโรงไฟฟ้าในแบบ door-to door เมื่อปี 1993 ซึ่งในขณะนั้นถือเป็นหนึ่งในโรงไฟฟ้าเอกชนแห่งแรกของประเทศไทย” Mr. Pagniez กล่าว “โรงไฟฟ้านั้นประกอบด้วยชิ้นส่วนขนาดใหญ่จำนวนมากตัวอย่างเช่น กังหัน เครื่องกำเนิดไฟฟ้า, HRSG, หม้อแปลง และอีกมากมาย ทั้งยังมีท่อส่งก๊าซและของเหลวต่างๆ อีกจำนวนมาก ซึ่งชิ้นส่วนเหล่านี้ล้วนเป็นเครื่องจักรที่มีความซับซ้อน ดังนั้น บริษัทในเครือกลุ่มบริษัทของเราจึงได้รับมอบหมายหน้าที่ให้ขนส่งชิ้นส่วนขนาดใหญ่เหล่านี้”

ผลจากโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าในประเทศไทยในช่วงเวลาดังกล่าว ช่วยสนับสนุนให้ประเทศมีการพัฒนารุดหน้าอย่างรวดเร็วจากพลังขับเคลื่อนของอุตสาหกรรมเกิดใหม่ต่างๆ ในรูปแบบที่คล้ายคลึงกัน ขณะเดียวกัน Dextra Transport ก็มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดและมีส่วนร่วมในโครงการพัฒนาที่สำคัญหลายร้อยโครงการที่ต้องการปฏิบัติการขนส่งแบบ door-to-door รวมถึงโครงการโยกย้ายที่ตั้งทางอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ซึ่งทำให้บริษัทมีโอกาสได้สั่งสมประสบการณ์ในระดับโลกที่หาได้ยาก และพัฒนาความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมให้มีความแข็งแกร่งผ่านเครือข่ายพันธมิตร

“เราตระหนักดีว่าโครงการอุตสาหกรรมในปัจจุบันนั้นมีความท้าทายมากขึ้นกว่าที่ผ่านมา ทั้งด้วยขนาดที่ใหญ่ขึ้นและน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น กระบวนการผลิตที่ได้ปริมาณผลผลิตมากขึ้น คุณภาพที่ดีขึ้น และตารางการปฏิบัติงานที่เข้มงวดยิ่งขึ้น และนี่ก็คือเหตุผลที่เรามุ่งเน้นเฉพาะการมอบโซลูชันการขนส่งแบบ door to-door เพื่อให้สามารถส่งมอบโครงการของลูกค้าได้เร็วขึ้น และปลอดภัยยิ่งขึ้นโดยไม่มีการประนีประนอมต่อเงื่อนไขหรืออุปสรรคใดๆ” Mr Pagniez กล่าว

Engineered Transport Solutions

เพื่อสนับสนุนกิจกรรมของบริษัทและเพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานความปลอดภัยในปัจจุบัน Dextra Transport ได้จ้างทีมวิศวกรที่สามารถให้บริการได้อย่างหลากหลาย ซึ่งไม่จำกัดเพียงการศึกษาความเป็นไปได้เท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึงการจัดเตรียมเอกสารแนะนำวิธีการทำงาน การคำนวณและออกแบบระบบยึดโยงโครงสร้างบนระวางเรือขณะเคลื่อนย้ายในทะเล การสำรวจถนนการวางแผนขั้นตอนการปฏิบัติงาน การเขียนแบบร่างการกำหนดค่าการขนส่งสินค้าขนาดใหญ่และน้ำหนักมาก ตลอดจนการดำเนินกระบวนการยกขนและจัดการสินค้า

“เมื่อลูกค้าของเราต้องการเคลื่อนย้ายสินค้าที่มีน้ำหนักมาก เราจะใช้เครนที่มีพิกัดยกมากกว่า 1,000 ตันและระบบโครงสร้างเสริมที่ปรับแต่งได้เพื่อกำหนดค่าการยกที่ปลอดภัยที่สุด ตัวอย่างเช่นในการเคลื่อนย้ายสินค้าที่มีน้ำหนักมากเป็นพิเศษ ซึ่งเป็นกิจกรรมปกติสำหรับอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซ เช่น โครงสร้างส่วนล่างของแท่นขุดเจาะ แท่นขุดเจาะนอกชายฝั่ง และเรือผลิตและกักเก็บปิโตรเลียม (FPSO) ซึ่งในกรณีเหล่านี้ เราจะมอบบริการแบบครบวงจรให้แก่ลูกค้า ซึ่งเริ่มตั้งแต่การชั่งน้ำหนัก การขนส่ง การจอดเรือ และการปรับสมดุลเพื่อบรรทุกสินค้าขึ้นบนดาดฟ้าเรือ การยึดโยงโครงสร้างสินค้าบนระวางเรือ รวมถึงการขนส่งทางทะเล” Mr. Pagniez กล่าว

สำหรับสินค้าโครงการที่มีการขนส่งทางทะเล Dextra Transport จะเช่าเหมาลำเรือที่มีความเหมาะสมสำหรับการปฏิบัติการ อาทิ เรือบาร์จ เรือที่ขับเคลื่อนด้วยตัวเอง เรือติดตั้งอุปกรณ์ยกขนในตัว หรือเรือกึ่งดำน้ำ หลังจากนั้น ฝ่ายวิศวกรรมของ Dextra Transport จะจัดเตรียมบันทึกการคำนวณที่ครอบคลุม เอกสารแนะนำวิธีการทำงาน การประเมินความเสี่ยง รวมถึงเอกสารต่างๆ ตามที่กำหนดโดยผู้ตรวจสำรวจเรือสากลเพื่อการประกันภัย และมาตรฐานของอุตสาหกรรม

ในด้านการขนส่งทางบก Dextra Transport สามารถจัดเตรียมรถพ่วงบรรทุกพื้นเรียบไม่มีกระบะข้างหรือรถพ่วงชานต่ำ หรืออุปกรณ์ไฮดรอลิก เช่น รถพ่วงโมดูลาร์ขับเคลื่อนด้วยตัวเอง (SPMT) พร้อมกับการคำนวณการผูกรัด รถนำขบวน การขออนุญาตขนส่ง และการจัดผู้ควบคุมคอยติดตามการปฏิบัติการ อย่างไรก็ตาม กรณีที่มีกรอบระยะเวลาการส่งมอบที่จำกัด บริษัทฯ สามารถจัดสรรโซลูชันการขนส่งสินค้าทางอากาศเพื่อนำส่งสินค้าสู่ปลายทางอย่างมีประสิทธิภาพจากที่ใดก็ได้ในโลก ผ่านฝูงเครื่องบินเช่าเหมาล้ำหลากหลายขนาดเพื่อให้สอดคล้องตามความต้องการสำหรับโครงการของลูกค้า

General Cargo

Dextra Transport ในฐานะส่วนหนึ่งของเครือข่ายทั่วโลกของ FRACHT Group ให้บริการจัดส่งสินค้าแบบ door-to-door สำหรับผลิตภัณฑ์ต่างๆ รวมถึงสินค้าประเภทของสดเสียง่าย วัตถุดิบ สินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าแช่แข็งและสินค้าควบคุมอุณหภูมิ ยารักษาโรค และสินค้าอื่นๆ อีกมากมาย

“จากศูนย์กลางการปฏิบัติการของเราในกรุงเทพฯ และสำนักงานสาขาในเวียดนาม Dextra Transport สามารถนำส่งสินค้าแบบ door-to-door ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยครอบคลุมประเทศไทย กัมพูชา ลาว มาเลเซีย สิงคโปร์ เมียนมาร์ เวียดนาม และจีน ซึ่งทำให้เรากลายเป็นผู้ให้บริการขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนที่มีความน่าเชื่อถือ” Mr. Pagniez กล่าว “สำหรับบริการขนส่งสินค้าทางทะเล เราสามารถขนส่งได้ทั้งสินค้าบรรจุตู้สินค้าสินค้าวางกองและสินค้าเทกอง นอกจากนี้ เรายังสามารถเข้าถึงเรือในที่ตั้งต่างๆ หลายร้อยแห่งในแต่ละวัน ทำให้เราสามารถคัดสรรเรือที่เหมาะสมที่สุดพร้อมกำหนดตารางการปฏิบัติการที่ถูกต้องได้ และด้วยเครือข่ายที่ครอบคลุมทั่วโลกของเราเรายังสามารถบริหารจัดการขนส่งตู้สินค้าและสินค้าวางกองทางบกจากที่ตั้งแห่งหนึ่งไปยังท่าเรือหรือในทางกลับกันได้อีกด้วย”

นอกจากนี้ Dextra Transport ยังมีตัวเลือกการขนส่งสินค้าทางอากาศที่หลากหลายสำหรับสินค้าทั่วไป โดยมีเส้นทางการปฏิบัติการที่ครอบคลุมทุกทวีป และสามารถรองรับปริมาณสินค้าตั้งแต่ไม่กี่กิโลกรัมไปจนถึงมากกว่า 100 ตัน รวมไปถึงสินค้าอันตราย ไม่เว้นแม้กระทั่งวัตถุกัมมันตภาพรังสีประเภทที่ 7 ด้วย

ยิ่งไปกว่านั้น Dextra Transport ยังสามารถให้บริการด้านคลังสินค้าทั้งในร่มและกลางแจ้งรวมไปถึงคลังสินค้าทัณฑ์บนแก่ลูกค้า โดยภายในห้องเก็บสินค้ายังมีอุปกรณ์ยกขนสินค้าประเภทต่างๆ อาทิ เครนเหนือศีรษะ และรถฟอร์คลิฟต์ อีกด้วย

Industrial Services

บริการที่สำคัญอีกอย่างของ Dextra Transport คือการให้บริการเคลื่อนย้ายอุปกรณ์เครื่องจักรอุตสาหกรรมและการย้ายที่ตั้งโรงงาน ด้วยทีมงานมืออาชีพที่มากประสบการณ์ บริษัทฯ สามารถคัดกรอง รื้อถอน และบรรจุหีบห่ออุปกรณ์เครื่องจักรสำหรับโรงงานทั้งหมด ก่อนที่จะนำส่งไปยังปลายทางพร้อมประกอบขึ้นใหม่ในสภาพสมบูรณ์

“Dextra มีองค์ความรู้เชิงลึกและประสบการณ์ในการแยกชิ้นส่วนอุปกรณ์หนักในสภาพแวดล้อมอุตสาหกรรม เราใช้เทคโนโลยีล่าสุดในการวางแผนประสานงานเพื่อดำเนินการเพื่อถอดชิ้นส่วนอุปกรณ์และเครื่องจักรทั้งหมด และนำออกจากสถานที่ติดตั้งเดิมของคุณอย่างราบรื่น โดยส่งผลกระทบต่อตารางการผลิตน้อยที่สุด” Mr. Pagniez กล่าว

นอกจากนี้ Dextra Transport ยังสามารถประสานงานด้านการบรรจุอุปกรณ์และเครื่องจักรทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการบรรจุในลังหรือการขนส่งในรูปแบบอื่นๆ ตามความเหมาะสมของสภาพสินค้า เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้าจะสามารถขนส่งทางทะเลหรือทางอากาศได้ตลอดเส้นการเดินทางจนถึงจุดหมายปลายทาง

Expert Solutions for Project & General Cargo

ปัจจุบัน Dextra Transport มีบุคลากรกว่า 60 คน ในประเทศไทยและเวียดนามรวมกัน ซึ่งสามารถให้บริการครอบคลุมทั่วโลกผ่านเครื่อข่ายของ FRACHT Group ด้วยความเชี่ยวชาญด้านการขนส่งแบบ door-to-door บริษัทฯ จึงเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุดในตลาด เมื่อพิจารณาโดยใช้ปัจจัยด้านความเชี่ยวชาญเชิงลึกและคุณภาพการดำเนินการเป็นหลัก

ทั้งนี้ ในประเทศไทย Dextra Transport ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 9001 และ ISO 14000 และในปี 2022 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ยังได้รับความไว้วางใจให้ดำเนินโครงการขนส่งที่สำคัญหลายโครงการ รวมถึงการปฏิบัติการขนส่งสินค้าจำนวน 73 โมดูล จากประเทศไทยไปยังสิงคโปร์ผ่านการขนส่งทางทะเล โดยมีขนาดสินค้าตั้งแต่ 100mT จนถึง 4,500mT และได้ดำเนินการจัดส่งโดยแยกเป็น 20 ซิปเมนท์ มีขอบเขตการทำงานครอบคลุมทั้งด้านวิศวกรรมระบบยึดโยงโครงสร้างบนระวางเรือขณะเคลื่อนย้ายในทะเล และการติดตามดูแลการดำเนินงานยกขนสินค้าขึ้นและลงจากเรื่ออย่างใกล้ชิดทั้งที่ท่าเรือต้นทางและปลายทาง ในขณะเดียวกัน Dextra Transport ยังเป็นผู้รับผิดชอบขนส่งสินค้าหนักและสินค้าขนาดใหญ่พิเศษอีก 36 รายการ สำหรับลูกค้ารายอื่นๆ ในประเทศไทยอีกด้วย

ด้วยความรู้และความชำนาญในตลาดท้องถิ่น Dextra Transport จึงมีความมั่นใจในการนำเสนอโซลูซันการขนส่งที่ไม่เหมือนใครให้กับลูกค้าเมื่อมีคำขอใบเสนอราคา (RFQ) โดยสามารถช่วยลูกค้าประหยัดต้นทุน ลดความยุ่งยากของกระบวนการขนถ่ายสินค้า และจำกัดความเสี่ยงให้กับลูกค้าลงได้อย่างมาก ซึ่งการปรับใช้แนวความคิดแบบ ‘นอกกรอบ’ และแนวทางการทำงานที่เน้นการสร้างสรรค์ บวกกับพื้นฐานด้านเทคนิคที่แข็งแกร่ง ล้วนเป็นกุญแจสำคัญในการดำเนินการโครงการที่ประสบความสำเร็จและสร้างความพึงพอใจของลูกค้า


อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Logistics Mananger เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Logistics Manager หรือคลิกที่นี่

บทความก่อนหน้านี้SITC จัดพิธีตั้งชื่อเรือและรับมอบเรือ M/V SITC FENGHE
บทความถัดไปHMM ลงนาม MoU ร่วมกับ GS Caltex มุ่งสร้างหลักประกันด้านเชื้อเพลิงชีวภาพในการเดินเรือ