บริษัท Sino Logistics Corporation เดินหน้าขยายธุรกิจการให้บริการคลังสินค้า เปิดตัวคลังสินค้าปลอดอากร (Free Zone Warehouse) แห่งใหม่ใกล้ท่าเรือแหลมฉบัง มุ่งสนับสนุนความต้องการของกลุ่มลูกค้าผู้นำเข้า-ส่งออกที่มีปริมาณเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยโซลูชันจัดเก็บสินค้าที่มีประสิทธิภาพ พร้อมสิทธิประโยชน์ด้านภาษีอากร
ภายหลังความสำเร็จจากการเปิดตัวคลังสินค้าทั่วไปแห่งแรก ซึ่งได้รับกระแสตอบเป็นอย่างดียิ่งจากกลุ่มลูกค้า ล่าสุด Sino Logistics Corporation (Sino Logistics) ได้เปิดทำการคลังสินค้าแห่งสองของบริษัทฯ อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยคลังสินค้าแห่งใหม่จะให้บริการในรูปแบบคลังสินค้าปลอดอากรที่พร้อมรองรับสินค้าทั่วไปหลากประเภท บนทำเลทองใกล้แหล่งนำเข้า-ส่งออกหลังของประเทศอย่างท่าเรือแหลมฉบัง ปฏิบัติการโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญมากประสบการณ์ ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของคลังสินค้าแห่งแรกของ Sino Logistics
นิตยสาร LM ฉบับนี้ ได้มีโอกาสพูดคุยกับ คุณนันท์มนัส วิทยศักดิ์พันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และคุณฐิตาภัสร์ โรจน์ศิระอรุณ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายคลังสินค้า บริษัท Sino Logistics Corporation เกี่ยวกับเบื้องหลังและเป้าหมายในการเปิดตัวคลังสินค้าแห่งใหม่ พร้อมเผยถึงกลยุทธ์และแผนการขยายธุรกิจของบริษัทฯ ในอนาคตอันใกล้นี้
Responding to Rising Needs
คลังสินค้าปลอดอากรเป็นพื้นที่สำหรับการใช้จัดเก็บสินค้าที่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางอากรศุลกากร ซึ่งช่วยให้ธุรกิจสามารถควบคุมต้นทุนในการจัดเก็บสินค้าคงคลังเพื่อวัตถุประสงค์ที่หลากหลาย อาทิ การพักสินค้าก่อนนำออกจำหน่าย การผลิต หรือการนำเข้ามามาในราชอาณาจักรเพื่อส่งออกต่อไปยังประเทศปลายทาง ในเขตพื้นที่ที่มอบสิทธิประโยชน์ทางภาษีและอำนวยความสะดวกในการค้าระหว่างประเทศ
ภายใต้ความมุ่งมั่นมอบโซลูชันด้านโลจิสติกส์ได้แก่ลูกค้าอย่างครบวงจร Sino Logistics เดินหน้าศึกษาความต้องการตลาดและพัฒนาขอบข่ายการให้บริการอย่างต่อเนื่อง ด้วยเหตุนี้ บริษัทฯ จึงจัดตั้งคลังสินค้าปลอดอากร เพื่อสนับสนุนกลุ่มลูกค้าผู้นำเข้า-ส่งออกที่ต้องใช้สิทธิประโยชน์ทางอากรศุลกากร ด้วยบริการคลังสินค้าที่จะช่วยยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของซัพพลายเชนธุรกิจของลูกค้า พร้อมควบคุมต้นทุนทางธุรกิจด้านอากรศุลกากร
คุณนันท์มนัสเล่าถึงเบื้องหลังการเปิดตัวคลังสินค้าปลอดอากรแห่งใหม่ว่า “หลังจากความสำเร็จจากการเปิดตัวคลังสินค้าทั่วไปแห่งแรก ซึ่งมีลูกค้าจำนวนมากสอบถามเข้ามาถึงทางเลือกบริการคลังสินค้าแบบปลอดอากร จากเสียงตอบรับเหล่านี้ ทาง Sino Logistics ก็ได้เล็งเห็นถึงโอกาสที่จะสนับสนุนความต้องการดังกล่าวของลูกค้า จึงได้ตัดสินใจทำสัญญาจัดตั้งคลังสินค้าเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งแห่งในบริเวณใกล้กับคลังแห่งแรกในพื้นที่แหลมฉบัง และพัฒนาคลังแห่งใหม่ให้เป็นคลังสินค้าปลอดอากร เพื่อเพิ่มทางเลือกบริการให้มีความครอบคลุมยิ่งขึ้น”
สำหรับคลังสินค้าปลอดอากรแห่งใหม่ของ Sino Logistics มีขนาดรวม 9,890 ตร.ม. ตั้งอยู่บนพื้นที่กลยุทธ์ซึ่งอยู่ห่างจากท่าเรือแหลมฉบังเพียงหนึ่งกิโลเมตร จึงมอบข้อได้เปรียบด้านความสะดวกของการเดินทางสำหรับผู้นำเข้า-ส่งออกสินค้าทางทะเลผ่านท่าเรือแหลมฉบัง พร้อมทั้งยังมีช่องโหลดสินค้าถึง 10 ช่อง เพื่อความสะดวกในการปฏิบัติการโหลดสินค้าพร้อมกันหลายตู้ และมีพื้นที่เฉพาะในบริเวณหน้าคลัง ซึ่งสามารถจอดรถบรรทุกสูงสุดได้ถึง 25 คัน นอกจากนี้ เพื่อขยายขีดความสามารถในการจัดเก็บสินค้า บริษัทฯ ยังมีแผนติดตั้งชั้นวางสินค้าในอนาคตด้วย โดยปัจจุบันกำลังอยู่ในขั้นตอนศึกษาความต้องการของตลาดว่าสเปคชั้นวางสินค้าลักษณะใดที่เหมาะสมสำหรับความต้องการของลูกค้ามากที่สุด ด้วยตำแหน่งเชิงกลยุทธ์และโครงสร้างพื้นฐานที่ครบครัน คลังสินค้าปลอดอากรแห่งใหม่นี้มีความพร้อมเป็นอย่างยิ่งที่จะเข้ามาเสริมแกร่งประสิทธิภาพการดำเนินงานด้านโลจิสติกส์ให้แก่ลูกค้าหลากหลายอุตสาหกรรม
Committed to Excellence
Sino Logistics มุ่งมั่นที่จะส่งมอบคุณภาพบริการสูงสุดให้แก่ลูกค้า โดยบริษัทฯ เชื่อว่าบริการที่มีคุณภาพเป็นเลิศนั้นประกอบไปด้วยปัจจัยที่หลากหลาย อาทิ การปฏิบัติตามกฎข้อบังคับและมาตรฐาน การจัดลำดับความสำคัญด้านความปลอดภัย การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีที่ทันสมัย และการจ้างบุคลากรที่มีทักษะสูงและเป็นมืออาชีพ ซึ่งมาตรการเหล่านี้ล้วนช่วยให้ Sino Logistics สามารถสนับสนุนลูกค้าได้อย่างสมบูรณ์ตรงจุดและเกินความคาดหมาย
ในด้านการปฏิบัติตามกฎหมาย ข้อบังคับ และมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง คุณฐิตาภัสร์เผยว่า “คลังสินค้าของเราปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ข้อบังคับของกรมศุลกากรอย่างเคร่งครัด โดยทุกครั้งที่มีการนำสินค้าเข้ามาเก็บที่คลัง บริษัทฯ จะมีการตรวจสอบอย่างละเอียดว่าสินค้าดังกล่าวเป็นสินค้าที่สามารถนำเข้าเก็บหรือใช้สิทธิพิเศษด้านภาษีอากรได้หรือไม่ และจะดำเนินการจัดเก็บสินค้าเข้าคลังภายหลังจากที่ได้รับการยืนยันจากทางกรมศุลกากรแล้วเท่านั้น นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีการอัปเดตข้อมูลการเคลื่อนไหวเข้า-ออกของสินค้าประเภทต่างๆ ในคลังเป็นประจำทุกวัน ทุกสัปดาห์ และทุกเดือน เพื่อให้กระทบยอดกับทางศุลกากรได้อย่างถูกต้องตรงกันและชัดเจนที่สุด”
“ในด้านมาตรการความปลอดภัย Sino Logistics ได้มีการคัดเลือกบริษัทด้านความปลอดภัยที่มีคุณภาพสูงเป็นลำดับต้นๆ ของประเทศเป็นผู้ดูแลรักษาความปลอดภัย อีกทั้งยังมีการติดตั้งกล้อง CCTV ที่ทำงานตลอด 24 ชั่วโมงมากกว่า 30 ตัว โดยจะมีการเก็บข้อมูลในฐานข้อมูลเป็นระยะเวลา 90 วัน เพื่อเป็นข้อมูลสำรองสำหรับการตรวจสอบภาพย้อนหลังได้หากจำเป็น ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดใดๆ”
“เพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพกระบวนการทำงาน Sino Logistics ยังได้มีการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยอื่นๆ เข้ามาปรับใช้ในการดำเนินการ ยกตัวอย่างเช่น การติดตั้งซอฟท์แวร์ Warehouse Management System (WMS) ซึ่งคำนึงถึงทั้งการจัดการคลังสินค้าทั่วไปและการจัดการคลังสินค้าปลอดอากรโดยเฉพาะ อีกทั้งจะยังมีระบบส่งต่อข้อมูลไปยังทางกรมศุลกากรได้โดยอัตโนมัติ เพื่อความรวดเร็วยิ่งขึ้นสำหรับลูกค้า นอกจากนี้ ยังมีการติดตั้ง ‘Automatic Dock Leveler’ หรือ ‘เครื่องปรับระดับช่องโหลดสินค้าอัตโนมัติ’ เพื่อช่วยให้รถฟอร์คลิฟท์สามารถปฏิบัติการขนยกสินค้าได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย” คุณฐิตาภัสร์ กล่าว
นอกจากนี้ คุณนันท์มนัสยังได้เปิดเผยถึงปัจจัยเบื้องหลังความเป็นเลิศทางบริการที่สำคัญที่สุดสำหรับ Sino Logistics นั่นก็คือทีมงานบุคลากรมากความสามารถและเปี่ยมด้วยประสบการณ์ “จุดแข็งที่โดดเด่นที่ของบริการของเราคือทีมงานที่พร้อมทำงานร่วมกับลูกค้าอย่างใกล้ชิด เพื่อเรียนรู้และเข้าใจถึงความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า และนำเสนอโซลูชันที่ตอบโจทย์ข้อกำหนดทางธุรกิจของลูกค้าได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพ”
“โดยทีมงานบริหารคลังสินค้าแห่งใหม่ของเราจะเป็นทีมงานชุดเดียวกันกับทีมงานที่ดูแลคลังสินค้าทั่วไป ซึ่งเป็นบุคลากรที่มีประสบการณ์ที่ได้การคัดสรรมาอย่างเข้มงวดเพื่อการบริหารคลังสินค้าที่มีประสิทธิภาพ ด้วยเหตุนี้ ลูกค้าของเราจึงสามารถอุ่นใจได้เลยว่าพวกเขาจะได้รับบริการที่เป็นมืออาชีพและมีคุณภาพสูงเป็นระดับต้นๆ ในอุตสาหกรรมฯ เช่นเดียวกันกับคลังสินค้าแห่งแรก การันตีจากเสียงความพึงพอใจจากลูกค้าที่ใช้บริการคลังสินค้าของ Sino Logistics ทั้งในด้านการดำเนินการจัดเก็บสินค้า การจัดขนส่ง และการโหลดสินค้า ที่ตรงตามข้อกำหนดการดำเนินการของลูกค้าทุกประการ” คุณนันท์มนัส กล่าว
Cross Dock Center
อีกหนึ่งจุดเด่นของคลังปลอดอากรแห่งใหม่คือศักยภาพในการเป็นศูนย์กลางการกระจายสินค้าแบบ Cross Dock สำหรับสินค้าที่ข้ามแดนเข้ามาทางรถ โดยสามารถเข้ามาพักที่คลังแห่งนี้ได้ พร้อมทั้งยังสามารถใช้ประโยชน์จากเครือข่ายบริการที่ครอบคลุมของ Sino Logistics ที่พร้อมให้คำปรึกษาในการทำเรื่องดำเนินการเอกสารสำหรับการส่งออกต่อไปได้ด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ คลังปลอดอากรยังมีพื้นที่ด้านนอกที่สามารถให้บริการที่จอดรถ ซึ่งเหมาะสำหรับลูกค้าที่ต้องการนำสินค้าเข้าไปยังเขตปลอดอากร แต่ยังดำเนินการเอกสารไม่สมบูรณ์ขณะที่สินค้าได้มาถึงแล้ว โดยสามารถนำรถเข้ามาจอดรอระหว่างดำเนินการเอกสารได้ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดความเสียหายต่อสินค้าที่อาจเกิดขึ้น ในกรณีที่นำรถและตู้สินค้าไปพักไว้ที่อื่น
“กลยุทธ์การดำเนินการคลังสินค้าปลอดอากรแห่งใหม่ของเรา คือถ้าหากเรามีลูกค้าในต่างประเทศที่ต้องการนำเข้าสินค้าเข้ามายังประเทศไทย เราก็จะใช้คลังสินค้าแห่งนี้เป็นคลังสินค้าหลักในการรับสินค้าเข้ามาภายในประเทศ และสำหรับลูกค้าที่ต้องการส่งออกไปยังต่างประเทศ ก็จะใช้คลังสินค้าแห่งนี้เป็นคลังสินค้าหลักเช่นกัน โดยหน่วยธุรกิจคลังสินค้าของ Sino Logistics ไม่เพียงแต่มุ่งมั่นให้บริการจัดเก็บสินค้าเท่านั้น แต่ยังพร้อมทำงานร่วมกับลูกค้าอย่างใกล้ชิด เพื่อสร้างสรรค์โซลูชันโลจิสติกส์ครบวงจรที่ตอบสนองความต้องการที่เฉพาะของลูกค้าได้โดยแท้จริง” คุณฐิตาภัสร์ กล่าว
Brand-new Weighing Scale
สำหรับลูกค้าที่ต้องการชั่งน้ำหนักตู้สินค้าอย่างสะดวกและรวดเร็ว เมื่อไม่นานมานี้ Sino Logistics ได้เปิดตัวบริการตาชั่งตู้สินค้าที่คลังสินค้าทั่วไปแห่งแรกใกล้ท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งเปิดให้ลูกค้าสามารถเข้าใช้บริการได้ในราคามิตรภาพ โดยเป็นตาชั่งมาตรฐานที่ได้รับการรับรองจากกรมการค้าภายใน จึงการันตีได้ถึงมารตฐานความถูกต้องของข้อมูล และสามารถออกใบรับรองน้ำหนักได้อย่างถูกต้องตามกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง
“ปัจจุบัน คลังสินค้าที่มีตาชั่งในบริเวณท่าเรือแหลมฉบังมีจำนวนน้อยมาก เนื่องจากส่วนมากตาชั่งมักจะเน้นติดตั้งเขตท่าเรือเป็นหลัก เราจึงเล็งเห็นถึงโอกาสที่จะเข้ามาเต็มเติมความต้องการเหล่านี้ เพราะคลังสินค้าของเราตั้งอยู่ในบริเวณที่ไม่ประสบปัญหารถติดมาก ทำให้เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับลูกค้าที่ต้องการชั่งน้ำหนักตู้สินค้าให้เรียบร้อยก่อนนำสินค้าไปส่งที่ท่าเรือ เพื่อลดเวลาปฏิบัติการ” คุณนันท์มนัส กล่าว
Looking Forward
สำหรับแผนการขยายหน่วยธุรกิจคลังสินค้า คุณนันท์มนัส เผยว่า คลังสินค้าทั่วไปแห่งแรกและคลังสินค้าปลอดอากรจะถือเป็นคลังสินค้าศูนย์กลางหลักสองแห่งที่จะรองรับตอบสนองความต้องการจัดเก็บสินค้าสำหรับกลุ่มลูกค้าขนส่งทางเรือ อย่างไรก็ตาม ในอนาคตกันใกล้นี้ Sino Logistics ก็ยังมีแผนเปิดตัวคลังสินค้าทั่วไปเพิ่มเติมอีกหนึ่งแห่ง ซึ่งปัจจุบันกำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาคัดเลือกสถานที่ โดยคาดว่าจะตั้งอยู่ในพื้นที่กิ่งแก้ว-ลาดกระบัง หรือแหลมฉบัง
นอกจากนี้ คุณนันท์มนัส ยังได้เปิดเผยถึงแผนการเปิดตัวคลังสินค้าใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อสนับสนุนความต้องการของลูกค้าบริษัท ‘SNC Cargo Services’ ซึ่งเป็นบริษัทใหม่ในเครือ Sino Logistics ที่มุ่งเน้นให้บริการโซลูชันขนส่งสินค้าทางอากาศอย่างครบวงจร
ในด้านภาพรวมการดำเนินการธุรกิจของ Sino Logistics คุณนันท์มนัสกล่าวว่า “เรามีเป้าหมายการขยายธุรกิจที่ชัดเจน นั่นก็คือการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ โดยมีแผนจัดตั้งบริษัทลูกทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เริ่มต้นจากประเทศมาเลเซีย เวียดนาม และอินโดนีเซีย ซึ่งคาดว่าจะจัดตั้งสำเร็จภายในปีนี้”
“Sino Logistics เชื่อว่าโลจิสติกส์เป็นต้นทุนที่สำคัญต่อความสามารถในการแข่งขันและความสำเร็จทางธุรกิจ เราจึงมุ่งมั่นดำเนินการในฐานะพันธมิตรทางธุรกิจ ผ่านโซลูชันโลจิสติกส์ที่ตอบโจทย์ด้านต้นทุน เวลา และประสิทธิภาพ ด้วยความรู้และความเชี่ยวชาญของทีมงานและทรัพยากรทางธุรกิจที่เพียบพร้อม เพื่อเติบโตไปพร้อมๆ กับคู่ค้าของเราโดยแท้จริง เราเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าแผนงานเหล่านี้จะสามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุดและครอบคลุม ทั้งในประเทศและต่างประเทศ” คุณนันท์มนัสกล่าวปิดท้าย
อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Logistics Mananger เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Logistics Manager หรือคลิกที่นี่