สายการเดินเรือ Gold Star Line (GSL) เดินหน้าขยายธุรกิจบริการเรือบรรทุกสินค้ายานยนต์ (RoRo) โดยมีเครือข่ายบริการขนส่งสินค้าที่ครอบคลุม และการลงทุนเพิ่มในกองเรือใหม่ เพื่อรับรองความต้องการด้านการขนส่งสินค้าจากผู้ผลิตยานยนต์ทั่วโลก โดยในครั้งนี้ GSL ได้มุ่งเป้ารุกตลาดใหม่ๆ ในการให้บริการขนส่งโดยเรือขนส่งรถยนต์แบบเฉพาะ (PCC) และเรือขนส่งรถยนต์และรถบรรทุก (PCTC)
ด้วยประสบการณ์กว่าสองทศวรรษในอุตสาหกรรมการขนส่งสินค้ายานยนต์ GSL มีความเชี่ยวชาญในการขนส่งรถยนต์นั่งส่วนบุคคล รถบรรทุก รวมไปถึงสินค้าขนาดใหญ่และมีน้ำหนักมากที่มีมูลค่าสูง อีกทั้ง สายการเดินเรือฯ ยังมีทิศทางการเติบโตแบบก้าวกระโดดตลอดหลายปีที่ผ่านมา จากความทุ่มเทของทีมบริการลูกค้าและความเข้าใจในธรรมชาติของสินค้าที่มีความอ่อนไหวต่อระยะเวลาการขนส่ง ซึ่งสามารถช่วยนำพาองค์กรให้เจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ การขยายขนาดกองเรือ RoRo เพิ่มขึ้นเป็นสามเท่าในช่วงระหว่างปี 2020 ถึง 2021 ก็ยิ่งช่วยส่งเสริมให้ GSL พร้อมรองรับทุกความต้องการของลูกค้าได้ได้ดียิ่งขึ้น
GSL Drives into New Markets
ตลอดช่วง 20 ปี GSL สั่งสมชื่อเสียงและประสบการณ์ในตลาดประเทศอิสราเอล โดยให้บริการทั้งเรือ PCC และ PCTC จากประเทศผู้ผลิตยานยนต์ ชั้นนำอย่างเกาหลีและญี่ปุ่น สู่ท่าเรือ Eilat ของอิสราเอล และท่าเรือ Aqaba ของจอร์แดน ปัจจุบัน สายการเดินเรือฯ ตั้งเป้าหมายในการเปิดให้บริการเชื่อมต่อกับปลายทางใหม่ๆ ที่มีศักยภาพการเติบโต ซึ่งประกอบไปด้วย เส้นทางจากจีนไปยังประเทศแถบยุโรป ซึ่งจีนถือเป็นฐานสำคัญในการผลิตและส่งออกยานยนต์ระดับโลก รวมไปถึงการเพิ่มท่าเรือปลายทางในอเมริกาใต้ ออสเตรเลีย และพื้นที่ทะเลแดงของภูมิภาคแอฟริกาตะวันออกเข้าสู่เครือข่ายบริการ
เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว GSL ได้เพิ่มจำนวนเรือ RoRo เข้าสู่กองปฏิบัติการ จากสองลำในปี 2020 เป็นหกลำในปี 2021 โดยเรือขนาด 43,000 ลูกบาศก์เมตรเหล่านี้สามารถรองรับรถยนต์และรถบรรทุกได้ระหว่าง 3,200-4,200 คัน อย่างไรก็ตาม สิ่งที่หลายคนอาจยังไม่ทราบคือ GSL ยังสามารถให้บริการขนส่งเครื่องจักรทางการเกษตรขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นรถไถ เครื่องเก็บเกี่ยวนวด รวมไปถึงเครื่องจักรก่อสร้างขนาดใหญ่ เช่น รถขุด รถดันดิน และรถบดถนน นอกจากนี้ยังครอบคลุมถึงสินค้าโครงการต่างๆ อาทิ เครน ชิ้นส่วนสะพาน เครื่องกลั่นน้ำมัน หรือสินค้าขนาดใหญ่พิเศษอื่นๆ ที่ไม่สามารถขับเคลื่อนขึ้นและลงจากเรือได้ด้วยตัวเอง โดยใช้รถกึ่งพ่วงแบบแยกส่วน (SPMT) ในการยกขนสินค้า
ยิ่งไปกว่านั้น GSL ได้วางแผนขยายกองเรือ RoRo เป็น 10 ลำภายในปี 2022 และเล็งเห็นว่าประเทศไทยเป็นหนึ่งในตลาดสำคัญในอนาคต จากการเป็นผู้ส่งออกรถยนต์กว่า 1.2 ล้านคันในแต่ละปี แม้ว่าในปัจจุบันรถกระบะจะเป็นสัดส่วนหลักของการส่งออก ทว่าผู้ผลิตยานยนต์รายใหญ่จำนวนมาก อาทิ Ford, Honda, Toyota, Mitsubishi, Nissan, Mazda, MG, BMW และ Mercedes Benz ต่างก็มีโรงงานผลิตอะไหล่ และศูนย์ประกอบยานยนต์อยู่ในประเทศไทย และเมื่อแบรนด์ GSL เริ่มเป็นที่รู้จักในกลุ่มลูกค้า มากขึ้น สายการเดินเรือฯ ก็มีความตั้งใจที่จะผนวกประเทศไทยให้เป็นหนึ่งในเส้นทางบริการหลักของบริษัทฯ
Top-notch Services with a Global Network
นอกเหนือจากบริการขนส่งสินค้าด้วยเรือ RoRo แล้ว GSL ยังมีเครือข่ายสาขาครอบคลุมทั่วโลก ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดแข็งด้านบริการ ลูกค้าสามารถติดต่อกับสายการเดินเรือได้โดยตรงแบบไม่ผ่านบริษัทตัวแทน ซึ่งเป็นข้อแตกต่างที่โดดเด่นเหนือผู้ให้บริการรายอื่นๆ ลูกค้าสามารถตรวจสอบสถานะการขนส่งและได้รับข้อมูลที่ถูกต้องจากสายการเดินเรือโดยตรง ซึ่งทำการอัพเดตข้อมูลแบบเรียลไทม์
อีกหนึ่งขั้นตอนในการยืนยันความมั่นใจว่าสินค้าทั้งหมดได้รับการตรวจสอบอย่างพิถีพิถันก็คือ ขั้นตอนการตรวจสอบสินค้าตามสัญญาการขนส่ง ซึ่งรวมไปถึงการตรวจสอบด้านความปลอดภัยสำหรับการขนส่งสินค้า GSL ยังสามารถรับประกันการถ่ายลำและจัดส่งสินค้าถึงปลายทางได้อย่างปลอดภัย ปราศจากความเสียหาย GSL มีมาตรการตรวจสอบเพื่อให้มั่นใจว่าพนักงานทั้งหมดในแผนก RoRo ปฏิบัติงานได้ตรงตามมาตรฐานระดับสูงของอุตสาหกรรมฯ มีความรู้เฉพาะทาง และอุปกรณ์ที่เหมาะสมในการนำส่งรถยนต์ให้กับลูกค้าในสภาพที่สมบูรณ์ที่สุด โดยสายการเดินเรือฯ สามารถมอบหมายให้มีผู้กำกับดูแลการทำงานที่ท่าเรือตามความต้องการของลูกค้า เพื่อคอยตรวจสอบว่าพนักงานที่ขับรถขึ้นและลงจากเรือสวมใส่เครื่องแบบชนิดพิเศษที่ไม่มีกระดุมหรือซิป เพื่อป้องกันการเกิดร่องรอยขีดข่วนหรือรอยบุบต่างๆ
นอกจากกระบวนการในการขนส่งที่พิถีพิถันแล้ว GSL ยังมีจุดแข็งในการออกแบบโซลูชันการบริการขนาดย่อยและสามารถให้เช่าเหมาลำเรือ RoRo เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่มีความประสงค์เฉพาะ หรือในสถานการณ์พิเศษต่างๆ ได้ทันที ซึ่งก็ถือเป็นอีกหนึ่งจุดแข็งสำคัญที่นำสายการเดินเรือฯ สู่ความสำเร็จอย่างรวดเร็ว
ด้วยจำนวนเรือขนส่งสินค้าในการปฏิบัติการและปลายทางต่างๆ ที่กำลังขยายตัว ปัจจุบัน สายการเดินเรือฯ กำลังเดินหน้าขยายและพัฒนาทีมงานเพื่อเสริมความแข็งแกร่งของธุรกิจในเกาหลีและญี่ปุ่นซึ่งมีรากฐานที่มั่นคงอยู่แล้ว ในขณะเดียวกัน GSL ก็กำลังเฟ้นหาบุคลากรที่เหมาะสมที่มีพร้อมทั้งคุณสมบัติและประสบการณ์ในด้านการขนส่งยานยนต์ รวมไปถึงประสบการณ์ในธุรกิจการผลิตยานยนต์ในประเทศจีน ไทย สหราชอาณาจักร และเยอรมนี เพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าของสายการเดินเรือฯ ในกลุ่มประเทศเหล่านี้จะได้รับบริการที่ดีที่สุด
Consumer Spending on the Rise while Governments push for more Electric Vehicles
การใช้จ่ายของผู้บริโภคเป็นหนึ่งในตัวบ่งชี้สำคัญที่ GSL เฝ้าจับตามองอย่างใกล้ชิดมาตลอดในช่วงที่โลกเริ่มเข้าสู่ภาวะฟื้นฟูจากวิกฤต COVID-19 โดยสายการเดินเรือฯ พบว่าผู้บริโภคใช้จ่ายเงินกับการซื้อบริการต่างๆ น้อยลง และหันมาทุ่มเงินกับสินค้าโภคภัณฑ์อย่างรถยนต์เพิ่มมากขึ้น และคาดว่าแนวโน้มนี้จะกลายเป็นกำลังขับเคลื่อนสำคัญสำหรับการขยายตัวของธุรกิจการให้บริการเรือ RoRo เนื่องจากยอดขายยานยนต์ที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลให้ความ ต้องการด้านการขนส่งสู่ปลายทางต่างๆ สูงขึ้นตามไปด้วย
นอกจากนี้ กองเรือ RoRo ของ GSL ยังจะได้รับประโยชน์จากการที่รัฐบาลทั่วโลกต่างเร่งผลักดันกฎหมายควบคุมการปล่อยมลพิษของยานพาหนะ โดยมีเป้าหมายสำคัญคือการเปลี่ยนมาใช้ยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า (EV) ภายในหนึ่งถึงสองทศวรรษข้างหน้า ซึ่งจะทำให้ผู้ผลิตยานยนต์ต้องปรับเปลี่ยนมาให้ความสำคัญกับการผลิตยานยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น
โดยปัจจุบันรัฐบาลสหรัฐอเมริกาและหลายประเทศในยุโรปต่างกำลังเดินหน้าเพิ่มความรัดกุมของระเบียบด้านการปล่อยมลพิษ ซึ่งทาง GSL คาดว่าประเทศในภูมิภาคอื่นๆ ทั่วโลกก็จะดำเนินการไปในทิศทางเดียวกันในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ซึ่งจะก่อให้เกิดกระแสความต้องการด้านการขนส่งยานยนต์ครั้งใหญ่ จากการที่ยานพาหนะที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในค่อยๆ ถูกเปลี่ยนถ่ายออกจากระบบ และทดแทนด้วยยานยนต์ไฟฟ้า นอกจากนี้ สายการเดินเรือฯ เชื่อมั่นว่าประเทศจีนและประเทศไทยจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า จึงเร่งเข้ามาเปิดตลาดในทั้งสองประเทศเพื่อเตรียมพร้อมรับแนวโน้มความเปลี่ยนแปลงดังกล่าว
GSL provides Trustworthy Services
ในฐานะผู้ให้บริการที่เชี่ยวชาญด้านธุรกิจเรือ RoRo ในประเทศอิสราเอลมาอย่างยาวนาน วันนี้ GSL ได้ยกระดับการปฏิบัติการขึ้นอีกขั้นด้วยขนาดกองเรือที่ใหญ่ขึ้น เส้นทางการบริการที่เพิ่มขึ้น และทีมบุคลากรที่มากขึ้น โดยให้ความสำคัญในจุดแข็งขององค์กรและการสร้างความไว้วางใจให้แก่ลูกค้า GSL ได้กลายมาเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการขนส่งยานยนต์ด้วยเรือแบบ PPC และแบบ PCTC ที่ลูกค้าตัดสินใจเลือกใช้บริการมากที่สุด
ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยแนวโน้มการเติบโต 55 เปอร์เซ็นต์ ในธุรกิจบริการขนส่งยานยนต์ของ GSL ในช่วงระหว่างปี 2019 – 2021 สายการเดินเรือฯ เชื่อมั่นว่าแผนการขยายธุรกิจจะนำพา GSL ไปสู่การเติบโตครั้งสำคัญจากปริมาณการผลิตยานยนต์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ควบคู่ไปกับความต้องการขนส่งยานยนต์ทางทะเล ครั้งนี้จึงเป็นการวางรากฐานที่สำคัญสำหรับรองรับการเติบโตในตลาด RoRo ที่กำลังจะปรับตัวสูงขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้
อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Logistics Mananger เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Logistics Manager หรือคลิกที่นี่