สายการเดินเรือ Emirates Shipping Line (ESL) ประจำประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 2006 โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อสนับสนุนการเติบโตทางธุรกิจของลูกค้าและก้าวไปข้างหน้าพร้อมเศรษฐกิจของประเทศ หลังจากเปิดให้บริการสนับสนุนตลาดประเทศไทยและดำเนินการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องตลอดหลายปีที่ผ่านมา ESL ได้เล็งเห็นถึงศักยภาพทางเศรษฐกิจและโอกาสการเติบโตที่มากขึ้น จึงตัดสินใจขยายธุรกิจและบริการในประเทศไทยอย่างเต็มรูปแบบ ด้วยการเปิดตัวสำนักงานแห่งใหม่ พร้อมบริการขนส่งสินค้าเส้นทางตรง เชื่อมต่อประเทศไทยกับภูมิภาคตะวันออกกลางและอนุทวีปอินเดีย พร้อมผลักดันบริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อสนับสนุนกลุ่มลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างประเทศ

LM มีโอกาสได้พูดคุยกับ คุณนภัสร์วรรณ์ ชินรุ่งโรจน์ กรรมการผู้จัดการ สายการเดินเรือ Emirates Shipping Line และ บริษัท ESL Agency (Thailand) เกี่ยวกับรูปแบบการดำเนินธุรกิจของ ESL การเปิดสำนักงานใหม่ในกรุงเทพฯ บริการขนส่งสินค้าของสายการเดินเรือฯ พร้อมเปิดเผยเป้าหมายและวิสัยทัศน์ของบริษัทฯ ที่มีต่อประเทศไทยและตลาดอื่นๆ ในภูมิภาค

ปัจจุบัน Emirates Shipping Line ให้บริการขนส่งสินค้าทางทะเลในเส้นทางสู่ภูมิภาคตะวันออกกลาง จีน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อินเดีย และแอฟริกาเป็นหลัก โดยมีสำนักงานครอบคลุมกว่า 63 แห่งใน 31 ประเทศทั่วโลก อีกทั้งยังมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ Dubai

คุณนภัสร์วรรณ์ เปิดเผยว่า “ปัจจุบัน ESL มีบริการขนส่งสินค้าทางทะเลทั้งหมด 14 บริการ ซึ่งให้บริการผ่านกองเรือของ ESL เอง 13 ลำ รวมถึงเรือขนส่งสินค้าของบริษัทพันธมิตรไปยังปลายทางต่างๆ ทั่วโลก เราจึงมีเครือข่ายให้บริการขนส่งสินค้าที่ครอบคลุมเส้นทางการค้าหลักทั่วโลก โดย ESL ให้บริการผ่านสำนักงานหลายแห่งในหลายประเทศ ซึ่งไทยเองก็ถือเป็นหนึ่งในประเทศที่ ESL ให้ความสำคัญและให้การสนับสนุนมาโดยตลอด และล่าสุด ESL ได้ตัดสินใจยกระดับการให้บริการผ่านการเปิดสำนักงานใหม่อย่างเป็นทางการ พร้อมเดินหน้าให้บริการขนส่งสินค้าแก่ลูกค้าในไทยอย่างเต็มรูปแบบ เราตั้งเป้าหมายที่จะส่งมอบบริการเหนือระดับแก่ผู้ใช้บริการทุกคน เมื่อนึกถึง Emirate Shipping Line Thailand ลูกค้าจะต้องคิดถึงคุณภาพการให้บริการที่โดดเด่นและยอดเยี่ยมของเรา”

โดยการขยายฐานธุรกิจในครั้งนี้เป็นผลมาจากความเชื่อมั่นที่มีต่อศักยภาพของเศรษฐกิจไทย อีกทั้ง ESL ยังเชื่อมั่นในศักยภาพของบุคลากรในประเทศไทยว่าทุกฝ่ายจะสามารถให้บริการลูกค้าได้ด้วยความรู้ความเข้าใจเชิงลึกและนำเสนอบริการที่ตรงต่อความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง

คุณนภัสร์วรรณ์ ชินรุ่งโรจน์ กรรมการผู้จัดการ สายการเดินเรือ Emirates Shipping Line และ บริษัท ESL Agency (Thailand)

นอกเหนือจากการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของฐานธุรกิจในไทยแล้ว ESL ยังมุ่งมั่นขยายการเชื่อมต่อที่ครอบคลุมระหว่างไทยกับตลาดการค้าโลก โดยเมื่อเร็วๆ นี้ ESL ได้เปิดตัวบริการขนส่งสินค้าเส้นทางตรง ในชื่อบริการ ‘EVGI’ ซึ่งให้บริการขนส่งสินค้าเชื่อมระหว่างประเทศไทย ไปยังอินเดียและตะวันออกกลาง ภายใต้ข้อได้เปรียบด้านระยะเวลาขนส่งสินค้าจากไทยสู่อินเดียที่รวดเร็วที่สุดในตลาด

คุณนภัสร์วรรณ์ กล่าวว่า “ในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ เวลาถือเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง ดังนั้น บริการ EVGI ของเราจึงเป็นบริการขนส่งสินค้าเส้นทางตรงที่มีข้อได้เปรียบด้านระยะเวลาที่รวดเร็ว โดยสามารถเชื่อมต่อไปยังอินเดียได้ภายใน 12 วัน อีกทั้งยังให้บริการเป็นประจำทุกสัปดาห์ มีกำหนดเข้าเทียบท่าที่ท่าเรือแหลมฉบังทุกวันพฤหัสบดี โดยบริการ EVGI สามารถให้บริการสำหรับสินค้าทั่วไปทุกประเภท อย่างไรก็ตาม หากลูกค้ามีความต้องการขนส่งสินค้าอื่นๆ ก็สามารถแจ้งความต้องการกับทีมของเราได้เสมอ เราพร้อมให้บริการด้วยอุปกรณ์ที่ครบครัน”

บริการ EVGI มีรอบการวนเรือออกจากท่าเรือแหลมฉบัง ก่อนที่จะปฏิบัติการต่อไปยัง Port Klang มาเลเซีย, Nhava Sheva อินเดีย, Jebel Ali สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, Dammam ซาอุดิอาระเบีย, Sohar โอมาน, Nhava Sheva, Port Klang และ Cai Mep ประเทศเวียดนาม

“สำหรับการให้บริการและอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าในประเทศไทย นอกเหนือจากบริการ EVGI ที่เข้าเทียบท่าโดยตรงที่ท่าเรือแหลมฉบังแล้ว ESL ยังมีบริการลานรับตู้เปล่าในกรุงเทพฯ และลาดกระบัง บริการตัวแทนออกของที่ท่าเรือกรุงเทพฯ รวมถึงบริการตู้บรรจุ (stuffing) และบริการคัดแยกสินค้า (deconsolidation) ซึ่งให้บริการทั้งขาเข้าและขาออกด้วย”

นอกจากนี้ คุณนภัสร์วรรณ์ยังได้เน้นย้ำถึงศักยภาพและความพร้อมของสำนักงานประเทศไทยในการให้บริการแก่ลูกค้าว่า “สำนักงานใหม่ในประเทศไทยพร้อมให้บริการแก่ลูกค้าอย่างเต็มรูปแบบ ภายใต้บริการที่ครอบคลุม บุคลากรของเราทั้งฝ่ายบริหาร ฝ่ายปฏิบัติการ ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ ฝ่ายขาย ฝ่ายบัญชีและการเงิน ล้วนมีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ตรงในอุตสาหกรรมฯ มาอย่างยาวนาน มีความเข้าใจตลาดเป็นอย่างดี สามารถเข้าถึงลูกค้าและเข้าใจความต้องการของลูกค้าได้อย่างลึกซึ้ง ลูกค้าจึงสามารถวางใจว่าพวกเขาจะได้รับบริการที่ดี รวดเร็ว และเชื่อถือได้”

แม้ปัจจุบัน บริษัทต่างๆ รวมถึง ESL เองจะให้ความสำคัญกับการนำเทคโลยีและนวัตกรรมเข้ามาใช้สนับสนุนการทำงาน แต่บริษัทฯ ยังคงให้ความสำคัญกับการสื่อสารผ่านบุคคลระหว่างลูกค้าและพนักงานของบริษัทฯ เพื่อให้เข้าใจและเข้าถึงความต้องการที่แท้จริงของลูกค้าในตลาด เพื่อช่วยแก้ปัญหาของลูกค้าได้อย่างตรงจุดมากที่สุด

“เราเข้าใจความรู้สึกของลูกค้าเมื่อต้องการสอบถามข้อมูลหรือแจ้งปัญหาต่างๆ ดังนั้น เมื่อไหร่ที่ลูกค้าติดต่อมาที่ ESL พวกเขาจะสามารถติดต่อพนักงานของเราได้โดยตรง ไม่ต้องผ่านระบบตอบรับอัตโนมัติหรือแชทบอทอัจฉริยะ เรายังคงรักษาช่องทางติดต่อสื่อสารระหว่างลูกค้าและพนักงานในส่วนนี้ เพื่อให้ลูกค้าวางใจได้ว่าจะมีบุคลากรของเราคอยให้การดูแล ตอบคำถาม และให้การสนับสนุนพวกเขาอยู่เสมอ ในขณะเดียวกัน เราก็ยังคงเดินหน้ายกระดับประสิทธิภาพบริการผ่านเทคโนโลยีและดิจิทัลโซลูชันต่างๆ ควบคู่กันไปอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบัน เรามีการพัฒนาทั้งแอปพลิเคชันบนแพลตฟอร์ม ESL และระบบติดตามตู้สินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่ออำนวยความสะดวกในการติดตามสถานะของตู้สินค้า ทั้งยังมีระบบ e-booking เพื่ออำนวยความสะดวกลูกค้าในการจองพื้นที่ระวางอีกด้วย” คุณนภัสร์วรรณ์ กล่าว

นอกจากความเชื่อมั่นในศักยภาพของบุคลากรแล้ว ESL ยังมีการวางรากฐานวัฒนธรรมองค์กรอย่างแข็งแกร่ง ช่วยเสริมสร้างความมั่นคงภายในองค์กร โดย ESL ขับเคลื่อนองค์กรด้วยแนวคิดที่เปิดกว้าง มอบอิสระในการทำงาน และเปิดโอกาสให้บุคลากรได้มีโอกาสเรียนรู้ภายในขอบข่ายการรับผิดชอบของตน

คุณนภัสร์วรรณ์ กล่าวว่า “แนวคิดที่สำคัญในองค์กรของ ESL คือ เราให้ความสำคัญกับบุคลากร เนื่องจากบุคลากรเป็นทรัพยากรสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนและผลักดันองค์กรไปข้างหน้า ESL มอบอิสระในการทำงาน สนับสนุน และเปิดโอกาสให้บุคลากรมีสิทธิ์ตัดสินใจในส่วนงานที่ตนเองรับผิดชอบ ได้ค้นหาและทำความรู้จักลูกค้าด้วยตนเอง ได้มีโอกาสลงมือทำและแก้ไขปัญหาเหล่านั้น ทำให้บุคลากรมีพื้นที่ในการเรียนรู้และทดลอง ทั้งยังมอบอำนาจการตัดสินใจในการดำเนินการให้แก่ผู้บริหารในท้องถิ่นเพื่อให้เกิดความคล่องตัวและรวดเร็วในการจัดการปัญหาต่างๆ ”

“นอกจากนี้ ด้วยความที่องค์กรของเรามีขนาดกลาง เราจึงมีข้อได้เปรียบในเรื่องของการสื่อสารที่เป็นไปอย่างรวดเร็วและผ่านลำดับขั้นน้อย จึงช่วยอำนวยข้อได้เปรียบในการดำเนินงานต่างๆ ให้เป็นไปอย่างรวดเร็ว และส่งเสริมความคล่องตัวในการบริหารจัดการได้เป็นอย่างดี”


อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Logistics Mananger เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Logistics Manager หรือคลิกที่นี่

บทความก่อนหน้านี้Hutchison Ports Thailand ชูกิจกรรมรักษ์โลกอย่างสร้างสรรค์ ต่อยอดความร่วมมือโครงการ Go Green
บทความถัดไปEXIM BANK จับมือ UKEF ส่งเสริมการค้าการลงทุนไทย-สหราชอาณาจักร