APX Group ปฏิวัติการขนส่งด้วยรถบรรทุก บุกเบิกบริการ Pallet Network ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

0
3984

APX Group ปฏิวัติอุตสาหกรรมขนส่งด้วยรถบรรทุก ด้วยโลจิสติกส์แพลตฟอร์มล้ำสมัย สร้างเครือข่ายการให้บริการครอบคลุมประเทศไทย พร้อมตั้งเป้าขยายบริการทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

อุตสาหกรรมการขนส่งด้วยรถบรรทุกเป็นหนึ่งในเสาหลักที่คอยค้ำยันอุตสาหกรรมโลจิสติกส์และระบบเศรษฐกิจทั่วโลก จากการเป็นผู้ดำเนินการขนส่งสินค้าจากต้นทาง (First Mile) และในช่วงจุดหมายปลายทาง (Last Mile) อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมการขนส่งด้วยรถบรรทุกกลับมีช่องว่างและจุดอ่อนที่สำคัญ นั่นคือผู้ให้บริการขนส่งด้วยรถบรรทุกและผู้ส่งสินค้ารายย่อยต้องประสบกับความยากลำบากทั้งในด้านการปฏิบัติการและการบริหารจัดการต้นทุน ทำให้พวกเขาสูญเสียโอกาสในการเติบโตทางธุรกิจไปอย่างน่าเสียดาย

APX Group จึงได้คิดค้นแพลตฟอร์มดิจิทัลขึ้นมา เพื่อเชื่อมโยงผู้ให้บริการขนส่งด้วยรถบรรทุก (trucker) และผู้ส่งสินค้า (shipper) เข้าด้วยกัน พร้อมพัฒนาเครือข่ายการขนส่งสินค้าด้วยพาเลท (pallet) ที่จะช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติการ ทำให้ผู้ประกอบการสามารถเติบโตและก้าวสู่โลกยุคใหม่ได้อย่างยั่งยืน

นิตยสาร LM ฉบับนี้ได้มีโอกาสพูดคุยกับ Mr. Uwe Dettmann ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง คุณสุกัญญา ธรรมธาดา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลและผู้ร่วมก่อตั้ง คุณสรวิศ ตันตระกูลเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ และคุณรอง พิริยะพิทยา หัวหน้าฝ่ายพัฒนาเครือข่ายขนส่ง APX Group เกี่ยวกับจุดประสงค์และหลักการทำงานของแพลตฟอร์มโลจิสติกส์ดิจิทัลดังกล่าว พร้อมเปิดเผยถึงสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่ผู้ส่งสินค้าและผู้ให้บริการขนส่งรถบรรทุกจะได้รับประโยชน์จากเครือข่ายการขนส่งสินค้าในรูปแบบนี้

How it starts

Mr. Uwe Dettmann ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง APX Group

APX Group ได้รับการก่อตั้งโดย Mr. Uwe Dettmann และคุณสุกัญญา ธรรมธาดา ซึ่งแม้ว่าบริษัทฯ จะเพิ่งก่อตั้งได้ไม่นาน แต่ APX Group กลับมีข้อได้เปรียบในด้านการบริหารโดยผู้มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์และมีความเชี่ยวชาญในตลาดเอเชียมากว่าสามสิบปี ทำให้ APX Group มีข้อได้เปรียบทั้งด้านความรู้ความเข้าใจเชิงลึกทั้งในด้านการปฏิบัติการ ตลอดจนลักษณะของปัญหา ความท้าทาย และแนวทางในการจัดการกับอุปสรรคต่างๆ ในตลาดท้องถิ่นเป็นอย่างดี พร้อมเสริมกำลังด้วยผู้บริหารรุ่นใหม่ไฟแรง อย่างคุณสรวิศ ตันตระกูลเจริญ และคุณรอง พิริยะพิทยา ที่เปี่ยมไปด้วยความสามารถและความเข้าใจในด้านเทคโนโลยีและธุรกิจแบบแพลตฟอร์ม รวมทั้งเทรนด์ของโลกยุคปัจจุบัน

“เราไม่ได้เข้ามาเพื่อปฏิรูป (disrupt) หรือเป็นคู่แข่งกับใคร แต่สิ่งที่เราต้องการโซลูชันดิจิทัล ที่จะช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ” Mr. Uwe กล่าว

โดย Mr. Dettmann ได้กล่าวถึงจุดเริ่มต้นของบริษัทฯ เอาไว้ว่า “ปัจจุบันช่องว่างในอุตสาหกรรมการขนส่งด้วยรถบรรทุกในไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผู้ให้บริการขนส่งด้วยรถบรรทุกส่วนใหญ่ปฏิบัติการด้วยแนวคิดแบบเป็นผู้รับ (passive) เสียส่วนใหญ่ กล่าวคือ ผู้ให้บริการฯ รายย่อยหรือระดับท้องถิ่นมักจะรับงานที่มาจากการแจกจ่ายของบริษัทยักษ์ใหญ่ โดยที่ไม่ได้มีทรัพยากรในการหาลูกค้าหรือขายงานของตนเอง นั่นทำให้พวกเขาไม่สามารถเลือกรับงานหรือหาลูกค้าเองได้ อีกทั้งยังถูกบังคับให้แข่งขันในสงครามราคากับผู้ให้บริการรายอื่นๆ ที่เข้ามารับงานจากบริษัทยักษ์ใหญ่เช่นกัน”

“ขณะเดียวกันสำหรับผู้ส่งสินค้ารายย่อย หรือผู้ที่ต้องการส่งสินค้าที่มีขนาดใหญ่กว่าพัสดุทั่วไป (parcel) ก็ประสบกับปัญหาในการขนส่งสินค้าแบบไม่เต็มคันรถ (LTL) จากการที่มีผู้ให้บริการจำนวนไม่มากนัก ในบางครั้งแม้จะมีผู้ให้บริการ แต่ค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง จากการที่ผู้ให้บริการจะต้องคำนวณต้นทุนให้ครอบคลุมการปฏิบัติการทั้งขาไปและขากลับ แม้สินค้าของลูกค้าจะมีการขนส่งเพียงขาเดียว รวมไปถึงปัญหาพื้นที่ให้บริการที่ไม่ครอบคลุม ทำให้ไม่สามารถส่งสินค้าไปยังบางพื้นที่ได้”

“เราเล็งเห็นว่า หากเราสามารถเชื่อมโยงความต้องการของทั้งสองฝ่ายเข้าหากันได้ ก็จะเป็นการช่วยยกระดับอุตสาหกรรมการขนส่งผ่านรถบรรทุกโดยรวมไปด้วยเช่นกัน นั่นจึงกลายเป็นที่มาของการพัฒนาเครือข่ายการขนส่งสินค้าทางรถบรรทุกด้วยพาเลท ซึ่งประกอบไปด้วยศูนย์กระจายสินค้าส่วนกลางและภูมิภาค ผสานเข้ากับแพลตฟอร์มโลจิสติกส์แบบออนไลน์ที่ได้รับการออกแบบมาเป็นอย่างดี เพื่อยกระดับกระบวนการขนส่งสินค้าผ่านรถบรรทุกทั้งแบบ FTL และ LTL ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการขนส่งรูปแบบ LTL ระยะทางไกล ลูกค้าจะได้รับข้อได้เปรียบทางด้านราคากว่าการขนส่งแบบเดิมๆ หลายเท่า”

“แม้ว่ารูปแบบธุรกิจดังกล่าวอาจดูแปลกใหม่ในบ้านเรา แต่ในความเป็นจริงแล้ว ในหลายๆ ภูมิภาค เช่น ยุโรป มีบริษัทที่ดำเนินกิจการในลักษณะดังกล่าวมากว่า 20 ปี และประสบความสำเร็จอย่างมาก นั่นจึงสะท้อนให้เห็นว่า แนวคิดดังกล่าวได้รับการพิสูจน์มาแล้ว ว่าสามารถใช้งานได้จริง

“เราไม่ได้เข้ามาเพื่อปฏิรูป (disrupt) หรือเป็นคู่แข่งกับใคร แต่สิ่งที่เราต้องการโซลูชันดิจิทัล ที่จะช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจด้วยการแบ่งปันทรัพยากรและความรู้ให้แก่กันและกันตามแนวคิด Sharing Economy เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดในโลกยุคปัจจุบัน”

คุณสุกัญญา ธรรมธาดา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลและผู้ร่วมก่อตั้ง APX Group

How the platform works

บริการของ APX Group มีความคล้ายคลึงกับแพลตฟอร์มตัวกลางในการจับคู่ความต้องการของผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการ (sharing economy platform) ที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เช่น Grab, Uber และ Airbnb

คุณสุกัญญา กล่าวว่า “บริษัทฯ ได้สร้างแพลตฟอร์มโลจิสติกส์แบบออนไลน์ขึ้นมา ลูกค้าที่ต้องการขนส่งสินค้าจะสามารถจองพื้นที่การขนส่งแบบ Door-to-Door ได้ทันที จากนั้นระบบจะจับคู่ความต้องการนั้นกับสมาชิก (member) ของ APX ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขนส่งด้วยรถบรรทุกที่มีประสบการณ์ในแต่ละท้องถิ่น จากนั้นผู้ให้บริการฯ จะส่งรถบรรทุกมารับสินค้าถึงหน้าบ้านหรือหน้าโรงงานของลูกค้า และขนส่งไปยังจุดหมายปลายทางตามที่ได้รับมอบหมาย โดยที่ทางบริษัทฯ ไม่ได้เป็นเจ้าของกองรถบรรทุกเองแต่อย่างใด”

การขนส่งสินค้าของ APX จะดำเนินผ่านระบบพาเลท ลูกค้าจำเป็นต้องเตรียมสินค้าขึ้นบนพาเลทและดำเนินการห่อหุ้มให้เรียบร้อย ซึ่งการใช้ระบบพาเลทมีข้อได้เปรียบกว่าการใช้แรงงานในการบรรจุสินค้าหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นเพิ่มความรวดเร็วในการยกขนสินค้า จากการรวมสินค้าจำนวนหนึ่งไว้ในจุดเดียว โดยที่สามารถใช้รถฟอร์คลิฟต์ยกขนได้ในระยะเวลาเพียงไม่กี่นาที เพิ่มความปลอดภัยเนื่องจากสินค้าจะถูกห่อหุ้มอย่างแน่นหนา ทำให้ลดโอกาสที่สินค้าเกิดการสูญหายหรือเสียหายในการขนส่ง หากเปรียบเทียบกับการส่งสินค้าแบบวางกองแบบดั้งเดิม อีกประการคือการลดการใช้แรงงานและการสัมผัสสินค้าโดยตรง ทำให้สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายและเพิ่มความปลอดภัยด้วยสุขอนามัยที่ดียิ่งขึ้น

คุณสรวิศ ตันตระกูลเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ

อย่างไรก็ตาม แม้การขนส่งสินค้าผ่านระบบพาเลทจะมีข้อได้เปรียบมากมาย แต่สำหรับในไทยหรือภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การขนส่งสินค้าผ่านพาเลทยังไม่ได้รับความนิยมนักสำหรับผู้ส่งสินค้ารายย่อย ซึ่งทาง APX Group ได้เล็งเห็นถึงปัญหาดังกล่าว จึงได้จัดเตรียมบริการเสริมขึ้นมา เพื่อให้กระบวนการเปลี่ยนผ่านมาใช้งานพาเลท เป็นเรื่องที่สะดวกมากยิ่งขึ้น

“สำหรับลูกค้าที่ยังไม่คุ้นเคย หรือไม่เคยขนส่งสินค้าในระบบพาเลท ทางเรามีบริการจัดหาพาเลทให้กับลูกค้าที่ยังไม่มีพาเลทเป็นของตนเอง รวมทั้งมีบริหารห่อหุ่มสินค้าและบริการยกขนสินค้าให้กับลูกค้าที่ยังไม่ชำนาญ หรือยังไม่มีอุปกรณ์ ซึ่งบริการเหล่านี้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากเราต้องการผลักดันระบบการขนส่งผ่านพาเลทให้เป็นที่นิยมมากยิ่งขึ้น และหากในอนาคตลูกค้ามีอุปกรณ์ของตนเองพร้อมแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายในส่วนนี้” คุณสุกัญญา กล่าวเสริม

Benefits for Shipper และ Member

ดังที่กล่าวไปในข้างต้น แพลตฟอร์มของ APX Group ถือกำเนิดขึ้นมาเพื่อลดช่องว่างสำหรับผู้ส่งสินค้ารายย่อยและผู้ให้บริการขนส่งรถบรรทุก ดังนั้น ประโยชน์ที่ผู้ส่งสินค้าจะได้รับในทันทีคือความยืดหยุ่นของการบริหารจัดการซัพพลายเชน เนื่องจากเครือข่ายที่ครอบคลุมทั่วประเทศของ APX Group ทำให้ผู้ส่งสินค้าสามารถส่งสินค้าไปยังพื้นที่ใดในประเทศ โดยที่มีค่าบริการที่ถูกลง โดยชำระเพียงค่าบริการตามการใช้งานจริง โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการวิ่งรถเปล่าในขากลับอีกต่อไป อีกทั้งผู้ให้บริการฯ ที่ดำเนินการรับ-ส่งสินค้า ก็จะเป็นผู้ให้บริการฯ ระดับท้องถิ่น ที่มีความเชี่ยวชาญในพื้นที่อย่างแท้จริง

ในด้านของความปลอดภัย ผู้ส่งสินค้าสามารถติดตามสินค้าแบบ Realtime ผ่านแพลตฟอร์มของ APX Group ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้ผู้ส่งสินค้าสามารถมั่นใจในความปลอดภัยได้ตลอดกระบวนการขนส่ง นอกจากนี้ ด้วยตารางการวิ่งรถที่แน่นอน ทำให้ลูกค้าสามารถวางแผนการขนส่งได้สะดวกยิ่งขึ้น ส่งผลให้การบริการจัดการสต็อกสินค้าสามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ขณะที่ในฝั่งของผู้ให้บริการรถบรรทุกที่เข้ามาเป็นสมาชิกของบริษัทฯ ก็จะได้เปรียบจากการมีเครือข่ายการขนส่งสินค้าของตนเอง รวมทั้งได้รับเครื่องมือในการขายงานและบริหารจัดการซัพพลายเชนจากเราไปในทันที ไม่ว่าจะเป็น Web-Based Application สำหรับบริหารการจัดส่งสินค้า Mobile Application สำหรับคนขับรถ และระบบติดตามสินค้าแบบ Realtime ผ่าน GPS ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ คุณภาพ ความปลอดภัย และความน่าเชื่อถือให้กับผู้ให้บริการรถบรรทุก ทำให้พวกเขาสามารถขายงานให้กับลูกค้าได้ด้วยตนเอง โดยไม่จำเป็นต้องรอการจ่ายงานจากลูกค้ารายใหญ่อีกต่อไป

ยิ่งไปกว่านั้น ทาง APX Group ได้จัดเตรียมทีมที่ปรึกษาสำหรับสมาชิก (Member Excellence Consultant) เพื่อยกระดับความรู้ความเข้าใจในตลาดให้กับสมาชิกอีกด้วย

คุณรอง พิริยะพิทยา หัวหน้าฝ่ายพัฒนาเครือข่ายขนส่ง APX Group

โดยคุณสรวิศ ได้อธิบายในประเด็นนี้ว่า “เมื่อมีเครื่องมือที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพแล้ว สิ่งที่ต้องพัฒนาควบคู่กันไปคือความรู้ความเข้าใจของผู้ให้บริการ ซึ่งในจุดนี้ เราได้เตรียมทีมที่ปรึกษาฯ ที่มีความรู้ความเข้าใจทั้งในด้านการปฏิบัติการและการบริการเป็นอย่างดี คอยให้ความช่วยเหลือเหล่าสมาชิกให้การพัฒนาและยกระดับมาตรฐานการให้บริการของตนเอง ให้สามารถแข่งขันในตลาดได้ดียิ่งขึ้น”

นอกจากนี้ ด้วยเครือข่ายการขนส่งสินค้าที่ออกแบบมาเป็นอย่างดีของเรา ทำให้ผู้ให้บริการรถบรรทุกไม่จำเป็นต้องดำเนินการขนส่งระยะไกลอีกต่อไป แต่ก็ยังสามารถขายงานนอกพื้นที่หรือในพื้นที่ที่ไม่เชี่ยวชาญ โดยไม่ต้องลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน หรือกองรถบรรทุกเอง

คุณรอง กล่าวว่า “สำหรับคนขับรถบรรทุกแล้ว การเดินทางขนส่งระยะไกลอาจทำให้พวกเขาต้องใช้เวลาบนรถบรรทุกเป็นระยะเวลาหลายวัน ซึ่งหากพิจารณากันโดยถี่ถ้วนแล้ว การวิ่งรถระยะสั้น แต่มีจำนวนเที่ยวมากกว่า อาจจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า ระบบของเราจะดำเนินการจัดสรรให้ผู้ให้บริการวิ่งรถในพื้นที่ที่ของตนเองเท่านั้น ทำให้พวกเขาไม่ต้องเดินทางไกลอีกต่อไป ยิ่งไปกว่านั้น ระบบเครือข่ายของเรายังเปิดโอกาสให้ผู้ให้บริการฯ สามารถขายงานในการส่งสินค้าไปยังพื้นที่ห่างไกล หรือพื้นที่ที่ตนเองไม่ชำนาญ โดยที่ไม่จำเป็นต้องลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเอง เพราะเครือข่ายผู้ให้บริการฯ ของเราจะเป็นผู้ดำเนินการขนส่งในระยะ Last Mile ให้เอง เพียงแค่ผู้ให้บริการฯ เข้าไปรับสินค้าในระยะ First Mile เท่านั้น”

“ในทางกลับกัน ผู้ให้บริการฯ ที่เป็นสมาชิกของเรา ก็สามารถเป็นผู้ส่งสินค้าระยะ Last Mile จากสินค้าที่ขนส่งมาจากต้นทางอื่นๆ เช่นกัน ซึ่งเที่ยวการวิ่งรถที่มากขึ้น ก็ย่อมหมายถึงรายได้ที่มากขึ้นเช่นกัน”

Pushing for the Change

การเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ปฏิบัติกันมาต่อเนื่องยาวนานเป็นเรื่องที่ท้าทายเสมอสำหรับทั้งผู้ผลักดันและผู้ปรับตัว แต่การเปลี่ยนแปลงเพื่อสิ่งที่ดีกว่านั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นในการก้าวสู่อนาคตอย่างยั่งยืน

ด้วยความเชี่ยวชาญและความเข้าใจในตลาดของผู้บริหารที่มากประสบการณ์ ผสานกับทีมงานคนรุ่นใหม่ที่มีความเข้าใจทางด้านเทคโนโลยีและเทรนด์โลกยุคใหม่ พร้อมทั้งแพลตฟอร์มที่ได้รับการพัฒนามาเป็นอย่างดี APX Group พร้อมแล้วที่จะเป็นหัวหอกในการสร้างมาตรฐานใหม่ในการขนส่งและกระจายสินค้า พร้อมทั้งผลักดันให้ผู้ผลิตและผู้ให้บริการขนส่งรถบรรทุกของไทย ก้าวไกลสู่ระดับภูมิภาค ด้วยมาตรฐานระดับสากล และสร้าง Sharing Economy ให้เกิดขึ้นจริงในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้


อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Logistics Mananger เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Logistics Manager หรือคลิกที่นี่

บทความก่อนหน้านี้Yifan Shipping เปิดบริการขนส่งสินค้าเส้นทางตรง เชื่อมไทย สู่ท่าเรือ Stockton แคลิฟอร์เนีย และ Houston สหรัฐอเมริกา
บทความถัดไปESCO จับมือ PTT ต้อนรับขบวนขนส่งตู้สินค้าทางรางเที่ยวปฐมฤกษ์ จากแก่งคอย สู่สถานีตู้สินค้า Tha Phra CY Container Yard จ.ขอนแก่น
Pichanon Paoumnuaywit
tech and history geek, who enjoys hunting and photographing dark skies and milky way