ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีการเปลี่ยนแปลงมากมายในอุตสาหกรรมการขนส่งสินค้าทางทะเล โดยเฉพาะด้านเทคโนโลยีการต่อเรือบรรทุกตู้สินค้า ที่มีแนวโน้มที่จะมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ขณะเดียวกันอุปกรณ์และเครื่องมือต่างๆของท่าเรือ ก็มีความจำเป็นที่ต้องถูกทดแทนด้วยอุปกรณ์ยกขนที่มีความรวดเร็ว ทันสมัย และมีเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อให้สามารถรองรับความต้องการของลูกค้าที่มากขึ้นด้วยเช่นกัน
ด้วยเหตุนี้ ที ไอ พี เอส (TIPS) ผู้ให้บริการท่าเทียบเรือ B4 ท่าเรือแหลมฉบัง จึงตัดสินใจครั้งสำคัญด้วยการติดตั้งเครนยกขนตู้สินค้าหน้าท่า (Ship-to-Shore Crane) ที่มีเทคโนโลยีทันสมัยจาก SANY จำนวน 2 คันเพื่อเสริมศักยภาพปฏิบัติการยกขนตู้สินค้าให้มีความรวดเร็วและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น พร้อมกับสนับสนุนเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับจำนวนตู้สินค้าให้กับท่าเรือแหลมฉบัง
Back in the Days
ปัจจุบัน ท่าเทียบเรือ B4 ปฏิบัติการยกขนตู้สินค้าหน้าท่าด้วยเครนจำนวนห้าคัน ประกอบไปด้วยเครนขนาด Post Panamax จำนวนสองคัน รับน้ำหนักตู้สินค้าได้สูงสุด 50 ตัน และเครนขนาด Panamax จำนวนสามคัน รับน้ำหนักตู้สินค้าได้สูงสุด 37.5 ตัน โดยเครนขนาด Panamax จำนวนสองคันนั้นเป็นเครนที่ทาง ที ไอ พี เอสได้รับมอบจากการท่าเรือแห่งประเทศไทยและใช้งานมาตั้งแต่เริ่มปฏิบัติการครั้งแรกในปี1991
ทางบริษัทฯ ได้เล็งเห็นว่าเครนขนาด Panamax ดังกล่าวมีขนาดเล็กเกินไปสำหรับการให้บริการเรือขนส่งสินค้าใหม่ๆ เนื่องจากสามารถรองรับได้เพียงแต่เรือขนส่งตู้สินค้าที่มีพื้นที่ระวางเรือไม่เกิน 13 แถวซึ่งถือว่าเป็นขนาดที่เหมาะสมในเวลานั้น ทำให้มีข้อจำกัดในการให้บริการเรือขนส่งตู้สินค้ารุ่นใหม่ๆ ที่มีความทันสมัยและมีขนาดใหญ่ขึ้นเป็นลำดับในปัจจุบัน
อีกทั้งเครนดังกล่าวมีการใช้งานมาเป็นเวลานานกว่า 30 ปี ทำให้ต้องได้รับการบำรุงรักษาและใช้เวลาในการจัดสรรอะไหล่ทดแทน ส่งผลให้การปฏิบัติการหน้าท่าเกิดความไม่ต่อเนื่อง บริษัทฯ จึงได้สั่งซื้อเครนยกขนสินค้าหน้าท่าขนาด Post Panamax ใหม่จำนวนสองคัน เพื่อเพิ่มศักยภาพในการทำงานให้ดียิ่งขึ้น
Reinforced with new cranes
เครนยกขนตู้สินค้าหน้าท่าใหม่นี้ เป็นเครนขนาด Post Panamax รุ่น STS605201 จาก SANY ผู้ผลิตเครื่องมือยกขนสู่สินค้าขนาดใหญ่ในอุตสาหกรรมท่าเรือจากจีน โดยเครนถูกประกอบขึ้นที่ SANY Zhuhai Industrial Park ในเมือง Zhuhai ประเทศจีนและใช้เวลาผลิตและประกอบเป็นเวลา 14 เดือน ก่อนจะเดินทางมาถึงท่าเทียบเรือ B4 อย่างปลอดภัยในวันที่ 6 มีนาคม ที่ผ่านมา
โดยเครนยกขนตู้สินค้าหน้าท่าใหม่ทั้งสองนี้มีศักยภาพในการรองรับน้ำหนักตู้สินค้าสูงสุด 60 ตัน มีความยาวของระยะแขนเครนอยู่ที่ 52 เมตรหรือ 18 แถวตู้สินค้าตามความกว้างของตัวเรือ มีระยะยืดหลัง 15 เมตรสามารถยกขนตู้สินค้าได้สูงสุด 50 ตู้ต่อชั่วโมงสามารถเพิ่มประสิทธิภาพความเร็วในการยกตู้สินค้าได้มากกว่า 40 เปอร์เซนต์เมื่อเปรียบเทียบกับเครนเดิมที่ถูกทดแทน ซึ่งถือว่าเป็นเครนที่มีศักยภาพสูงสุดของ ที ไอ พี เอส และเทียบเท่ากับเครนของท่าเรือชั้นนำของโลกในขณะนี้
ขณะเดียวกัน เครนดังกล่าวได้รับการออกแบบมาให้สามารถรองรับเทคโนโลยีการปฏิบัติการหน้าท่าแบบกึ่งอัตโนมัติ (Semi-Automation) มีระบบป้องกันการชน การกระแทกของตู้สินค้าขณะทำงานพร้อมทั้งสามารถพัฒนาเป็นระบบควบคุมเครนระยะไกล (Remoted Control) ได้ในอนาคต ซึ่งจะทำให้ ที ไอ พี เอส เป็นท่าเทียบเรือที่มีเครื่องมือทันสมัยเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศไทย
ยิ่งไปกว่านั้น เครนตัวใหม่ได้ติดตั้ง Spreader รุ่นใหม่จาก BROMMA ที่มีการติดตั้งระบบกล้องช่วยมองเห็นสำหรับผู้ควบคุมเครน พร้อมเซนเซอร์ตรวจจับน้ำหนักตู้สินค้าอัตโนมัติแปดจุด ทำให้กระบวนการจับยกตู้มีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
“เครนหน้าท่าใหม่ทั้งสองคันนี้ จะเข้ามาทดแทนเครนหน้าท่าเดิมซึ่งมีการใช้งานมาอย่างยาวนาน ซึ่งไม่เพียงเพิ่มศักยภาพการปฏิบัติการหน้าท่าเท่านั้น แต่ยังเพิ่มความปลอดภัย และยกระดับเทคโนโลยีภายในท่าเทียบเรือขึ้นไปอีกขั้น ด้วยความสามารถในการรองรับการควบคุมเครนระยะไกลในอนาคต ลดความผิดพลาดจากตัวบุคคล ทำให้ท่าเทียบเรือของเรามีความทันสมัยไม่แพ้ท่าเรือใดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”
“ซึ่งการสั่งซื้อเครนใหม่นี้ เป็นการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและทุ่มเทของท่าเทียบเรือบี 4 ที่จะมอบบริการที่ดียิ่งขึ้นให้กับลูกค้า และช่วยเพิ่มขีดความสามารถให้กับท่าเรือแหลมฉบัง ให้สามารถแข่งขันกับท่าเรือต่างๆ ในการพัฒนาสู่การเป็นศูนย์การขนส่งตู้สินค้าหลักในภูมิภาค” กัปตันชัชวาล เกตุทะเล กรรมการผู้จัดการ ท่าเทียบเรือ ที ไอ พี เอส กล่าว
อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Logistics Mananger เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Logistics Manager หรือคลิกที่นี่
