HPT ตอกย้ำบทบาทสำคัญของท่าเทียบเรือในการสร้างอุตสาหกรรมการขนส่งทางทะเลที่ยั่งยืน

0
387

Hutchison Ports Thailand (HPT) ผู้ประกอบการท่าเรือชั้นนำ ผลักดันแนวคิดการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกในการรองรับของเสียจากเรือขนส่งสินค้าในท่าเรือ เพื่ออุตสาหกรรมการขนส่งทางทะเลที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สร้างความตระหนักรู้ให้แก่คณะนักศึกษาในพิธีแต่งเครื่องแบบและประดับเครื่องหมายชั้นปี ประจำปี 2023 ณ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา จ.ชลบุรี

ในโอกาสนี้ Mr. Stephen Ashworth กรรมการผู้จัดการ ฮัทชิสัน พอร์ท ประจำประเทศไทย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้รับเกียรติจากคณะพาณิชยนาวีนานาชาติ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา เข้าร่วมปาฐกถาในหัวข้อ “การสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกในการจัดการของเสียจากเรือขนส่งสินค้า (Reception Facilities)” เพื่อส่งเสริมการตระหนักรู้ถึงบทบาทสำคัญของผู้ปฏิบัติการท่าเทียบเรือในกระบวนการจัดการของเสียจากการขนส่งสินค้าทางทะเล ซึ่งเป็นหนึ่งในพันธกิจขององค์การทางทะเลระหว่างประเทศ (IMO) เพื่อลดมลพิษที่มาจากปฏิบัติการขนส่งสินค้าในอุตสาหกรรมฯ

Mr. Ashworth กล่าวว่า “เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับเกียรติจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา ให้เข้าร่วมพิธีแต่งเครื่องแบบ ประดับเครื่องหมายชั้นปี แก่นักศึกษาพาณิชยนาวี ประจำปี 2566 ซึ่งตรงกับวันทางทะเลโลก โดยปีนี้ IMO ได้กำหนดให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมฯ ร่วมผลักดันการดำเนินงานตามอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการป้องกันมลพิษจากเรือ หรือ MARPOL อย่างต่อเนื่อง”

องค์การ IMO ได้กำหนดให้อนุสัญญา MARPOL เป็นหนึ่งในเสาหลักในการป้องกันมลพิษและปกป้องสิ่งแวดล้อมทางทะเลจากการปฏิบัติการเรือหรืออุบัติเหตุทางทะเลระหว่างการปฏิบัติการขนส่งสินค้า โดยหนึ่งในสาระสำคัญของอนุสัญญาฯ ได้กำหนดให้ท่าเทียบเรือต้องอำนวยความสะดวกในการรองรับและจัดการของเสียจากเรือขนส่งสินค้า เพื่อป้องกันการปล่อยทิ้งน้ำมันและสารอันตรายต่างๆ จากเรือลงสู่ทะเล

เพื่อดำเนินตามพันธกิจดังกล่าว กลุ่มบริษัท ฮัทชิสัน พอร์ท ได้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อพัฒนา Reception Facilities ในท่าเทียบเรือ Westports ท่าเรือ Port Klang ประเทศมาเลเซีย ด้วยเม็ดเงินลงทุน 450 ล้านบาท บนพื้นที่ 1.7 เอเคอร์ โดยตั้งเป้าการดำเนินงานก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายใน 12 เดือน

เมื่อการก่อสร้าง Reception Facilities เสร็จสิ้น Westports จะสามารถรองรับและจัดการกากของเสียและของเหลวมีพิษจากเรือขนส่งสินค้าตามข้อกำหนดของ IMO ทั้งยังสามารถรีไซเคิลและบำบัดของเสียภายในท่าเทียบเรือให้พร้อมเข้าสู่กระบวนการกำจัดของเสียในขั้นตอนสุดท้ายอีกด้วย

“เราคาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่า รัฐบาลไทยจะเล็งเห็นถึงความสำคัญในการพัฒนา Reception Facilities เพื่อยกระดับการให้บริการของท่าเรือแหลมฉบังให้สอดคล้องกับความต้องการของสายการเดินเรือระดับโลกได้อย่างรอบด้านมากยิ่งขึ้น ควบคู่ไปกับการผลักดันให้ท่าเรือแหลมฉบังเป็นท่าเรือสีเขียวและดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต” Mr. Ashworth กล่าวเสริม

ทั้งนี้ ในเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา บริษัท ฮัทชิสัน พอร์ท ประเทศไทย (HPT) และคณะพาณิชยนาวีนานาชาติฯ ยังได้ลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อสานต่อความร่วมมือแบบทวิภาคี (MOA) ด้านวิชาการและกิจกรรมสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมการพัฒนาธุรกิจขนส่งทางทะเลอย่างยั่งยืนเป็นปีที่สอง โดย HPT จะสนับสนุนการออกแบบเนื้อหาในการเรียนการสอน เปิดโอกาสให้นักศักษาฝึกงานในบริษัทฯ และส่งเสริมการทัศนศึกษาของคณะที่ท่าเทียบเรือ HPT รวมถึงให้ความร่วมมือในงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับกิจการท่าเรือ และ มร. สตีเฟ้นท์ อาร์ชเวิรท ยังร่วมเป็นวิทยากรพิเศษบรรยายให้แก่นักศึกษาเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจขนส่งทางทะเลเพื่อความยั่งยืนอีกด้วย


อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Logistics Mananger เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Logistics Manager หรือคลิกที่นี่

บทความก่อนหน้านี้MSC นำเสนอบริการรับ-ส่งคืนตู้เปล่าที่ท่าบกในประเทศลาว
บทความถัดไปHPT ทุบสถิติตู้สินค้าผ่านท่าสะสม 40 ล้าน ทีอียู พร้อมเติบโตอย่างยั่งยืนในฐานะท่าเทียบเรือสีเขียว
Satida Tinarak
Satida Tinarak is a fresh writer who loves to read political novels or even constitutional law. Politics news is a subject that she never gets tired of.