Yang Ming Line (Thailand) เดินหน้าผลักดันธุรกิจผ่านการสื่อสารที่ใกล้ชิดทั้งภายในและภายนอกองค์กร

0
14554

ปัจจุบัน ระบบการสื่อสารระดับโลกได้ช่วยให้ผู้คนนับล้านทั่วโลกสามารถเชื่อมต่อถึงกันได้อย่างง่ายดาย จนนำไปสู่ยุคของการสื่อสารไร้พรมแดนที่รวดเร็วและสะดวกสบาย อย่างไรก็ตาม ขณะที่ทั่วโลกสามารถเชื่อมโยงถึงกันได้มากขึ้น การติดต่อสื่อสารระหว่างผู้คนยุคโลกดิจิทัลกลับมีระยะห่างมากขึ้นและมีความใกล้ชิดกันน้อยลง

เราไม่อาจปฏิเสธได้ว่าในปัจจุบันสังคมของเรากำลังมีการสื่อสารแบบตัวต่อตัวกับบุคคลอื่นน้อยลง หากคุณอาศัยอยู่ในเมืองและเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ คุณจะเห็นได้ว่าแต่ละวันผู้คนต่างจดจ้องอยู่กับโทรศัพท์มือถือ ทุกวันนี้คนเรามักติดต่อสื่อสารกับผู้คนผ่านหน้าจอเล็กๆ จนทำให้การปฏิสัมพันธ์แบบตัวต่อตัวและความสัมพันธ์ที่เคยมี กลายเป็นเรื่องในอดีตไปอย่างรวดเร็ว

เพื่อเป็นการตอบรับทิศทางของโลกเทคโนโลยีและธุรกิจที่กำลังเปลี่ยนแปลงไป บริษัท Yang Ming Line (Thailand) Co., Ltd. และ Mr. Derek Chen ประธานบริษัทคนแรกของ Yang Ming Line (Thailand) Co., Ltd. จึงเดินหน้าผลักดันและกระตุ้นให้ผู้คนมีส่วนร่วมโดยตรงกับโลกของโลจิสติกส์ โดยบริษัทฯ มุ่งเน้นการให้บริการโดยยึดความพึงพอใจของลูกค้าเป็นหลัก ผ่านการสื่อสารแบบตัวต่อตัวทั้งภายในและภายนอกองค์กร นิตยสาร LM มีโอกาสได้พูดคุยกับ Mr. Chen เพื่อทำความเข้าใจกับเป้าหมายในการสร้างความใกล้ชิดกับพนักงานและลูกค้า รวมไปถึงทิศทางในอนาคตของบริษัทฯ ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น

Mr. Derek Chen ประธานบริษัทคนแรกของ Yang Ming Line (Thailand) Co., Ltd.

Seeds of Change

สำหรับผู้ที่คุ้นเคยกับธุรกิจการขนส่งสินค้าทางเรือและโลจิสติกส์ในประเทศไทย ชื่อสายการเดินเรือ Yang Ming อาจเป็นชื่อที่ทุกคนรู้จักกันดี เนื่องจากบริษัทฯ ได้ดำเนินธุรกิจอยู่ในประเทศไทยมานานกว่าสี่ทศวรรษ โดยก่อนหน้านี้ดำเนินการภายใต้บริษัทตัวแทนในประเทศ

ตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา การใช้ความสัมพันธ์ของบริษัทตัวแทนขายเป็นหลักถือเป็นเรื่องที่เห็นกันโดยทั่วไปในประเทศไทย แต่เมื่อเวลาผ่านไป การที่สายการเดินเรือฯ มีสำนักงานท้องถิ่นและบริษัทในเครือภายในประเทศเป็นของตัวเอง ก็กลับมามีบทบาทมากขึ้น ดังนั้น เพื่อเป็นการปรับตัวให้สอดคล้องกับทิศทางของโลกธุรกิจ บริษัท Yang Ming Marine Transport Corp. จึงก่อตั้งบริษัทในเครือแห่งแรกในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 1 มกราคม ปี 2018 ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาที่น่ายินดีสำหรับบริษัทฯ เพราะนั่นคือการหว่านเมล็ดพันธุ์แห่งการเปลี่ยนแปลงและการปฏิรูปอย่างเป็นรูปธรรมครั้งแรก โดยหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดและชัดเจนที่สุดคือการย้ายสำนักงานไปยังอาคารสำนักงานแห่งใหม่ และด้วยที่ตั้งของสำนักงานแห่งใหม่ก็ได้เผยให้เห้นถึงสัญญานของการเปลี่ยนแปลงและการก้าวไปข้างหน้า โดยสำนักงานแห่งใหม่ของบริษัทฯ ตั้งอยู่ที่อาคารสิงห์ คอมเพล็ก ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ติดกับสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินเพชรบุรี โดยสำนักงานแห่งนี้ถือเป็นหนึ่งในอาคารสำนักงานแห่งใหม่และทันสมัยที่สุดในกรุงเทพฯ

Mr. Chen กล่าวว่า “นับตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา เรารู้สึกได้ถึงความตื่นเต้นและความมีชีวิตชีวา ที่ตั้งของสำนักงานแห่งใหม่ช่วยให้ทั้งพนักงานของบริษัทฯ และลูกค้าสามารถเดินทางได้สะดวกสบายยิ่งขึ้น นอกจากนี้ การมีสถานที่ทำงานและโครงสร้างพื้นฐานที่ดียังถือเป็นกุญแจสำคัญในแผนการเติบโตของเรา เนื่องจากสำนักงานเก่าของเรามีขนาดเล็กเกินไปทำให้ไม่สามารถรองรับพนักงานที่เรามีได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ขณะที่พื้นที่ต้อนรับแขกส่วนหน้าเองก็ยังไม่กว้างขวางเพียงพอสำหรับการรองรับลูกค้าและเจ้าหน้าที่เดินเอกสาร อีกทั้ง ด้วยที่ตั้งของสำนักงานแห่งใหม่ยังช่วยให้เราสามารถต่อยอดการเติบโตและการขยายธุรกิจได้อีกในอนาคต โดยเรายังมีพื้นที่ว่างและยังคงเฟ้นหาผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมมาร่วมงานกับเรา อย่างไรก็ตาม การก่อตั้งบริษัทฯ และย้ายอาคารสำนักงานมายังที่ตั้งใหม่ในช่วงเวลาสั้นๆ ถือเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่มาก เพราะการดำเนินการก่อตั้งสำนักงานแห่งใหม่ของสายการเดินเรือ Yang Ming Line (Thailand) โดยเริ่มจากศูนย์นั้นจะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เราก็มีการเตรียมพร้อมและเริ่มเก็บเกี่ยวผลของความพยายามที่เราหว่านไว้แล้ว”

Service-Oriented

Mr. Chen ยอมรับว่า เป้าหมายหลักของการก่อตั้งบริษัทในเครือฯ แห่งใหม่นี้ สิ่งที่บริษัทฯ ต้องการจะปรับปรุงมากที่สุดก็คือ การให้ความสำคัญกับคุณภาพการให้บริการ โดยบริษัทฯ ต้องการที่จะกระชับระยะเวลาและขั้นตอนในการประสานงานกับลูกค้าให้รวดเร็วขึ้น ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญที่ Mr. Chen ได้เน้นย้ำความสำคัญและต้องการผลักดันให้เกิดความเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างมาก จากประสบการณ์การทำงานของ Mr. Chen ที่ส่วนใหญ่มีโอกาสได้ทำงานในส่วนของฝ่ายการขายและการตลาดมาอย่างยาวนาน ทำให้เขาตระหนักดีว่า สิ่งนี้มีผลต่อความน่าเชื่อถือของบริษัทฯ และมีผลต่อการตัดสินใจของลูกค้า ดังนั้น เขาจึงได้กำหนดแนวทางการบริการจัดการสำนักงานแห่งนี้ ด้วยการเน้นการปฏิสัมพันธ์และการสื่อสารแบบตัวต่อตัวกับลูกค้า

Mr. Chen กล่าวว่า “ในธุรกิจการขนส่งสินค้าทางเรือและโลจิสติกส์ส่วนใหญ่แล้วการให้บริการและอัตราค่าระวางสินค้ามักจะอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกัน นั่นหมายความว่าเราต้องผลักดันตัวเองให้มีความแตกต่างในด้านอื่นๆ ซึ่งหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดที่ผมค้นพบก็คือ การส่งมอบประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้าและทำให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าพวกเขาจะได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด ดังนั้น เมื่อลูกค้าโทรศัพท์หรือส่งอีเมลเข้ามา เราต้องสามารถตอบสนองและแก้ไขปัญหาให้ลูกค้าได้โดยทันที ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่พนักงานของเราทุกคนพึงปฏิบัติมาโดยตลอด โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ฝ่ายขาย ในอดีตตัวแทนฝ่ายขายอาจจะเพียงแค่โทรศัพท์ไปหาลูกค้า แต่เราจะไม่ทำแบบนั้นอีกต่อไป เพราะเรามองว่าการมีปฏิสัมพันธ์แบบตัวต่อตัวกับลูกค้าถือเป็นกุญแจที่สำคัญ ซึ่งแตกต่างจากการพูดคุยผ่านทางโทรศัพท์ เพราะอย่างไรก็ตามธุรกิจการขนส่งสินค้าทางเรือและโลจิสติกส์ก็ยังคงเป็นธุรกิจการให้บริการ ฉะนั้น การพูดคุยกันต่อหน้าจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง จากประสบการณ์ตรง ผมบอกได้เลยว่ามันสามารถสร้างความแตกต่างให้กับลูกค้ามากทีเดียว ยิ่งไปกว่านั้น การได้นั่งรับฟังปัญหาของลูกค้าทำให้เราเข้าใจกันมากขึ้น และทำให้ความสัมพันธ์ของเราแข็งแกร่งขึ้นด้วย”

Upward Momentum

อย่างที่ทราบกันดีว่าประเทศไทยมีข้อได้เปรียบด้านที่ตั้งทางกลยุทธ์ ด้วยที่ตั้งซึ่งอยู่ในพื้นที่ใจกลางภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งสามารถเชื่อมต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้านที่กำลังมีการเติบโตทางธุรกิจแบบก้าวกระโดดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ดังนั้น สายการเดินเรือ Yang Ming จึงมุ่งมั่นยกระดับการให้บริการด้วยการเพิ่มขนาดเรือขนส่งสินค้าในบริการขนส่งสินค้าที่เชื่อมต่อภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อสนับสนุนตลาดที่กำลังเติบโตและยังเป็นการขยายขีดความสามารถในการรองรับของเครือข่ายบริการของสายการเดินเรือฯ อีกด้วย

Mr. Chen เปิดเผยว่า สำหรับสายการเดินเรือ Yang Ming ประเทศไทยมีปริมาณการส่งออกสินค้ามากเป็นอันดับสองในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตามหลังเพียงประเทศเวียดนามซึ่งกำลังมีการเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีมานี้อยู่เล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ปริมาณการส่งออกสินค้าของไทยยังมีเสถียรภาพที่ดีและคาดว่าจะมีการเติบโตขึ้นไปอีก ซึ่งสายการเดินเรือ Yang Ming เองก็มองเห็นศักยภาพที่ดีและโอกาสทางธุรกิจอีกมากมายในตลาดประเทศไทย อีกทั้งยังเป็นประเทศที่มีส่วนแบ่งทางการตลาดสำหรับกลุ่มสายการเดินเรือหลักที่กำลังครองตลาดอยู่ในปัจจุบันสูง ดังนั้น ตลาดประเทศไทยจึงยังมีช่องว่างสำหรับ Yang Ming ที่จะเติบโตได้อีกมาก

การเพิ่มขึ้นของบริการขนส่งสินค้าทางเรือระหว่างประเทศไทยและปลายทางอื่นๆ ได้สะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตของปริมาณสินค้าขาออกของไทยได้เป็นอย่างดี  ปัจจุบัน Yang Ming ให้บริการขนส่งสินค้าโดยเข้าเทียบท่าเรือในประเทศทั้งหมด 14 เส้นทางบริการ และเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าของสายการเดินเรือฯ Yang Ming จึงไม่เพียงให้บริการโดยเข้าเทียบท่าที่ท่าเรือแหลมฉบังเท่านั้น แต่ยังให้บริการโดยเข้าเทียบท่าที่ท่าเรือ Kerry Siam Seaport และท่าเรือกรุงเทพด้วย

เพื่อเป็นการเพิ่มความต่อเนื่องของคุณภาพการให้บริการในประเทศไทย สายการเดินเรือ Yang Ming ยังได้นำเสนอบริการขนส่งสินค้ารายสัปดาห์ผ่านการเข้าเทียบท่าเรือหลักหลายแห่ง อีกทั้งยังให้บริการขนถ่ายสินค้าเชื่อมต่อระหว่างท่าเรือแหลมฉบัง และท่าเรือกรุงเทพ โดยมีท่าเรือ Singapore และ Kaohsiung เป็นศูนย์กลางการขนถ่ายสินค้าหลักเพื่อเชื่อมต่อกับเครือข่ายระดับโลกของสายการเดินเรือฯ

นอกจากนี้ การที่สายการเดินเรือ Yang Ming เป็นสมาชิกของกลุ่มพันธมิตรสายการเดินเรือ THE Alliance ร่วมกับสายการเดินเรือ ONE และ Hapag-Lloyd ยังช่วยให้สายการเดินเรือฯ สามารถให้บริการได้อย่างครอบคลุมมากยิ่งขึ้น โดยบริการขนส่งสินค้าเส้นทางไกลที่กลุ่มสายการเดินเรือฯ ให้บริการนั้น ไม่ได้นำเสนอเฉพาะปลายทางในชายฝั่งตะวันออกและชายฝั่งตะวันตกของสหรัฐอเมริกาเท่านั้น แต่ยังมีบริการ FE5 ที่ให้บริการขนส่งเส้นทางตรงไปยังทวีปยุโรป ในเส้นทางที่ได้รับความนิยมสำหรับการขนส่งสินค้าออกจากประเทศไทย ผ่านเรือขนส่งสินค้า MV YM WISDOM เรือขนส่งสินค้าขนาด 14,220 ทีอียู ซึ่งเป็นเรือที่ใหญ่ที่สุดในกองเรือขนส่งสินค้าของ Yang Ming ลำล่าสุด ที่ปฏิบัติการเข้าเทียบท่าที่ท่าเรือแหลมฉบังเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 8 มีนาคม ในเส้นทางบริการ FE5

Mr. Chen กล่าวว่า “จากความสำเร็จในการปรับโครงสร้างบริษัทฯ ใหม่ทั้งหมดในครั้งนี้ ผมต้องขอขอบคุณพนักงานของบริษัทฯ ทุกคนที่มีส่วนสนับสนุนให้เราก้าวมาถึงจุดนี้ได้ภายในระยะเวลาเพียงไม่นาน นี่ถือเป็นสิ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงความพยายามในการสร้างความแข็งแกร่งและการเติบโตของเราทั้งบริษัทฯ ขณะเดียวกันเราก็ยังคงรักษาความใกล้ชิดกับลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง ในอนาคตผมหวังว่าเราจะมีพนักงานที่มีศักยภาพเพิ่มมากขึ้นไปอีก เพื่อช่วยกันขยายธุรกิจของเราในประเทศไทย ควบคู่ไปกับการพัฒนาการเติบโตร่วมกับลูกค้าของเราด้วย”

อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Logistics Mananger เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Logistics Manager หรือคลิกที่นี่

บทความก่อนหน้านี้TIPS พัฒนาธุรกิจลานตู้สินค้า TIPS CD1 ผ่านการลงทุนด้านเทคโนโลยีและซอฟท์แวร์
บทความถัดไปBlockchain เทคโนโลยีพลิกโลกโลจิสติกส์
Pichanon Paoumnuaywit
tech and history geek, who enjoys hunting and photographing dark skies and milky way