บริษัท Sino Logistics Corporation ขยายขอบข่ายการให้บริการแก่ลูกค้าในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์และการขนส่งสินค้า ด้วยการเปิดคลังสินค้าใหม่ ใกล้ท่าเรือแหลมฉบัง พร้อมรองรับการเติบโตของตลาดโลจิสติกส์
นิตยสาร LM ฉบับนี้ ได้มีโอกาสพูดคุยกับ คุณนันท์มนัส วิทยศักดิ์พันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท Sino Logistics Corporation เกี่ยวกับจุดเริ่มต้นและเป้าหมายหลักในการเปิดตัวคลังสินค้าแห่งใหม่ พร้อมเผยทิศทางการขยายธุรกิจของ Sino Logistics Corporation ในอนาคตอันใกล้นี้
Respond to the Increasing Demand
แม้ปัจจุบันบริษัท Sino Logistics Corporation จะก้าวขึ้นเป็นบริษัทผู้ให้บริการโลจิสติกส์ครบวงจรอย่างเต็มรูปแบบและได้รับการตอบรับจากทั้งลูกค้าและพันธมิตรในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์เป็นอย่างดีมาโดยตลอด แต่บริษัทยังคงมุ่งมั่นต่อยอดความสำเร็จและเดินหน้าขยายขีดความสามารถในการให้บริการ เพื่อรองรับความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าอย่างไม่หยุดยั้ง โดยล่าสุดบริษัทฯ ได้เปิดตัวคลังสินค้าใหม่ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อรองรับสินค้าหลากหลายประเภท อาทิ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ชิ้นส่วนอะไหล่ยานยนต์ ชิ้นส่วนประกอบต่างๆ ตลอดจนสินค้าทั่วไปอื่นๆ แก่ลูกค้า ตามแผนการขยายธุรกิจระยะห้าปีของบริษัทฯ
คุณนันท์มนัส อธิบายเกี่ยวกับแผนการเปิดคลังสินค้าแห่งใหม่นี้ว่า “คลังสินค้าเป็นอีกหนึ่งบริการที่เราได้ตัดสินใจลงทุนเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าโดยเฉพาะ ซึ่งการเปิดคลังสินค้าแห่งใหม่นี้เป็นไปตามแผนขยายธุรกิจระยะห้าปีของบริษัทฯ ระหว่างปี 2021-2025 โดยเราได้กำหนดแผนไว้ว่าภายในปี 2022 จะต้องมีคลังสินค้าเป็นของบริษัทเองอย่างน้อยสองแห่งในประเทศไทย ซึ่งตอนนี้คลังสินค้าแห่งแรกได้เปิดให้บริการไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย ขณะที่คลังสินค้าแห่งที่สองกำลังอยู่ในช่วงของการก่อสร้างและคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณปลายปีนี้”
Strategic Location
คลังสินค้าขนาด 9,880 ตร.ม. ของ Sino Logistics Corporation มาพร้อมข้อได้เปรียบด้านที่ตั้งทางกลยุทธ์ ด้วยสถานที่ตั้งที่อยู่ห่างจากท่าเรือแหลมฉบังเพียงสามกิโลเมตร จะช่วยให้ลูกค้าสามารถบริหารจัดการเวลาในการบรรจุและขนส่งสินค้าได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ พื้นที่จัดเก็บสินค้าขนาดใหญ่ภายในคลังฯ ยังมีการแบ่งโซนเพื่อจัดเก็บสินค้าแต่ละประเภทไว้เป็นอย่างดี ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย ประสิทธิภาพในการจัดเก็บ และความรวดเร็วในการจัดการสินค้าทั้งขาเข้าและขาออก
คุณนันท์มนัส กล่าวว่า “คลังสินค้าแห่งใหม่นี้มีข้อได้เปรียบอย่างเห็นได้ชัดคือเรื่องของทำเลที่ตั้ง เพื่อให้ลูกค้าที่เลือกใช้บริการกับเราสามารถบริหารจัดการเวลาในการขนส่งและกระจายสินค้าได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ เรายังมีพื้นที่ว่างหน้าคลังสินค้าขนาด 2,000 ตร.ม. ซึ่งเตรียมจัดทำเป็นลานวางตู้เปล่า สำหรับการจัดการและตรวจเช็กสภาพตู้สินค้า เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้ามากยิ่งขึ้น”
Safety Is the Top Priority
นอกเหนือจากข้อได้เปรียบด้านทำเลที่ตั้งและขีดความสามารถในการรองรับสินค้า คลังสินค้าแห่งนี้ยังได้นำเทคโนโลยีเข้ามาสนับสนุนการบริหารจัดการคลังสินค้าให้ปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และตรงตามมาตรฐานระดับสากล อาทิ ระบบ Warehouse Management System ระบบกล้อง CCTV ความละเอียดสูง แบตเตอรี่สำรองไฟ และเทคโนโลยี RFID เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ลูกค้าทุกรายว่าคลังสินค้าแห่งนี้สามารถให้บริการแก่ลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว ปลอดภัย ได้มาตรฐาน
“สำหรับคลังสินค้าแห่งนี้เราได้มีการติดตั้งเทคโนโลยีช่วยบริหารจัดการและระบบความปลอดภัยต่างๆ พร้อมปฏิบัติการโดยทีมงานมืออาชีพ เพื่อเน้นย้ำคุณภาพและความปลอดภัยในการปฏิบัติการทั้งสำหรับพนักงานและสินค้าทุกชิ้นของลูกค้า ยิ่งไปกว่านั้น เรากำลังอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบและเตรียมความพร้อมเพื่อยกระดับคลังสินค้าแห่งนี้ให้ได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยด้านโลจิสติกส์ C-TPAT อีกด้วย” คุณนันท์มนัส กล่าวเสริม
Keep Growing
หลังจากเปิดตัวคลังสินค้าแห่งแรกที่แหลมฉบัง บริษัท Sino Logistics Corporation ยังได้เตรียมความพร้อมสำหรับการพัฒนาคลังสินค้าแห่งที่สอง เพื่อขยายขีดความสามารถในการให้บริการ เพื่อให้การรองรับและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างครอบคลุม
“ตอนนี้คลังสินค้าแห่งที่สองกำลังอยู่ในขั้นตอนการก่อสร้าง และคาดว่าการก่อสร้างจะเสร็จสมบูรณ์ พร้อมเปิดใช้บริการในวันที่ 1 มกราคม ปี 2023 โดยคลังสินค้าแห่งที่สองของเราได้รับการวางแผนพัฒนาให้เป็นคลังสินค้าทัณฑ์บน (bonded warehouse) เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าให้ได้หลากหลายกลุ่มธุรกิจมากยิ่งขึ้น”
ด้วยความใส่ใจในรายละเอียดและความต้องการของลูกค้าทุกราย ทำให้บริษัท Sino Logistics Corporation มุ่งมั่นพัฒนาธุรกิจและบริการให้มีความหลากหลายและครอบคลุม เพื่อสนับสนุนธุรกิจของลูกค้าได้อย่างตรงจุดในฐานะพันธมิตรด้านโลจิสติกส์ที่ลูกค้าไว้วางใจ ดังเช่นการเปิดคลังสินค้าแห่งใหม่เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าในครั้งนี้ อีกทั้ง การพัฒนาคุณภาพทุกบริการที่มีอยู่เดิมควบคู่กันไปอย่างไม่หยุดยั้ง ก็จะเป็นอีกหนึ่งแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้ Sino Logistics Corporation ก้าวขึ้นเป็นผู้ให้บริการโซลูชันโลจิสติกส์ครบวงจรอันดับแรกที่ผู้ใช้บริการนึกถึง
อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Logistics Mananger เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Logistics Manager หรือคลิกที่นี่
