APM Terminals เดินหน้าผลักดันการขนส่งทางราง ลดผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

0
386

การขนส่งสินค้าทางรางถือเป็นรูปแบบการขนส่งสินค้าทางบกที่ใช้เชื้อเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยข้อมูลจากสมาคมรถไฟอเมริกัน (AAR) ระบุว่า รถไฟสามารถใช้ปริมาณเชื้อเพลิงเพียงหนึ่งแกลลอนในการเดินทางเป็นระยะทางเฉลี่ยถึง 500 ไมล์ นอกจากนี้ ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา สำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมประจำสหรัฐอเมริกา (EPA) ยังออกมาสนับสนุนกิจกรรมการขนส่งสินค้าทางราง โดยกล่าวว่าเป็นโหมดการขนส่งสินค้าสำคัญที่สามารถสร้างความแตกต่างในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศได้

APM Terminals ผู้ปฏิบัติการท่าเทียบเรือตู้สินค้าชั้นนำ เดินหน้าสนับสนุนกิจกรรมการขนส่งสินค้าทางราง ผ่านความมุ่งมั่นในการยกระดับมาตรฐานความรับผิดชอบต่อสังคมมาแล้วเป็นระยะเวลาหนึ่ง โดยการมอบโซลูชันการขนส่งสินค้าคาร์บอนต่ำหรือคาร์บอนเท่ากับศูนย์ให้แก่ลูกค้าและผู้บริโภค พร้อมเดินหน้าขยายทางเลือกบริการขนส่งสินค้าทางรางเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยกตัวอย่างเช่น การปฏิบัติการของท่าเรือ APM Terminals Pipavav ซึ่งสามารถนำตู้สินค้าราว 50,000 ตู้ ออกจากท้องถนน โดยเปลี่ยนมาใช้โหมดการขนส่งทางราง อีกทั้งยังช่วยลดปัญหาการจราจรติดขัดและลดมลภาวะลงได้อย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ ในเดือนที่ผ่านมา ท่าเรือฯ ยังสามารถรองรับปริมาณการขนส่งสินค้าทางรางถึง 206 ขบวน และทำลายสถิติสูงสุดของปี 2020 ซึ่งได้รองรับขบวนรถไฟแบบวางตู้สินค้าซ้อนสองชั้น 157 ขบวนต่อเดือน

ในขณะเดียวกัน สำนักงานสาขาของ APM Terminals ใน Mobile รัฐ Alabama สหรัฐอเมริกา ยังเดินหน้าขยายการลงทุนด้านการขนส่งสินค้าทางรางเป็นมูลค่า 60 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ให้ความสำคัญต่อการลดการปล่อยคาร์บอนเพิ่มมากขึ้น

ข้อมูลจาก EPA ระบุว่าการขนส่งสินค้าทางรางมีสัดส่วนการปล่อยคาร์บอนในสหรัฐอเมริกาคิดเป็น 0.5 เปอร์เซ็นต์จากปริมาณการปล่อยคาร์บอนทั้งหมด และปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) 1.7 เปอร์เซ็นต์จากปริมาณ GHG ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งสินค้า โดย AAR ระบุว่า “การขนส่งสินค้าทางรางแทนการขนส่งด้วยรถบรรทุกจะช่วยลดการปล่อย GHG เฉลี่ยได้สูงสุดถึง 75 เปอร์เซ็นต์”

อย่างไรก็ตาม ประโยชน์ของการการขนส่งสินค้าทางรางมีมากกว่าเพียงการบรรลุเป้าหมายในการปล่อยคาร์บอนสุทธิเท่ากับศูนย์ โดย Mr. Leo Huisman ผู้อำนวยการประจำ APM Terminals Americas กล่าวว่า “ลูกค้าของเรากำลังมองหาตัวเลือกรูปแบบการขนส่งที่เพิ่มมากขึ้นสำหรับซัพพลายเชนของพวกเขา เราจึงให้ความสำคัญกับการเพิ่มความรวดเร็วในการเชื่อมต่อกับผู้ให้บริการขนส่งสินค้าทางรางเพื่อนำส่งสินค้าสู่ตลาดภายในทวีป”


อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Logistics Mananger เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Logistics Manager หรือคลิกที่นี่

บทความก่อนหน้านี้DP World เตรียมขยายขีดความสามารถในการรองรับตู้สินค้าอีก 3 ล้านทีอียูภายในปี 2023
บทความถัดไปMaersk ปฏิวัติวงการอีคอมเมิร์ซอินเดียด้วยโซลูชัน One Country, One Price