Cainiao Network (Cainiao) หน่วยธุรกิจด้านโลจิสติกส์ของ Alibaba Group เปิดเผยว่าได้ร่วมเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์กับ Nestlé China เพื่อทำงานร่วมกันในเชิงลึก โดยครอบคลุมทั่วทั้งซัพพลายเชนอัจฉริยะของ Nestlé รวมทั้งแบรนด์ในเครือ อย่าง Starbucks at Home, Hsu Fu Chi, Wyeth และ Totole โดยเฉพาะในธุรกิจคลังสินค้าพร้อมจัดส่งสำหรับกลุ่มลูกค้าแบบ B2C และ B2B, การปรับกระบวนการซัพพลายเชนให้เป็นดิจิทัลและมีความยั่งยืน ตลอดจนการยกระดับปฏิบัติการคลังสินค้าพร้อมจัดส่งสำหรับการขายสินค้าโดยตรงถึงมือผู้บริโภค (DTC), ระบบโลจิสติกส์อัตโนมัติ และเทคโนโลยี IoT เป็นต้น
Cainiao และ Nestlé ร่วมกันจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการคลังสินค้าพร้อมจัดส่งอัตโนมัติสำหรับกลุ่มลูกค้า DTC ในมณฑลเจียงซู ประเทศจีน โดยใช้ประโยชน์จากความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ด้านการจัดการซัพพลายเชนและเทคโนโลยีโลจิสติกส์อัจฉริยะของ Cainiao ในการจัดหาโซลูชันด้านโลจิสติกส์ที่เหมาะสม และมีการปรับใช้ระบบอัตโนมัติเพื่อยกระดับประสิทธิภาพ และลดการปฏิบัติงานแบบแมนวลภายในศูนย์ปฏิบัติการ
นอกจากนี้ ศูนย์กลางการควบคุมซัพพลายเชนระบบดิจิทัลแห่งใหม่ของ Cainiao จะทำหน้าที่เป็นแกนหลักในการบริหารจัดการซัพพลายเชน เพื่อกระชับกระบวนการทางธุรกิจ และขับเคลื่อนประสิทธิภาพการดำเนินงานทั่วทั้งซัพพลายเชน โดยเป็นการบูรณาการระบบต่างๆ จำนวนมากเข้าด้วยกันเพื่อประสานการทำงานระหว่างมนุษย์และเครื่องจักร และระบบอัตโนมัติทั้งกระบวนการ อีกทั้งยังสามารถตรวจจับความผิดปกติและส่งข้อมูลการวินิจฉัยเพื่อสนับสนุนการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลได้อีกด้วย
ยิ่งไปกว่านั้น ศูนย์กลางการควบคุมแห่งนี้ยังจะทำหน้าที่รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลจากสถานการณ์ต่างๆ ในแต่ละแง่มุมของการดำเนินงานในห่วงโซ่มูลค่า เริ่มตั้งแต่การวางแผน การจัดซื้อ การผลิต การจัดเก็บ ไปจนถึงกระบวนการโลจิสติกส์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการหมุนเวียนของสินค้าคงคลังและการจัดการคลังสินค้า ซึ่งจะช่วยยกระดับขีดความสามารถและความยืดหยุ่นของซัพพลายเชนโดยภาพรวม
โดยซัพพลายเชนดิจิทัลอัจฉริยะของ Cainiao จะมอบความโปร่งใสยิ่งขึ้นให้กับ Nestlé เพื่อให้สามารถบริหารจัดการการเปลี่ยนแปลงของตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวอย่างเช่น การจัดการคลังสินค้าและสินค้าคงคลังอัจฉริยะที่สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ เพื่อให้สามารถตอบรับความต้องการของผู้บริโภคที่มีความผันผวนได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งจะมีส่วนสนับสนุน Nestlé ในการพัฒนาเครือข่ายซัพพลายเชนที่มีผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง
อนึ่ง ศูนย์ปฏิบัติการคลังสินค้าพร้อมจัดส่งแห่งใหม่นี้จะมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการขยายแบรนด์หลักของ Nestlé ในรูปแบบ DTC ผ่านช่องทางการกระจายสินค้าแบบ DTC โดยเฉพาะ เพื่อให้ Nestlé สามารถมอบบริการด้านโลจิสติกส์สำหรับผลิตภัณฑ์ประเภทอาหารและเครื่องดื่มที่เหนือกว่าแก่ผู้บริโภคชาวจีนได้
อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Logistics Mananger เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Logistics Manager หรือคลิกที่นี่