SINO ประเมินผลกระทบหากสหรัฐอเมริกาขึ้นค่าธรรมเนียมจอดเรือขนส่งสินค้าที่สร้างในจีน ให้ความมั่นใจประสานงานสายการเดินเรือเตรียมพื้นที่รองรับความต้องการของลูกค้า

0
60

เมื่อเร็วๆ นี้ Sino Logistics Corporation (SINO) มองถึงผลกระทบหากสหรัฐอเมริกาปรับขึ้นค่าธรรมเนียมการจอดเรือขนส่งสินค้าที่สร้างในประเทศจีนหรือสายเรือที่จดทะเบียนในประเทศจีน คาดว่าจะส่งผลต่อต้นทุนค่าขนส่งสินค้าไปยังสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้น จากการปรับเส้นทางเดินเรือเพื่อเข้าจอดเทียบท่าเฉพาะท่าเรือหลักที่มีความต้องการขนส่งสินค้าจำนวนมากเท่านั้น และอาจกระทบต่อจำนวนเรือในตลาดที่อาจไม่เพียงพอ เนื่องจากต้องปรับเปลี่ยนไปใช้เรือจากประเทศอื่นๆ ทดแทน โดยผู้บริหารบริษัท SINO ให้ความมั่นใจในการประสานงานสายการเดินเรือเพื่อเตรียมพื้นที่รองรับให้เพียงพอต่อความต้องการ

คุณนันท์มนัส วิทยศักดิ์พันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท Sino Logistics Corporation

คุณนันท์มนัส วิทยศักดิ์พันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท Sino Logistics Corporation กล่าวว่า “สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐอเมริกา (USTR) กำลังพิจารณาปรับขึ้นค่าธรรมเนียมการจอดเรือขนส่งสินค้าที่สร้างในประเทศจีนหรือสายการเดินเรือที่จดทะเบียนในประเทศจีนโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อฟื้นฟูอุตสาหกรรมการต่อเรือของสหรัฐอเมริกา หลังจากจีนมีส่วนแบ่งการตลาดในอุตสาหกรรมการต่อเรือของโลกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา”

โดยหากการปรับขึ้นค่าธรรมเนียมการจอดเรือได้รับการอนุมัติ จะส่งผลกระทบกับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมเรือขนส่งสินค้าทางทะเลที่ให้บริการด้วยเรือขนส่งสินค้าที่สร้างในประเทศจีน และผู้ส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐอเมริกาที่ใช้บริการเรือดังกล่าว ซึ่งจะทำให้ต้นทุนการขนส่งสินค้าเพิ่มขึ้น รวมถึงส่งผลกระทบกับจำนวนเรือในอุตสาหกรรมขนส่งสินค้าทางทะเลไปยังสหรัฐอเมริกาอาจไม่เพียงพอต่อความต้องการ เนื่องจากการปรับเปลี่ยนไปใช้เรือขนส่งทางสินค้าที่ไม่ได้สร้างในประเทศจีนทดแทนเพื่อเลี่ยงผลกระทบจากการขึ้นค่าธรรมเนียมการจอดเรือ

นอกจากนี้ การปรับขึ้นค่าธรรมเนียมดังกล่าว อาจทำให้สายการเดินเรือต้องลดจำนวนการจอดท่าเทียบเรือในสหรัฐอเมริกา โดยเลือกเข้าจอดเทียบท่าเรือหลักที่มีความต้องการขนส่งสินค้าเป็นจำนวนมากเท่านั้น และเลี่ยงการเข้าเทียบท่าเรือที่มีความต้องการขนส่งสินค้าในปริมาณน้อย เนื่องจากไม่คุ้มค่ากับต้นทุน ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการปรับเปลี่ยนเส้นทางเดินเรือ และมีผลต่อต้นทุนรวมถึงระยะเวลาจัดส่งสินค้าที่อาจเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ บริษัท SINO ได้วางแผนบริหารจัดการเพื่อรับมือปัญหาขาดแคลนเรือดังกล่าวที่อาจเกิดขึ้น โดยใช้จุดแข็งจากการเป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์ที่มีปริมาณขนส่งสินค้าทางทะเลเส้นทางไทย-สหรัฐอเมริกาเป็นอันดับสามของโลก และเป็นอันดับหนึ่งในประเทศไทยในเส้นทางดังกล่าว รวมถึงมีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ประกอบการสายการเดินเรือชั้นนำของโลกที่ให้บริการขนส่งสินค้าไปยังสหรัฐอเมริกาในการประสานงานเพื่อจัดหาพื้นที่ให้เพียงพอกับความต้องการของลูกค้า เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้าจะถึงจุดหมายปลายทางได้ตามระยะเวลาที่กำหนด


อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Logistics Mananger เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Logistics Manager หรือคลิกที่นี่

บทความก่อนหน้านี้MPA และ CMA CGM Group ลงนาม MoU พัฒนาการขนส่งและนวัตกรรมดิจิทัลที่ยั่งยืน
บทความถัดไปdeugro ขนส่งเครน Liebherr จากเยอรมนีสู่ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์