จากบริษัทผู้ให้บริการรับจัดการขนส่งสินค้าขนาดเล็กที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1988 สู่ผู้นำธุรกิจโลจิสติกส์แบบครบวงจรชั้นแนวหน้าของไทย ในปีนี้ Profreight ก้าวสู่ปีที่ 35 แห่งความสำเร็จ พร้อมต่อยอดการเติบโตจากรุ่นสู่รุ่น เร่งเดินหน้าส่งมอบบริการโลจิสติกส์ที่ครอบคลุมอย่างไม่หยุดยั้ง

คุณสุวิทย์ รัตนจินดา กรรมการผู้จัดการ บริษัท Profreight

นิตยสาร LM ฉบับนี้ได้รับเกียรติจากคุณสุวิทย์ รัตนจินดา กรรมการผู้จัดการ, คุณรัศมี อัศวสังสิทธิ กรรมการ, คุณชานน อัศวสังสิทธิ, คุณวรชิต รัตนจินดา, คุณวิชิตา รัตนจินดา และคุณณิชา รัตนจินดา Management Executive บริษัท Profreight มาร่วมพูดคุยและบอกเล่าถึงเส้นทางแห่งความสำเร็จของบริษัทฯ นับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งจนก้าวเข้าสู่ปีที่ 35 รวมถึงแนวทางบริหารธุรกิจปัจจุบันภายใต้การนำของผู้บริหารรุ่นใหม่ไฟแรง เพื่อนำพาบริษัท Profreight ให้เติบโตยิ่งขึ้นทั้งในระดับประเทศและระดับสากล

Journey to Success

บริษัท Profreight เริ่มต้นธุรกิจในฐานะบริษัทผู้ให้บริการรับจัดการขนส่งสินค้า (freight forwarder) โดยในระยะแรกบริษัทเน้นให้บริการขนส่งสินค้าประเภทเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม และของใช้ทั่วไป โดยมีรูปแบบการขนส่งในรูปแบบการขนส่งสินค้าแบบไม่เต็มตู้ (LCL) เป็นหลัก

คุณรัศมี อัศวสังสิทธิ กรรมการ บริษัท Profreight

คุณรัศมี กล่าวว่า “ในระยะแรก บริษัท Profreight ก่อตั้งขึ้นเพื่อเป็นผู้ให้บริการขนส่งสินค้าทั่วไป ก่อนที่จะขยายขอบข่ายการให้บริการเพิ่มเติมผ่านตัวแทนและหุ้นส่วนธุรกิจทั่วโลก ด้วยการบริการสินค้ารวมตู้ (LCL consolidation) เพื่อการส่งออกและนำเข้าระหว่างประเทศไทยกับทั่วโลก รวมถึงการให้บริการพิธีการศุลกากร พร้อมขยายเครือข่ายของลูกค้าให้ครอบคลุมและหลากหลายมากขึ้น ก่อนที่หลายปีต่อมาเราได้ริเริ่มบริการขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนทางรถไฟ ระหว่างไทยและมาเลเซีย รวมถึงการขนส่งข้ามพรมแดนด้วยรถบรรทุก ควบคู่ไปกับการให้บริการขนส่งสินค้าทางทะเล นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้เดินหน้าพัฒนาธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์ให้ครบวงจรมากขึ้น ทั้งบริการผ่านพิธีการศุลกากร การเป็นตัวแทนออกของ การจัดการขนส่งสินค้าโครงการและสินค้าขนาดใหญ่ ธุรกิจคลังสินค้าและเขตปลอดอากร (freezone) รวมไปถึงการเป็นตัวแทนสายการบิน จนถือเป็นบริษัทผู้ให้บริการโลจิสติกส์แบบครบวงจรอย่างแท้จริง”

อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจเปิดให้บริการแต่ละรูปแบบเพิ่มเติมในแต่ละห้วงเวลา จำเป็นต้องอาศัยมุมมองและวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลของผู้บริหาร รวมไปถึงความรู้เชิงลึกในอุตสาหกรรมฯ เป็นส่วนประกอบที่สำคัญ โดยคุณสุวิทย์ อธิบายว่า “แม้ว่าเราจะให้ความสำคัญกับเรื่องความเป็นมืออาชีพในด้านการให้บริการ แต่การจะผลักดันให้บริษัทประสบความสำเร็จนั้นความเป็นมืออาชีพอย่างเดียวคงไม่เพียงพอ เราต้องมีการวางแผน การมองอนาคตของธุรกิจ และการตัดสินใจที่เฉียบคม แม้ Profreight จะเริ่มต้นจากธุรกิจเล็กๆ ในฐานะผู้ให้บริการรับจัดการขนส่งสินค้าระดับท้องถิ่น ที่มีเงินทุนจำกัด แต่เราก็มีเป้าหมายและความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาธุรกิจให้สามารถเติบโตและขยายตัวได้ พร้อมกับให้บริการแก่ลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ เราจึงไม่หยุดที่จะศึกษาแนวทางและวิธีการให้บริการจากผู้เชี่ยวชาญแต่ละด้าน ในประเทศที่เป็นผู้นำด้านธุรกิจโลจิสติกส์ เช่น ไต้หวัน ฮ่องกง ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และยุโรป เพื่อนำมาปรับใช้ให้เข้ากับบริบทและรูปแบบของประเทศไทย และเลือกองค์ประกอบที่จะส่งเสริมให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ ผ่านการเพิ่มบริการที่หลากหลายและตรงต่อความต้องการของตลาด และที่สำคัญคือต้องเป็นธุรกิจที่จะสามารถเกื้อหนุนให้ธุรกิจที่มีอยู่เดิมของเราสามารถเติบโตไปด้วยกันได้”

Profreight – Your Logistics Partner

คุณณิชา รัตนจินดา Management Executive บริษัท Profreight

ปัจจุบัน บริษัท Profreight ให้บริการจัดการขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์แบบครบวงวรให้แก่ลูกค้าหลายขนาดธุรกิจ ในหลายอุตสาหกรรมฯ ทั้งในไทยและต่างประเทศ ด้วยบริการที่เข้าใจและเข้าถึง พร้อมทีมงานบริหาร ฝ่ายขาย ฝ่ายปฏิบัติการ และฝ่ายสนับสนุนที่มีทั้งความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในอุตสาหกรรมมาอย่างยาวนาน

คุณณิชา กล่าวว่า “ด้วยเป้าหมายในการเป็นบริษัทระดับประเทศที่สามารถให้การสนับสนุนลูกค้าในระดับโลก ไม่ว่าจะเป็นบริษัทขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ บริษัทสตาร์ทอัพ หรือบริษัท B2C ที่ต้องการผันตัวมาเป็นบริษัท B2B เราก็พร้อมที่จะเป็นพันธมิตรและร่วมทำงานกับทุกองค์กร เพื่อสนับสนุนธุรกิจของผู้ประกอบการทั้งในไทยและต่างประเทศ”

“เนื่องจากธุรกิจของลูกค้ามีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ เราในฐานะผู้ให้บริการโลจิสติกส์ก็ต้องมีการเตรียมความพร้อมและติดตามเทรนด์ใหม่ๆ ของตลาดอยู่เสมอ เนื่องจากลูกค้าอาจมีความต้องการที่เปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติม ขณะเดียวกัน หากเรามีบริการใดๆ ที่สามารถเพิ่มคุณค่าให้กับสินค้าหรือเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการปฏิบัติการ ซึ่งเราเล็งเห็นว่าจะเป็นประโยชน์กับลูกค้า เราก็พร้อมที่จะนำเสนอให้กับลูกค้า เพื่อนำไปพิจารณาพัฒนาธุรกิจหรือสนับสนุนให้เขาทำงานได้ง่ายหรือมีประสิทธิภาพมากขึ้น” คุณชานน กล่าวเสริม

Go Beyond Borders

คุณชานน อัศวสังสิทธิ Management Executive บริษัท Profreight

ด้วยการยึดมั่นในการให้บริการระดับมืออาชีพและมุ่งมั่นนำเสนอบริการที่ครอบคลุมแก่ลูกค้า พร้อมสนับสนุนและอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าแบบครบวงจร บริษัท Profreight ได้นำเอาหลักการเดียวกันนี้มาปรับใช้กับทุกหน่วยธุรกิจของบริษัท

คุณชานน กล่าวว่า “ในฐานะผู้ให้บริการคลังสินค้าแบบครบวงจร ที่มีบริการครอบคลุมตั้งแต่การจัดเก็บ การจัดการคลังสินค้าทั้งระบบ ไปจนถึงการกระจายสินค้า ในจำนวนนี้เรามีลูกค้าหลายรายที่เป็นบริษัทระดับโลกและมีฐานปฎิบัติการทั้งในประเทศและต่างประเทศ เราจึงต้องมีการพัฒนาและพร้อมสนุนนให้ลูกค้าสามารถปฏิบัติงานในประเทศไทยได้โดยมีรูปแบบที่ได้มาตรฐานและสามารถดำเนินงานเชื่อมต่อกับฐานปฏิบัติการในประเทศอื่นๆ หรือเชื่อมต่อกับลูกค้าของเขาได้ เราจึงมุ่งเน้นไปที่การบูรณาการหรือการจัดวางระบบที่สามารถตอบสนองความต้องการที่แตกต่างได้ คลังของเราจึงไม่ใช่เพียงสถานที่สำหรับการจัดเก็บสินค้าอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังนำเสนอบริการอื่นๆ ที่ตรงต่อความต้องการของลูกค้า ซึ่งรวมถึงบริการกระจายสินค้าหรือจัดส่งในรูปแบบต่างๆ อาทิ การขนส่งทางรถไฟ การขนส่งข้ามพรมแดนด้วยรถบรรทุก การขนส่งทางอากาศหรือทางทะเล รวมไปถึงการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ (multimodal) ซึ่งบริการเหล่านี้สามารถช่วยสนับสนุนธุรกิจของลูกค้า หรือช่วยให้พวกเขาสามารถนำบริการไปเสนอกับลูกค้าขอเขาอีกทีได้อย่างครบวงจร”

คุณวรชิต รัตนจินดา Management Executive บริษัท Profreight

จากความสำเร็จของ Profreight ในฐานะผู้ให้บริการรับจัดการขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์ภายใต้การบริหารงานของผู้บริหารรุ่นบุกเบิก จนมาสู่ผู้บริหารรุ่นใหม่ บริษัทไม่เคยหยุดนิ่งที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์บริการให้แก่ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยคุณวรชิต กล่าวว่า “แม้ว่าความสำเร็จของ Profreight จะเริ่มต้นจากการเป็นผู้ให้บริการขนส่งสินค้าทางทะเลเป็นหลัก ก่อนที่จะขยายโหมดการขนส่งและเพิ่มบริการที่หลากหลายมากขึ้น แต่เราไม่เคยหยุดพัฒนาและมองหาโอกาสใหม่ๆ เพื่อต่อยอดการเติบโตของบริษัทฯ และนำเสนอโอกาสทางธุรกิจให้กับลูกค้าของเรา ในอดีตเราเคยนำเสนอรูปแบบการให้บริการขนส่งสินค้าข้ามแดน ผ่านการขนส่งทางรางและรถบรรทุก เชื่อมต่อระหว่างไทย-มาเลเซีย จนประสบความสำเร็จ ปัจจุบัน เราเห็นโอกาสที่จะนำเสนอบริการขนส่งสินค้าทางราง เพื่อเชื่อมต่อจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไปยังประเทศจีน และยังสามารถที่จะขนส่งสินค้าต่อไปยังประเทศในภูมิภาคเอเชียกลางและทวีปยุโรป ซึ่งจะเป็นการเปิดโอกาสใหม่ให้กับผู้ประกอบการในไทย ที่ต้องการค้าขายกับคู่ค้าในต่างประเทศมากขึ้น นอกจากนี้ การขนส่งทางรถรางยังเป็นรูปแบบการขนส่งที่มีอัตราการปล่อยคาร์บอนน้อย จึงถือเป็นทางเลือกการขนส่งสินค้าที่มีประสิทธิภาพอย่างยิ่งสำหรับผู้ประกอบการที่ให้ความสำคัญกับการขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือ Green Logistics ด้วย”

Fly High

ด้วยเป้าหมายในการเป็นบริษัทผู้รับจัดการขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์ครบวงจรที่แท้จริง ตลอด 35 ปีที่ผ่านมา บริษัท Profreight จึงไม่เคยหยุดพัฒนาธุรกิจและนำเสนอโซลูชันใหม่ๆ ให้กับลูกค้า การเปิดบริษัทในเครือ อย่าง Sky Pacific Air Services (Sky Pacific) เพื่อให้บริการด้านการเป็นตัวแทนสายการบิน (GSA) จึงถือเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญสำหรับบริษัทฯ ที่จะก้าวขึ้นเป็นบริษัทผู้ให้บริการที่มีหน่วยธุรกิจบริการให้แก่ลูกค้าครบทุกโหมดการขนส่งอย่างแท้จริง

คุณวิชิตา รัตนจินดา Management Executive บริษัท Profreight

คุณวิชิตา กล่าวว่า “ในส่วนของธุรกิจการขนส่งของอากาศ เราไม่ได้ให้บริการเฉพาะการขนส่งสินค้าเท่านั้น แต่เรายังให้บริการครอบคลุมด้านการบริการผู้โดยสารด้วย บริษัท Sky Pacific ในฐานะตัวแทนของสายการบิน เรามีแนวทางการพัฒนาและเป้าหมายในการให้บริการ นั่นคือ ‘Serve Local, Act Global’ ในส่วนแรก Serve Local  หมายถึงการที่เราจะมองหาแนวทางในการทำงานร่วมกับผู้ให้บริการรับจัดการขนส่งสินค้าหรือบริษัททัวร์ในไทยและประเทศต่างๆ ที่เรามีสำนักงานอยู่ เพื่อยกระดับและเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการ ผ่านการใช้ความรู้เชิงลึกในระดับท้องถิ่น พร้อมสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพกับทางสายการบิน เพื่อส่งเสริมการเติบโตของสายการบินที่เราเป็นตัวแทนในประเทศไทย ขณะที่ Act Global หมายถึงการที่เราจะขยายเครือข่ายทั้งสายการบินภายในประเทศและระหว่างประเทศ ให้เรามีเครือข่ายด้านการขายที่มากขึ้น และสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบถ้วน โดยล่าสุด เราได้มีการขยายเครือข่ายไปยังแคนาดา สหรัฐอเมริกา รวมไปถึงประเทศอื่นๆ เช่น ภูฏาน และในอาเซียน อาทิ เมียนมา กัมพูชา มาเลเซีย และเวียดนาม อีกทั้งยังมีเป้าหมายที่จะขยายเครือข่ายเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่องในอนาคต”

Digitalization & Innovation

นอกเหนือจากการพัฒนารูปแบบบริการและนำร่องแนวทางการขนส่งสินค้าเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า และเป็นต้นแบบให้กับการให้บริการโลจิสติกส์ในแต่ละห้วงเวลาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันแล้ว บริษัท Profreight ยังคงมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนธุรกิจโลจิสติกส์ไทยอยู่เสมอ ทั้งทางตรงและทางอ้อม “ที่ผ่านมาเราได้นำเสนอโครงสร้างพื้นฐานทางบริการใหม่ๆ ซึ่งถือเป็น chapter ใหม่ของธุรกิจการขนส่งสินค้าในช่วงเวลานั้นๆ เช่น การพัฒนาธุรกิจการขนส่งข้ามพรมแดนทางราง หรือการขนส่งสินค้าต่อเนื่องหลายรูปแบบ ผ่านรถไฟ-รถบรรทุก เมื่อวันเวลาผ่านไป เราก็จำเป็นจะต้องพัฒนานวัตกรรมการให้บริการใหม่ๆ เข้ามาเพิ่มเติมหรือทดแทน หากเราเห็นว่าแนวทางการพัฒนาบริการหรือนวัตกรรมใดๆ มีศักยภาพที่จะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจหรืออุตสาหกรรมโลจิสติกส์โดยรวม เราก็ไม่รีรอที่จะร่วมพัฒนาเพื่อทำให้ไอเดียนั้นๆ สามารถเกิดขึ้นได้จริง” คุณรัศมี กล่าว

แอปพลิเคชัน Profreight

คุณสุวิทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ที่ผ่านมา เราได้มีส่วนร่วมในการนำระบบ eDO เข้ามาปรับใช้ พร้อมพัฒนาแพลตฟอร์มการใช้งาน ก่อนที่จะนำเสนอให้กับพันธมิตรและเครือข่ายในอุตสาหกรรมฯ ได้ใช้งาน เมื่อเกิดวิกฤตโรคระบาดขึ้น แต่ละบริษัทต่างไม่ต้องการให้พนักงานเดินทางไปรับเอกสาร ดังนั้น การใช้งานระบบ eDO จึงมีส่วนช่วยลดภาระการไปรับเอกสาร อีกทั้งยังเพิ่มความถูกต้องแม่นยำ ความรวดเร็ว และลดความเสี่ยงของการแพร่ระบาดได้อย่างมีนัยสำคัญอีกด้วย ซึ่งนี่ถือเป็นหนึ่งตัวอย่างของโครงการริเริ่มด้านเทคโนโลยีที่ประสบความสำเร็จของเรา และยังเป็นส่วนสำคัญในการปรับใช้รูปแบบการทำงานแบบสมาร์ทโลจิสติกส์ ผ่านเทคโนโลยีอัจริยะต่างๆ”

แม้ว่าปัจจุบันการให้บริการแก่ลูกค้าแบบตัวต่อตัวและการสื่อสารฝ่ายตัวแทนฝ่ายขายผู้มีประสบการณ์ของบริษัทฯ จะยังเป็นแนวทางการให้บริการที่สำคัญในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ แต่ Profreight ก็เล็งเห็นถึงความสำคัญของการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาช่วยสนับสนุนการให้บริการลูกค้าด้วย เช่น การพัฒนาแอปพลิเคชัน Profreight

คุณณิชา กล่าวว่า “เรามีการจัดทำแอปพลิเคชัน Profreight เพื่อรับรองลูกค้าให้ครอบคลุมทั้งกลุ่มออฟไลน์และออนไลน์ ให้สามารถเข้าถึงบริการต่างๆ ของเรานอกเหนือจากการติดต่อทางอีเมลและโทรศัพท์ เพื่อให้ลูกค้าของเราสามารถตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับบริการ ตรวจสอบราคาและขอใบเสนอราคาผ่านทางออนไลน์ได้  ทั้งยังเป็นอีกหนึ่งช่องทางการสื่อสารกับลูกค้า เพื่อให้พวกเขาได้รับบริการและการตอบกลับที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และเราเชื่อว่าการพัฒนาแอปพลิเคชันนี้จะทำให้ลูกค้าได้รับความสะดวกสบาย รู้สึกประทับใจ และเกิดความเชื่อมั่นในการใช้บริการของเรามากยิ่งขึ้น รวมทั้งยังช่วยให้เราสามารถขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ ต่อไปในอนาคต”

ด้วยความมุ่งมั่นและการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Profreight ประสบความสำเร็จอย่างสวยงามตลอด 35 ปีที่ผ่านมา เราจึงเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าคุณสมบัติเดียวกันนี้จะเป็นส่วนสำคัญที่ผลักดันให้ Profreight ก้าวขึ้นเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ในระดับประเทศและระดับสากล

Thank you for being our logistics partners.

เราขอขอบคุณลูกค้าที่ให้ความไว้วางใจ และเชื่อมั่นในศักยภาพและคุณภาพการให้บริการของ Profreight มาตลอด 35 ปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 3-4 ปี ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงที่ทุกฝ่ายต่างประสบกับความท้าทายจากสถานการณ์โรคระบาด ทำให้ลูกค้ามีปัญหาทั้งเรื่องการขนส่ง ความล่าช้า หรือแม้กระทั่งไม่สามารถขนส่งสินค้าได้ในปลายทางบางแห่ง อันเป็นผลจากการล็อกดาวน์ในต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นช่วงที่ยากลำบากของหลายๆ บริษัท แต่ลูกค้าก็ยังให้ความไว้วางใจให้เราเป็นผู้นำเสนอวิธีการและแนวทางในการแก้ปัญหา อีกทั้งยังคงใช้บริการของเรามาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ซึ่งเราถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ลูกค้าให้ความไว้วางใจและใช้บริการของ Profreight มาโดยตลอด

ขณะเดียวกัน แม้ธุรกิจโลจิสติกส์จะเป็นธุรกิจที่มีส่วนเกี่ยวข้องมากมาย แต่ Profreight ไม่ได้มองว่าบริษัทอื่นๆ เป็นคู่แข่ง แต่เรามองว่าทุกบริษัทเป็นคู่ค้า และทาง Profreight ยินดีอย่างยิ่งที่จะเป็นพันธมิตร เป็นคู่ค้า ทั้งกับลูกค้า หน่วยงาน สมาคม และเครือข่ายต่างๆ เราขอแสดงความขอบคุณต่อทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมา ณ ที่นี้ ที่ได้ร่วมมือ ร่วมงาน และประสานงานกันจนเกิดเป็นผลสำเร็จตลอดมา

นอกจากนี้ เรายังขอแสดงความขอบคุณต่อพนักงานบริษัท Profreight ที่ได้มีโอกาสร่วมงานกัน เราขอยืนยันที่จะให้ความสำคัญกับพนักงานและบุคลากรทุกคน เช่นเดียวกับที่เราให้ความสำคัญกับลูกค้า เราจึงขอขอบคุณพนักงานทุกคนในความจริงใจและความทุ่มเทที่มีให้กับบริษัทมาโดยตลอด และเรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้ร่วมทำงานกับทุกท่านต่อไปอีก


อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Logistics Mananger เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Logistics Manager หรือคลิกที่นี่

บทความก่อนหน้านี้DHL Express เปิดตัวรถตู้พลังงานไฟฟ้า 24 คัน ผลักดันปฏิบัติการโลจิสติกส์แบบยั่งยืนในอินโดนีเซีย
บทความถัดไปMaersk จับมือพันธมิตรทดสอบปฏิบัติการรถไฟขนส่งสินค้าด้วยเชื้อเพลิงชีวภาพครั้งแรกในสเปน
Phubet Boonrasri
Chen is an experienced writer and an avid explorer of nature. He thrives on travelling, hiking, and backpacking to new places. His wanderlust has allowed him to experience and learn from new cultures, allowing him to better accommodate for whatever comes his ways.