LEO คว้าสองรางวัลภายในงาน Asia Pacific Enterprise Awards 2023

0
512

LEO Global Logistics (LEO) คว้าสองรางวัลอันทรงเกียรติภายในงาน Asia Pacific Enterprise Awards (APEA) ได้แก่ รางวัลองค์กรยอดเยี่ยม (Corporate Excellence Award) และรางวัลผู้นำองค์กรยอดเยี่ยม (Master Entrepreneur Award) ตอกย้ำความเป็นผู้นำในภาคธุรกิจการขนส่งและโลจิกติกส์ ที่สามารถสร้างการเติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน โดยมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งงานดังกล่าวจัดขึ้น ณ โรงแรม Bangkok Marriott Surawongse เมื่อวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา

โดยคุณเกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท LEO Global Logistics กล่าวว่า ความสำเร็จในครั้งนี้ เป็นการเน้นย้ำถึงการบริหารจัดการองค์กรที่เป็นเลิศ และการสนับสนุนคู่ค้าให้เติบโตไปด้วยกัน โดยยึดหลัก Quality Policy 4 อันประกอบด้วย High-Customer Satisfaction (H.C.S.) – สร้างความพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้า, Excellent Working System (E.W.S.) – ระบบงานที่เป็นเลิศ, Quality Human Resource (Q.H.R.) – พนักงานมีคุณภาพ และ Healthy Group of Companies (H.G.C.) – เป็นองค์กรที่มีความมั่นคง จนได้รับความเชื่อถือจากลูกค้าและคู่ค้า ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียขององค์กร ตลอดจนพนักงานของบริษัทฯ ขณะเดียวกัน LEO ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาผู้นำรุ่นใหม่ อีกทั้งยังใส่ใจในบุคลากรขององค์กร เพราะเชื่อว่าทุกคนคือกำลังสำคัญช่วยผลักดัน ด้วยคุณภาพ มีใจบริการ มีคุณธรรม เปิดกว้างในการเรียนรู้และพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ตามค่านิยมขององค์กร เพื่อปลูกฝังให้พนักงานมีแนวความคิด และหลักการในการทำงานเดียวกัน

ตลอดระยะเวลา 33 ปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้มุ่งมั่นพัฒนาธุรกิจและสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2023 นี้ มีแผนดำเนินธุรกิจภายใต้กลยุทธ์ ‘365 Degree Collaboration’ คือการร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจทั้งภายในอุุตสาหกรรมโลจิสติกส์และนอกอุุตสาหกรรมโลจิสติกส์ ทั้งในและต่างประเทศ  ซึ่งจะช่วยทำให้ LEO สามารถขยายธุรกิจและขยายการให้บริการได้ครบวงจรมากขึ้น และมีฐานของลูกค้าใหม่ได้หลากหลายมากขึ้น ต่อยอดธุุรกิจของบริษัทฯ ให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมุ่งเน้นการสร้างความยั่งยืนในมิติของสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยมีโครงการส่งเสริมและสนับสนุนเยาวชนที่เรียนดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ในการต่อยอดด้านการศึกษา ในโครงการ ‘ผลิตบัณฑิตปริญญาตรี สาขาวิชาการจัดการซัพพลายเชนธุรกิจ แขนงวิชาธุรกิจพาณิชยนาวี’  ภายใต้ความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ซึ่งปัจจุบัน  นักศึกษาทุนรุ่นที่หนึ่ง ที่อยู่ในโครงการจำนวนแปดคน สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีในสาขาดังกล่าว และได้รับการบรรจุเข้าเป็นพนักงานประจำของ LEO เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และในปี 2023 นักศึกษาทุนรุ่นที่สอง จำนวนเจ็ดคน ได้เริ่มเข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา พร้อมกับฝึกงานที่บริษัทฯ ซึ่งเป็นที่ภาคภูมิใจของบริษัทฯ ที่สามารถสร้างการจ้างงานและสร้างบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถในธุรกิจโลจิสติกส์ได้มากขึ้น

ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อต้นปีที่ผ่านมา LEO ยังเป็นบริษัทแรกที่ประกาศการให้บริการ Green Logistics ที่มีส่วนสำคัญในการลดภาวะโลกร้อนและเปลี่ยนให้เป็น Carbon Credit ให้กับลูกค้า โดยบริษัทฯ มีแผนร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจในการพัฒนาบริการขนส่งและการกระจายสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อลดการใช้พลังงานที่ก่อให้เกิดมลพิษหรือก่อให้เกิดขยะ มุ่งเน้นการลดมลพิษทางอากาศจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เพื่อช่วยให้ลูกค้าของเราได้รับการยอมรับในการดำเนินธุรกิจในระดับนานาชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทวีปยุโรปที่ให้ความสำคัญกับเรื่อง ESG และการลด Carbon Footprint เป็นอย่างมาก

“การได้รับรางวัลทั้งสองสาขานี้ สะท้อนถึงความสามารถในการบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจ และสร้างองค์กรให้มีความยั่งยืนได้ในทุกมิติ จนทำให้บริษัทเป็นองค์กรด้านผู้ให้บริการโลจิสติกส์แบบครบวงชั้นนำสัญชาติไทยที่ยืนหยัดอยู่ในอุตสาหกรรมผู้ให้บริการโลจิสติกส์ มายาวนานกว่า 33 ปี” คุณเกตติวิทย์ กล่าว

สำหรับรางวัล Asia Pacific Enterprise Awards จัดขึ้นโดย Enterprise Asia องค์กรอิสระที่ส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจในระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เพื่อยกย่องบริษัทชั้นนำทั่วเอเชียที่ประสบความสำเร็จด้านธุรกิจ และรับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม รวมถึงดำเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรม ในฐานะผู้นำของแต่ละอุตสาหกรรม ช่วยขับเคลื่อนภูมิภาคเอเชียไปสู่ความก้าวหน้าทั้งทางเศรษฐกิจและสังคมที่ยั่งยืน


อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Logistics Mananger เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Logistics Manager หรือคลิกที่นี่

บทความก่อนหน้านี้Den Hartogh ให้บริการเติมเชื้อเพลิงเมทานอล ปูทางสู่อนาคตสีเขียว
บทความถัดไปGSBN ต้อนรับ New Land-Sea Corridor Operation Co ร่วมส่งเสริมกระบวนการทำงานแบบไร้เอกสาร