Kerry-Apex Thailand เดินหน้าพัฒนาบริการขนส่งสินค้าแบบไม่เต็มตู้ (LCL) ตอบรับความต้องการขนส่งสินค้าสู่ตลาดสหรัฐอเมริกาจากผู้ประกอบการรายใหญ่และรายย่อย ด้วยโซลูชั่นขนส่งสินค้าในราคาที่สมเหตุสมผล พร้อมนำเสนอบริการเสริมเพิ่มมูลค่าจากต้นทางถึงปลายทาง
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ที่บริษัท Kerry-Apex Thailand ยืนหยัดในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ในฐานะผู้ให้บริการขนส่งสินค้าแบบ NVOCC ชั้นนำในเส้นทางการค้า Transpacific ที่มีความเชี่ยวชาญด้านบริการผ่านพิธีการศุลกากรและบริการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าและส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐอเมริกา จากประสบการณ์การให้บริการและอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้ Kerry-Apex เล็งเห็นถึงโอกาสในการพัฒนาบริการขนส่งสินค้าแบบไม่เต็มตู้ หรือ LCL ให้เป็นหน่วยธุรกิจสำคัญเพื่อตอบรับความต้องการของลูกค้าหลักให้ครอบคลุมและเปี่ยมประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
เพื่อทำความรู้จักและเพิ่มความเข้าใจเกี่ยวกับที่มาและแนวทางการให้บริการของหน่วยธุรกิจ LCL ของ Kerry-Apex Thailand ให้มากยิ่งขึ้น นิตยสาร LM ได้พูดคุยกับคุณอุมาวรรณ แหวนวิรุฬ ผู้จัดการฝ่ายเอกสารส่งออก และคุณสันทนา ชุมวิสูตร ผู้จัดการฝ่ายบริการลูกค้าอาวุโส บริษัท Kerry-Apex Thailand ที่จะมาอธิบายให้เรารู้จักกับบริการขนส่งสินค้าไม่เต็มตู้ จาก Kerry-Apex Thailand ที่ครอบคลุมและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้มากยิ่งกว่าที่เคย
The Breakthrough
บริการขนส่งสินค้าแบบไม่เต็มตู้ หรือ LCL (Less than Container Load) เป็นโซลูชั่นการขนส่งที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่ต้องการส่งสินค้าในปริมาณไม่มาก โดยใช้วิธีการแชร์พื้นที่ระวางในตู้สินค้าเดียวกันร่วมกับผู้ประกอบการรายอื่น เพื่อส่งสินค้าไปยังปลายทางที่ต้องการผ่านเครือข่ายการขนส่งตู้สินค้าของสายการเดินเรือหรือผู้ให้บริการขนส่ง ไม่ว่าจะเป็นการขนส่งทางบกหรือทางทะเล
ปัจจุบันบริการ LCL ที่พัฒนาขึ้นโดย Kerry-Apex Thailand ครอบคลุมการส่งออกจากไทยไปยังสหรัฐอเมริกา ระหว่างท่าเรือแหลมฉบัง และ Los Angeles หรือ Long Beach โดยบริษัทฯ พร้อมให้บริการขนส่งตรงรายสัปดาห์ ด้วยระยะเวลาการขนส่งระหว่างท่าเรือต้นทางจนถึงปลายทางโดยรวมประมาณ 3 สัปดาห์ผ่านจุดรับสินค้าของบริษัทฯ ที่ลาดกระบัง
“เราได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าให้จัดการขนส่งสินค้าแบบไม่เต็มตู้ไปยังปลายทางในสหรัฐอเมริกา พร้อมตอบรับความต้องการขนส่งสินค้าตัวอย่างหรือผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในระหว่างการทดลองและพัฒนาก่อนวางขาย สินค้าบางประเภทที่ต้องทยอยส่ง ตัวอย่างสินค้า เช่น ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เป็นต้น ซึ่งสินค้าเหล่านี้เป็นกลุ่มสินค้าที่ขนส่งต่อครั้งในปริมาณไม่มาก โดยเราสามารถนำเสนอบริการขนส่งสินค้าจากต้นทางถึงปลายทางในราคาที่สมเหตุสมผลและแข่งขันได้” คุณอุมาวรรณ กล่าว
The Competence
ในฐานะผู้ให้บริการขนส่งสินค้าชั้นนำในไทยที่มีความโดดเด่นด้านเครือข่ายการขนส่งที่แข็งแกร่งในสหรัฐอเมริกา Kerry-Apex Thailand ได้นำข้อได้เปรียบดังกล่าวมาต่อยอดบริการ LCL ให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น เพื่อตอบรับความต้องการขนส่งที่หลากหลาย ทั้งแบบ port-to-port และ door-to-door
“โดยปกติแล้ว ลูกค้าที่ต้องการใช้บริการ LCL กับเรา สามารถนำส่งสินค้าได้ที่คลังสินค้าในสถานี ICD ลาดกระบัง โดยบริษัทฯ จะรับหน้าที่ในการบรรจุและปิดตู้สินค้า ก่อนจะขนส่งตู้ไปยังท่าเรือแหลมฉบังเพื่อขนส่งตู้สินค้าไปยังปลายทาง ทั้งนี้ สำหรับลูกค้าที่ไม่มีรถบรรทุกเป็นของตัวเอง เราก็สามารถให้บริการรับสินค้าได้จากหน้าโรงงานทั่วประเทศไทยและรวบรวมสินค้าจากแหล่งผลิตหลายๆ ที่ (consolidation) ได้ตามความต้องการของลูกค้า อีกทั้งยังสามารถกระจายสินค้าในปลายทางสหรัฐอเมริกาผ่านเครือข่ายการขนส่งของ Kerry Logistics Network ได้เช่นกัน” คุณสันทนา กล่าว
อนึ่ง Kerry Logistics Network มีสำนักงานย่อยในสหรัฐอเมริกาที่ครอบคลุมเมืองสำคัญในหลายรัฐ อาทิ เมือง Burlingame และ Los Angeles ในรัฐ California เมือง Chicago ในรัฐ Illinois เมือง Seattle ในรัฐ Washington เมือง Miami ในรัฐ Florida เมือง New York ในรัฐ New York และเมือง Houston ในรัฐ Texas
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังสามารถให้บริการเสริมอื่นๆ เช่น บริการประกันขนส่งสินค้าทางทะเล บริการรมยาวัสดุต่างๆ หรือสินค้าที่ทำจากไม้ บริการดำเนินพิธีศุลกากร บริการคลังสินค้า รวมถึงบริการติดตามสินค้า ซึ่งหากลูกค้าต้องการใช้บริการ Online Tracking ของ Kerry-Apex เพียงแจ้งความจำนงแก่ตัวแทนขาย ทีมงานเฉพาะทางก็จะดำเนินการเปิดบัญชีสำหรับใช้งานบริการนี้ได้ทันที
Expertise Leads to Opportunity
นอกเหนือจากจุดแข็งด้านเครือข่ายที่ครอบคลุมในสหรัฐอเมริกาแล้ว ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า Kerry-Apex Thailand ยังเป็นผู้ให้บริการขนส่งสินค้าแบบ NVOCC ในไทยที่มีความเชี่ยวชาญด้านการดำเนินพิธีศุลกากรและดำเนินการตามกฎเกณฑ์การขนส่งต่างๆ ของสหรัฐมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการส่งข้อมูลสินค้าต่างๆ เช่นเอกสาร Automated Manifest System (AMS) หรือ Importer Security Filing (ISF 10, 5) ไปยังหน่วยงานที่ดูแลทางการค้าศุลกากร อย่าง US Customs and Border Protection (CBP) เป็นต้น
“เรามีทีมงานฝ่ายปฏิบัติการและฝ่ายเอกสารที่มีความชำนาญและเข้าใจเกี่ยวกับการดำเนินการขั้นตอนเหล่านี้ พร้อมดูแลแก้ไขปัญหาเร่งด่วน เพื่อให้ลูกค้าสามารถมั่นใจได้ว่าสินค้าที่ลูกค้าไว้วางใจให้ Kerry-Apex ดูแลเป็นตัวแทนจัดการขนส่งจะได้รับการขนส่งไปยังปลายทางได้อย่างราบรื่นและเป็นไปตามข้อกำหนดต่างๆ โดยไม่มีติดขัด ยิ่งไปกว่านั้น ความเชี่ยวชาญของพนักงานทั้งฝ่ายปฏิบัติการและฝ่ายเอกสารเหล่านี้เอง ได้กลายเป็นจุดแข็งสำคัญที่เปิดโอกาสให้ Kerry-Apex สามารถต่อยอดพัฒนาบริการ LCL ให้กลายอีกหนึ่งบริการหลัก เพื่อขยายขอบข่ายในการให้บริการของบริษัทฯ พร้อมตอบสนองความต้องการของลูกค้าไปพร้อมๆ กัน” คุณอุมาวรรณ กล่าวเสริม
นอกจากนี้ ในช่วงปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา Kerry-Apex Thailand ยังได้รับใบอนุญาตจากกรมศุลกากรให้เป็นตัวแทนออกของระดับมาตรฐานเออีโอ (AEO) อย่างเป็นทางการตามมาตรฐานศุลกากรโลก ซึ่งจะทำให้ลูกค้าของ Kerry-Apex Thailand ได้รับประโยชน์จากความรวดเร็วในการดำเนินพิธีการศุลกากรทั้งขาเข้าและขาออก และได้รับการอำนวยความสะดวกในการตรวจปล่อยสินค้าก่อน ไม่เว้นแม้แต่ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้การค้าระหว่างประเทศหยุดชะงักหรือกรณีภัยพิบัติ
“Kerry-Apex Thailand ขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่ให้ความสนใจและให้การสนับสนุน ทำให้เราสามารถพัฒนาหน่วยธุรกิจ LCL ได้ ควบคู่ไปกับการรักษาตำแหน่งผู้ให้บริการขนส่งสินค้าชั้นนำในเส้นทางการค้า Transpacific มาอย่างต่อเนื่อง เราหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะได้รับโอกาสในการพัฒนาบริการ LCL ให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
โดยบริษัทฯ จะยังคงรักษาบริการขนส่งสินค้าด้วยทีมงานคุณภาพ และก้าวไปสู่ Customer Satisfaction พร้อมตอบรับความต้องการของลูกค้าด้วยความใส่ใจอยู่เสมอ ซึ่งเป็นสิ่งที่เรายึดมั่นตลอดมา” คุณสันทนากล่าว
อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Logistics Mananger เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Logistics Manager หรือคลิกที่นี่