City Zone Express ต่อยอดความสำเร็จ เดินหน้าขยายเครือข่ายบริการขนส่งข้ามพรมแดนทางบก เชื่อมประเทศไทย เวียดนาม จีน และกลุ่มประเทศ AEC พร้อมเสนอบริการ Express Clearance ตอบรับการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ

หลังจากเปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการเพียงไม่กี่ปี ปัจจุบัน บริษัท City Zone Express ได้เร่งเครื่องเดินหน้าขยายเครือข่ายการให้บริการขนส่งทางบกแบบครบวงจร ขยายกองรถบรรทุก เพิ่มรอบขนส่ง เชื่อมต่อตลาดการค้าไทยให้เข้าถึงตลาดนำเข้า-ส่งออกสำคัญ ทั้งในประเทศจีน เวียดนาม กัมพูชา เมียนมา ลาว มาเลเซีย และสิงคโปร์ ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ยังมุ่งมั่นต่อยอดความสำเร็จ ขยายขอบข่ายการให้บริการและยกระดับบริการที่มีอยู่เดิมให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าเทคโนโลยี ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และยานยนต์ สินค้าทั่วไป และสินค้าอีคอมเมิร์ซที่มีอัตราการเติบโตสูงตลอดช่วงปีที่ผ่านมา

เพื่อให้เข้าถึงข้อมูลเชิงลึกในประเด็นดังกล่าว LM จึงถือโอกาสนี้พูดคุยกับ คุณภาณุมาศ วัฒนะลาภา กรรมการบริษัท, คุณณัฐจิตรา เจริญทอง ผู้ช่วยกรรมการ, คุณอชิรวิชญ์ นุชวงษ์ ผู้จัดการฝ่ายการขนส่งข้ามพรมแดน, คุณพงศ์วณัฐ กิตติมานะสกุล หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการขนส่งข้ามพรมแดน บริษัท City Zone Express เกี่ยวกับแผนการเติบโต การขยายขอบข่ายการให้บริการแก่ลูกค้า รวมถึงแผนการพัฒนาเส้นทางบริการเชื่อมต่อไปยังทวีปยุโรปในอนาคตของบริษัทฯ

คุณภาณุมาศ วัฒนะลาภา

City Zone Express (CZE) เป็นบริษัทผู้ให้บริการขนส่งสินค้าข้ามแดนทางบกชั้นนำ ที่มีสำนักงานตั้งอยู่ในหลายประเทศทั่วอาเซียนและประเทศจีน เพื่อรองรับการให้บริการแก่ลูกค้าอย่างครอบคลุม ครบถ้วน รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยคุณภาณุมาศ อธิบายให้เราฟังว่า “การที่เราก่อตั้งสำนักงานท้องถิ่นในแต่ละประเทศและมีพนักงานของบริษัทฯ คอยให้บริการลูกค้าทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง จะช่วยเพิ่มความสะดวกในการให้บริการลูกค้าและยังทำให้เราสามารถเข้าถึงลูกค้าในแต่ละท้องถิ่นได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังมีประโยชน์ในด้านการรักษาข้อมูลและซัพพอร์ทลูกค้า ซึ่งการที่ลูกค้าสามารถติดต่อสำนักงานของเราได้โดยตรง ทำให้พวกเขาสามารถเข้าถึงบริการของ CZE ทั้งหมดได้ครบจบในที่เดียว ภายใต้คุณภาพบริการเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อใช้บริการ การติดตามตำแหน่งรถ ติดตามสถานะการขนส่ง และการดำเนินการด้านเอกสารต่างๆ ซึ่งจุดนี้ยังช่วยลดความซ้ำซ้อน เพิ่มประสิทธิภาพและความรวดเร็วของกระบวนการทำงานทั้งที่ต้นทางและปลายทาง”

ปัจจุบัน CZE มีสำนักงานในประเทศไทยสามแห่ง คือ สำนักงานกรุงเทพ หาดใหญ่ และสะเดา ขณะที่ในประเทศจีน บริษัทฯ มีสำนักงานสี่แห่ง ตั้งอยู่ใน Shanghai, Shenzhen, Suzhou และ Hong Kong ในเวียดนามสองแห่ง ที่ Hanoi และ Ho chi minh ในประเทศลาวหนึ่งแห่ง ที่เมือง Savannakhet ส่วนในมาเลเซีย บริษัทฯ มีสำนักงานสี่แห่ง ประกอบด้วย สำนักงานใหญ่ใน Penang สำนักงาน Kuala Lumper, Bukit Kayu Hitam และ Johor รวมถึงสำนักงานประจำประเทศสิงคโปร์อีกหนึ่งแห่ง

Continue Expanding

คุณอชิรวิชญ์ นุชวงษ์

นอกจากนี้ การที่บริษัทฯ มีพนักงานของบริษัทฯ คอยให้บริการในแต่ละประเทศ ยังเป็นการรักษาคุณภาพการให้บริการของ CZE ในทุกประเทศให้อยู่ภายใต้บริการมาตรฐานเดียวกันทั้งหมด ไม่ว่าลูกค้าจะติดต่อบริษัทฯ ที่สำนักงานใดก็ตาม คุณณัฐจิตรา กล่าวว่า “ด้วยหลักการเดียวกันนี้ บริษัทฯ จึงใช้ความพิธีพิถันในการเลือกพันธมิตรผู้ให้บริการรถขนส่งสินค้าเพิ่มเติมจากกองรถบรรทุกของบริษัทฯ เพื่อรองรับปริมาณการขนส่งสินค้าที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ควบคู่ไปกับการรักษามาตรการให้บริการแก่ลูกค้าด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้บริการภายใต้สภาวะการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ที่ทำให้ลูกค้าหลายรายประสบปัญหาในการขนส่งทั้งทางเรือและเครื่องบิน แต่ CZE ยังคงมุ่งมั่นให้บริการขนส่งสินค้าข้ามแดนด้วยรถบรรทุก ภายใต้คุณภาพบริการระดับสูงเช่นเดียวกันในทุกสำนักงานได้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังสามามรถตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าที่ต้องการขนส่งสินค้าเร่งด่วนได้เป็นอย่างดี จนส่งผลให้บริษัทฯ ได้รับความนิยมยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ”

“แม้ว่าเราจะมีกองรถบรรทุกของบริษัทฯ เอง คอยปฏิบัติการขนส่งสินค้าในหลายเส้นทาง แต่ด้วยปริมาณความต้องการขนส่งสินค้าที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วและก้าวกระโดด ปัจจุบัน เราจึงมีทั้งการปฏิบัติการขนส่งสินค้าด้วยรถบรรทุกของเราเองและรถของพันธมิตรที่เชื่อถือได้ในประเทศจีนและเวียดนาม ซึ่งสามารถร่วมกันให้บริการแก่ลูกค้าได้อย่างราบรื่นไร้รอยต่อ เนื่องจาก CZE มีการคัดเลือกและคัดกรองคุณภาพของพันธมิตรผู้ให้บริการมาเป็นอย่างดี ทั้งในส่วนของประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และระยะเวลาในการขนส่งสินค้าให้สอดคล้องกับมาตรฐานที่เรากำหนดไว้ นอกจากนี้ เรายังมีระบบอัพเดตสถานะและตำแหน่งตู้สินค้า ไม่ว่าสินค้าจะได้รับการขนส่งจากจีนหรือเวียดนาม เพื่อเป็นการเพิ่มความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้าว่าสินค้าทุกชิ้นจะได้รับการดูแลเป็นอย่างดีตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง” คุณอชิรวิชญ์กล่าว

ปัจจุบัน CZE ให้บริการขนส่งสินค้าข้ามแดนทั้งแบบเต็มตู้ (FTL) และไม่เต็มตู้ (LTL) โดยบริการขนส่งแบบไม่เต็มตู้จากจีนมายังประเทศไทย บริษัทฯ เปิดให้บริการแบบตารางประจำทุกสัปดาห์และออกจากศูนย์กลางการขนส่งสินค้า (HUB) ของ CZE ใน Shenzhen สัปดาห์ละสองครั้ง ทุกวันอังคารและวันพฤหัสบดี ส่วนแบบเต็มตู้ ( FTL) สามารถรับและขนส่งได้ทุกวัน “ปัจจุบัน บริการขนส่งสินค้าทั้งแบบ FTL และ LTL ของเรามีอัตราการเติบโตสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และยังคงมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้นอีก โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มอีคอมเมิร์ซ เนื่องจากบริการขนส่งสินค้าแบบ LTL ของเรามีความยืดหยุ่นสูง และเป็นทางเลือกการขนส่งที่สามารถแข่งขันได้ ทั้งในแง่ของความรวดเร็วและอัตราค่าบริการที่สมเหตุสมผล รวมไปถึงความปลอดภัยและความโปร่งใสของข้อมูลตำแหน่งรถบรรทุกและสถานะสินค้า ผ่านซอฟท์แวร์ TMS และแพลตฟอร์มที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาโดยเฉพาะ” คุณพงศ์วณัฐ กล่าวเสริม

Maximize Competitiveness

นอกเหนือจากประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการขนส่งสินค้าแล้ว ข้อได้เปรียบด้านความรวดเร็วยังเป็นอีกหนึ่งสิทธิประโยชน์ที่ทาง CZE ภูมิในนำเสนอต่อลูกค้า โดยเฉพาะในช่วงเวลาแห่งวิกฤตการณ์ขาดแคลนพื้นที่ระวางและตู้สินค้าสำหรับโหมดการขนส่งทางเรือ และค่าบริการที่พุ่งสูงขึ้นของโหมดการขนส่งทางอากาศตลอดช่วงปีที่ผ่านมาและยังมีทีท่าว่าจะยังคงดำเนินไปในทิศทางนี้อีกหลายเดือนข้างหน้า

คุณณัฐจิตรา เจริญทอง

“บริการของ CZE ถือเป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพสำหรับลูกค้าที่ต้องการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศจีน เวียดนาม และไทย ด้วยระยะเวลาการขนส่งที่รวดเร็ว เช่น การขนส่งสินค้าจาก Shenzhen มายังกรุงเทพ ใช้ระยะเวลาเพียง 5-6 วัน ส่วนสินค้าจาก Shanghai มายังกรุงเทพ ใช้เวลาเพียง 6-7 วัน และสินค้าจาก Beijing มายังกรุงเทพ ใช้เวลาเพียง 7-8 วันเท่านั้น ส่วนการขนส่งสินค้าระหว่างไทยและเวียดนามเราก็สามารถให้บริการได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากเรามีการวางแผนขนส่งและวิเคราะห์เส้นทางเป็นอย่างดี เช่น สินค้าที่ขนส่งไปยังตอนใต้ของเวียดนามเราจะเลือกใช้เส้นทางขนส่งผ่านด่านอรัญประเทศสู่กัมพูชา เพื่อข้ามไปยังเวียดนามใต้ ซึ่งเป็นเส้นทางขนส่งข้ามพรมแดนที่รวดเร็วที่สุด ขณะที่สินค้าที่ขนส่งไปยังเวียดนามเหนือเราจะใช้เส้นทางขนส่งข้ามพรมแดนประเทศลาวที่ด่านมุกดาหาร ไปยัง Savannakhet ก่อนจะข้ามด่าน Lao Bảo เข้าสู่เวียดนาม เพื่อวิ่งตรงขึ้นไปยังตอนเหนือของเวียดนาม ซึ่งมีระยะเวลาการขนถ่ายและข้ามพรมแดนที่สั้นกว่า ทำให้ลูกค้าได้รับประโยชน์ด้านความรวดเร็วในการขนส่งสินค้า ควบคู่ไปกับประสิทธิภาพการให้บริการและค่าใช้จ่ายที่สมเหตุสมผลได้เป็นอย่างดี” คุณณัฐจิตรากล่าว

Supporting e-Commerce

คุณพงศ์วณัฐ กิตติมานะสกุล

ด้วยความมุ่งมั่นในการพัฒนาคุณภาพและขยายขอบข่ายการให้บริการที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าอยู่เสมอ ปัจจุบัน CZE ได้ยกระดับการให้บริการสำหรับลูกค้าที่ต้องการนำเข้าสินค้าอีคอมเมิร์ซจากประเทศจีน โดยล่าสุดบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาติ Express clearance ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าที่นำเข้าสินค้าอีคอมเมิร์ซผ่านทางบริษัทฯ ได้รับสิทธิประโยชน์ด้านภาษีนำเข้า โดยคุณพงศ์วณัฐ อธิบายว่า “ทุกวันนี้สินค้าอีคอมเมิร์ซส่วนใหญ่ที่นำเข้ามายังประเทศไทยมักจะเป็นรูปแบบการออกของแบบเหมาภาษี ซึ่งไม่สามารถออกใบขนเป็นรายชื่อบุคคลได้ จึงทำให้ข้อมูลสินค้าไม่ได้อยู่ในระบบของศุลกากรทั้งหมด แต่สินค้าที่ได้รับการนำเข้าผ่าน Express clearance ข้อมูลสินค้าแต่ละชิ้นจะถูกจัดเก็บในระบบ ทำให้ง่ายต่อการตรวจสอบและป้องกันปัญหาในอนาคตหากมีการขอตรวจสอบเอกสารนำเข้าสินค้านั้นๆ โดยเฉพาะสินค้าที่มีมูลค่าน้อยกว่า 1,500 บาท ซึ่งจะได้รับการยกเว้นภาษี หรือหากสินค้ามีมูลค่ามากกว่า 1,500 บาท/ชิ้น ก็จะเสียภาษีเฉพาะส่วนต่างที่เพิ่มเติมขึ้นมา แต่จะได้การรับรองการนำเข้าสินค้าอีคอมเมิร์ซอย่างถูกกฎหมาย”

นอกเหนือจากการรับรองการนำเข้าสินค้าอีคอมเมิร์ซอย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้ว CZE ยังมีใบรับรองการให้บริการขนส่งสินค้าแบบ in-transit ซึ่งเป็นบริการขนส่งสินค้าจากประเทศหนึ่ง ข้ามพรมแดนอีกประเทศ เพื่อส่งต่อไปยังประเทศที่สามได้โดยไม่จำเป็นต้องมีการเปิดตู้ระหว่างทาง โดยจะถือเป็นสินค้าทัณฑ์บนที่อยู่บนยานพาหนะโดยไม่ต้องมีการเปิดตรวจระหว่างทาง กล่าวคือ สินค้ามีการปิดตู้ที่ต้นทางเพียงครั้งเดียวและจะได้รับการเปิดตู้เพียงครั้งเดียวเมื่อขนส่งไปถึงปลายทางแล้วเท่านั้น ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าสามารถลดความเสี่ยงต่อการเสียหายหรือสูญหายของสินค้าในระหว่างการขนส่ง อีกทั้งยังลดระยะเวลาในการดำเนินพิธีการข้ามแดนในแต่ละจุดด้วย

Ambitious Plan

จากความสามารถในการให้บริการ ความน่าเชื่อถือในตลาด ทำให้ CZE มีอัตราการเติบโตสูงขึ้นเป็นอย่างมากตลอดช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในเส้นทางเชื่อมต่อไปยังประเทศจีน นั่นจึงทำให้บริษัทฯ เล็งเห็นถึงโอกาสและขีดความสามารถที่จะขยายเส้นทางการขนส่งทางบกและทางรางเชื่อมต่อจากไทยไปยังทวีปยุโรป โดยสินค้าจะได้รับการขนส่งทางบกจากไทยไปยังประเทศจีน และเชื่อมต่อเข้าสู่โหมดการขนส่งทางรางจากจีนสู่ยุโรป โดยคุณภาณุมาศ ได้อธิบายถึงเป้าหมายในการขยายเครือข่ายการให้บริการในอนาคตให้เราฟังว่า “เราต้องการขยายเส้นทางการขนส่งสินค้าเชื่อมต่อไปยังยุโรป ด้วยความที่เรามีสำนักงานในประเทศจีน และมีพันธมิตรที่สามารถให้บริการขนส่งสินค้าเชื่อมต่อไปยังไปยุโรปผ่านเส้นทางรถไฟ เพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกการขนส่งให้แก่ลูกค้าในประเทศไทย ซึ่งจะได้รับประโยชน์ด้านการขนส่งที่รวดเร็ว ภายใต้ค่าบริการที่สมเหตุสมผล และเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับธุรกิจของลูกค้า โดยเราสามารถให้บริการขนส่งสินค้าแบบ FTL ออกจากประเทศไทยได้ทุกวัน ลดความกังวล และขจัดปัญหาสินค้าไม่ทันรอบเรือ เพราะลูกค้าสามารถติดต่อเราได้ทันทีที่ของพร้อมสำหรับการขนส่ง ซึ่งเราคาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินงานและเปิดให้บริการในส่วนนี้ได้ในปีนี้”

ด้วยความมุ่งมั่นในการให้บริการที่มีประสิทธิภาพและพัฒนาคุณภาพการให้บริการอยู่เสมอ ส่งผลให้บริษัท City Zone Express สามารถรักษาฐานลูกค้าที่มีอยู่เดิม พร้อมกับขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง และไม่เพียงเท่านั้น บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าพัฒนาเครือข่ายการให้บริการให้ครอบคลุมและเหนือกว่าความคาดหวังของลูกค้าอย่างไม่หยุดยั้ง และพร้อมที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำในตลาดการขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนที่ยืนหยัดเคียงข้างผู้นำเข้า-ส่งออกทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติต่อไป

ติดต่อ City Zone Express
Email: Salesteam@czoneasia.com
คุณพงศ์วณัฐ 099-1252226
คุณอชิรวิชญ์ 081-0059090

อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Logistics Mananger เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Logistics Manager หรือคลิกที่นี่

บทความก่อนหน้านี้NYK สั่งประกอบเรือ PCTC พลังงาน LNG จำนวน 12 ลำ
บทความถัดไปKonecranes ส่งมอบอุปกรณ์ยกขนตู้สินค้า สนับสนุนการเติบโตของท่าเทียบเรือในเมดิเตอร์เรเนียน
Phubet Boonrasri
Chen is an experienced writer and an avid explorer of nature. He thrives on travelling, hiking, and backpacking to new places. His wanderlust has allowed him to experience and learn from new cultures, allowing him to better accommodate for whatever comes his ways.