เมื่อวันที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมา บริษัท Jungheinrich ผู้นำเข้า จัดจำหน่าย และให้บริการเทคโนโลยีและโซลูชันอุปกรณ์จัดการคลังสินค้าสัญชาติเยอรมัน ได้จัดพิธีเปิดสำนักงานพร้อมศูนย์สร้างประสบการณ์ NXT Warehouse แห่งแรกในประเทศไทย ณ สำนักงานใหญ่ Jungheinrich จังหวัดสมุทรปราการ โดยได้รับเกียรติจาก คุณจันทรัศม์ ก. บัวเกษร หัวหน้าฝ่ายสมาชิกกิจกรรมและการสื่อสาร หอการค้าเยอรมัน-ไทย และคุณสิรินทร อินทร์สวาท ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาเครือข่ายเชิงกลยุทธ์และประเมินผล ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (National Electronics and Computer Technology Center: NECTEC) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เข้าร่วมพิธีในฐานะแขกผู้มีเกียรติ พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงของ Jungheinrich ได้แก่ Mr. Stefan Brehm รองประธานประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก Mr. Manojit Acharya กรรมการผู้จัดการประจำประเทศอินเดียและไทย และ Mr. Bart Sprangers ผู้จัดการทั่วไปประจำประเทศไทย
ภายในพิธี ตัวแทนผู้บริหารระดับสูงของ Jungheinrich ได้กล่าวแสดงจุดยืนในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ซึ่งมีเป้าหมายในการส่งมอบนวัตกรรมที่มีประสิทธิภาพให้แก่ลูกค้าและสร้างความยั่งยืนแก่สังคม นอกจากนี้ Jungheinrich ยังได้จัดแสดงเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายให้แก่แขกในพิธี อาทิ รถฟอร์คลิฟต์ไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน และรถยกอัตโนมัติไร้คนขับ รุ่น EKS 215a
ศูนย์สร้างประสบการณ์ NXT Warehouse มีเป้าหมายในการนำเสนอเทคโนโลยีอุปกรณ์จัดการคลังสินค้าใหม่ๆ ของ Jungheinrich และแบ่งปันประสบการณ์ด้านอุปกรณ์จัดการคลังสินค้าจากบุคลากรของ Jungheinrich ให้แก่ผู้ที่สนใจ ตั้งแต่รถฟอร์คลิฟต์ไฟฟ้าไปจนถึงชั้นวางสินค้าและระบบซอฟต์แวร์อัจฉริยะ โดย Jungheinrich มีศักยภาพในด้านบริการโซลูชันคลังสินค้าครบวงจร ซึ่งได้รับการออกแบบเพื่อตอบสนองต่อความต้องการเฉพาะด้านที่หลากหลายในปัจจุบันได้อย่างครอบคลุม ไม่เพียงเท่านั้น Jungheinrich ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านโซลูชันอุปกรณ์จัดการคลังสินค้า ยังสามารถให้คำปรึกษาด้านการจัดเก็บและขนย้ายสินค้าได้ในทุกรูปแบบ อาทิ การใช้ระบบปฏิบัติการอัตโนมัติ โซลูชันชั้นวางสินค้า และบริการรถฟอร์คลิฟต์ที่มีประสิทธิภาพและความปลอดภัย
ทั้งนี้ Jungheinrich ตั้งเป้าหมายในการสร้างคุณค่าด้านนวัตกรรมและความยั่งยืนมาอย่างต่อเนื่อง ผ่านการนำเทคโนโลยีลิเธียมไอออนมาใช้ในรถฟอร์คลิฟต์ไฟฟ้า โดยปัจจุบัน รถฟอร์คลิฟต์ไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนของ Jungheinrich ได้รับการจัดจำหน่ายไปแล้วมากกว่า 1,000,000 คันทั่วโลก ซึ่งช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้มากถึง 20 เปอร์เซ็นต์ อีกทั้งยังสะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มของตลาดที่ปรับตัวและเปลี่ยนมาใช้งานรถฟอร์คลิฟต์ไฟฟ้ามากขึ้นในประเทศไทย นอกจากนี้ Jungheinrich ยังได้รับรางวัลระดับแพลตตินัม ในฐานะบริษัทระดับ 1 เปอร์เซ็นต์แรก จากบริษัทชั้นนำทั่วโลกที่สร้างความยั่งยืนอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลาสามปีซ้อน จากบริษัท EcoVadis ผู้ประเมินความยั่งยืนของธุรกิจที่ได้รับการยอมรับในระดับโลกด้วย
นอกจากเทคโนโลยีด้านความยั่งยืนใหม่ๆ แล้ว Jungheinrich ยังให้ความสำคัญต่อรถยกปรับสภาพที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ โดยในประเทศไทย บริษัทฯ มีศูนย์ปรับสภาพรถยกประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่สามารถปรับสภาพรถยกให้กลับมาใช้งานใหม่ได้ โดยนับตั้งแต่เปิดตัว ศูนย์ปรับสภาพรถยกนี้ได้ปรับสภาพรถยกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกไปแล้วมากกว่า 1,000 คัน ซึ่งการใช้งานรถยกปรับสภาพดังกล่าวสามารถช่วยปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้มากถึง 80 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับการซื้อรถยกใหม่มาใช้งาน โครงการริเริ่มดังกล่าวจึงไม่เพียงสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นผู้นำด้านความยั่งยืนของ Jungheinrich เท่านั้น แต่ยังเน้นย้ำให้เห็นถึงเป้าหมายในการลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอน ควบคู่ไปกับการส่งมอบโซลูชันอุปกรณ์จัดการคลังสินค้าที่มีประสิทธิภาพด้วย
Mr. Brehm กล่าวว่า “Jungheinrich ตั้งเป้าหมายในการปฏิวัติอุตสาหกรรมการจัดการคลังสินค้าด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยและแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืน โดยศูนย์สร้างประสบการณ์ NXT Warehouse แห่งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงเป้าหมายของเราในการพัฒนาโซลูชันอุปกรณ์จัดการคลังสินค้าที่มีประสิทธิภาพสำหรับลูกค้าในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยเฉพาะประเทศไทย เรารู้สึกตื่นเต้นอย่างยิ่งที่จะได้แบ่งปันวิสัยทัศน์และความก้าวหน้าของเราร่วมกับผู้นำในอุตสาหกรรมและพันธมิตรทางธุรกิจ”
Mr. Sprangers กล่าวว่า “พันธกิจของเราคือการสร้างคลังสินค้าแห่งอนาคตในประเทศไทยซึ่งมีทั้งประสิทธิภาพ ความยั่งยืน และนวัตกรรม เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้แสดงให้เห็นว่า Jungheinrich เป็นผู้นำด้านการเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์คลังสินค้าอย่างไร การปรับปรุงสำนักงานของเรายังตอกย้ำเป้าหมายของเราในการสร้างสถานที่ทำงานที่มีประสิทธิภาพ ขณะที่ศูนย์สร้างประสบการณ์ NXT Warehouse จะช่วยส่งมอบประสบการณ์ให้แก่คู่ค้าและผู้ที่สนใจในโซลูชันล้ำสมัยของเรา ซึ่งจะช่วยสนับสนุนทั้งในด้านประสิทธิภาพและความยั่งยืนในการดำเนินงานได้เป็นอย่างยิ่ง”
อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Logistics Mananger เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Logistics Manager หรือคลิกที่นี่