เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท Sino Logistics Corporation (SINO) ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ระหว่างประเทศแบบครบวงจร ได้ประกาศลงทุนเพิ่มตู้สินค้า SOC กว่า 50 ตู้ต่อเดือน เพื่อรับมือความเสี่ยงด้านตู้สินค้าขาดแคลน ค่าระวางเรือสูงจากวิกฤตทะเลแดง รวมถึงเพิ่มความคล่องตัวในการบริหารตู้สินค้าให้แก่ลูกค้าของบริษัท
จากสถานการณ์การโจมตีเรือขนส่งสินค้าในบริเวณทะเลแดงที่มีแนวโน้มยืดเยื้อ ส่งผลให้หลายสายการเดินเรือประกาศหลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าวและต้องใช้เวลาในการปฏิบัติการยาวนานขึ้น ด้วยเหตุนี้จึงส่งผลให้อัตราค่าระวางเรือในเส้นทางไปยังยุโรปปรับเพิ่มขึ้นสี่เท่า หรือแตะระดับสูงสุดที่ 4,900 เหรียญสหรัฐ และเส้นทางไปยังสหรัฐอเมริกาปรับขึ้นสามเท่าหรือคิดเป็น 7,200 เหรียญสหรัฐต่อตู้ นับจากเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา (ข้อมูลจาก SCB EIC) อีกทั้งสัญญาณด้านความเสี่ยงตู้สินค้าขาดแคลนนั้นมีความชัดเจนอย่างมาก ดังนั้น การเพิ่มตู้สินค้า SOC ของ SINO ในครั้งนี้จะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้าที่ต้องการใช้บริการขนส่งสินค้าไปยังตลาดต่างประเทศ ว่าจะมีตู้สินค้าเพียงพอต่อปริมาณความต้องการด้านการขนส่งสินค้าทางทะเลที่เพิ่มขึ้นได้
นอกจากนี้ SINO ยังประกาศความพร้อมในการตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และตรงต่อเวลา โดยตั้งเป้าผลักดันเป้าหมายที่จะเพิ่มปริมาณขนส่งตู้สินค้าเป็น 53,000 ตู้ พร้อมทั้งผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการขนส่งสินค้าทางทะเลให้แก่ประเทศต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียน ที่ต้องการส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐอเมริกาตามแผนกลยุทธ์ของบริษัทฯ
คุณนันท์มนัส วิทยศักดิ์พันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท Sino Logistics Corporation กล่าวว่า “ทะเลแดงถือเป็นเส้นทางขนส่งสินค้าที่สำคัญของการค้าโลก โดยสถานการณ์ที่ยืดเยื้อจะยิ่งเพิ่มแรงกดดันต่อการขาดแคลนตู้สินค้าที่เห็นได้ชัดเจนในช่วงปลายไตรมาสแรกปีนี้ เราจึงเตรียมความพร้อมเพิ่มตู้สินค้าเพื่อรองรับการปริมาณส่งออกสินค้าจากไทยไปยังตลาดสหรัฐอเมริกาและยุโรปที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น”
อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Logistics Mananger เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Logistics Manager หรือคลิกที่นี่
