ณ เมือง Kudamatsu จังหวัด Yamaguchi ประเทศญี่ปุ่น โบกี้รถไฟถูกยกขนลงเรือเพื่อเดินทางมาปฏิบัติการในประเทศไทย ภายใต้ระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงบางซื่อ-รังสิต และช่วงบางซื่อ–ตลิ่งชัน โดยผู้ดำเนินการขนส่งขบวนรถไฟเหล่านี้คือ บริษัทสายเรือไทย “SPM หรือ สยามพัฒนา มารีไทม์ จำกัด” ในเครือบริษัท Siam ECL ซึ่งเป็นกิจการร่วมทุนระหว่างบริษัทสัญชาติไทยและบริษัท ECL (Eastern Car Liner) จากประเทศญี่ปุ่น
โดย Mr. Shiro Aratame กรรมการผู้จัดการบริษัทสยามพัฒนา มารีไทม์ จำกัด ได้เล่าถึงโครงการพัฒนาบริการขนส่งมวลชนสาธารณะของชาวกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นสินค้าของรัฐบาลไทยว่า “จำนวนรถไฟที่ต้องทำการขนส่งจากประเทศญี่ปุ่นทั้งหมดคือ 130 ยูนิต มีทั้งตัวโบกี้รถไฟ อุปกรณ์ติดตั้ง และชิ้นส่วนต่างๆ ซึ่งเราจะขนรถไฟฟ้ามาจำนวน 6 ถึง 12 โบกี้ต่อเที่ยว รวมจำนวนขนส่งทั้งหมด 13 เที่ยวด้วยกัน และจะเริ่มทำการขนส่งตั้งแต่เดือนตุลาคมนี้ ถึงเดือนเมษายนปี 2020 โดยประมาณ รถไฟทั้งหมดนี้ได้ผลิตขึ้นที่เมือง Kudamatsu ในอำเภอ Yamaguchi ทางตอนใต้ของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเมืองท่าที่อยู่ใกล้กับจุดจอดเรือของเรา”
Mr. Aratame ยังเผยถึงความชำนาญและความเข้าใจในสภาพภูมิอากาศและภูมิประเทศท้องถิ่นของต้นทางสินค้าในญี่ปุ่นเป็นอย่างดี “เราระมัดระวังเรื่องลมฟ้าอากาศเป็นอย่างมาก เนื่องจากตอนนี้ประเทศญี่ปุ่นได้เข้าสู่ฤดูพายุ เราจึงประสานงานกับผู้ส่งสินค้าตลอดเวลา ในเรื่องของวันที่เข้ารับสินค้าภายใต้สภาพอากาศที่เหมาะสม”
พร้อมกันนั้น คุณ ธนิต หาญเบญจพงศ์ กรรมการบริษัทสยามพัฒนา มารีไทม์ จำกัด ก็ได้อธิบายถึงศักยภาพการบรรจุสินค้าของกองเรือสินค้าวางกอง (Conventional) ของสยามพัฒนาฯ ซึ่งเดินทางเที่ยวแรกมายังท่าเรือแหลมฉบังพร้อมตู้รถไฟจำนวน 10 ตู้ ในวันที่ 12 ตุลาคมที่ผ่านมา “เรือของเราสามารถรับน้ำหนักได้มากถึง 12,000 เดทเวทตัน และมีความยาวของระวางเรือกว่า 30 เมตร กล่าวคือ เราสามารถบรรทุกตู้รถไฟได้สูงสุด 20 ตู้ ขณะที่ตามแผนการดำเนินงานของลูกค้า กำหนดจำนวนสูงสุดต่อเที่ยวที่ 10 ถึง 12 ตู้เท่านั้น และตู้รถไฟก็มีความยาวเพียง 22 เมตร โปรเจกต์นี้จึงมิได้อยู่นอกเหนือความสามารถของเราเลย”
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังตอบสนองรวมถึงสนับสนุนโครงการรถไฟสายสีแดง โดยจัดบริการเดินเรือในเส้นทางจากญี่ปุ่นมายังประเทศไทยจำนวนสองเที่ยวต่อเดือน โดยตามเงื่อนไขของลูกค้า กำหนดให้ส่งสินค้าโดยใช้บริการแบบประจำเส้นทาง 1.5 เที่ยวต่อเดือน พร้อมกับผลักดันให้เส้นทางเดินเรือนี้ เป็นบริการแบบประจำเส้นทาง
และเมื่อเรือบรรทุกสินค้าเดินทางมาถึงปลายทางที่ท่าเรือแหลมฉบัง เมื่อวันที่ 12 ตุลาคมที่ผ่านมา คุณกชกร สำเภาโภค ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัทสยามพัฒนา มารีไทม์ จำกัด ก็ได้อธิบายถึงขั้นตอนการยกขนโบกี้รถไฟลงจากเรือว่า “ขั้นตอนการถ่ายสินค้าลงจากเรือนั้น เป็นขั้นตอนที่เรียบง่าย ไม่ซับซ้อน เราใช้เครนประจำเรือยกสินค้าขึ้นจากเรือไปวางที่รถบรรทุกของผู้รับสินค้าโดยตรง โดยเราจะทำการขนถ่ายสินค้าเมื่อรถรับสินค้ามาถึงท่าเทียบเรือ ซึ่งถือเป็นการส่งมอบสินค้าโดยตรง (Direct Delivery)”
แม้จะเป็นขั้นตอนที่เรียบง่าย ทว่าสยามพัฒนาก็ให้ความสำคัญ โดยมีการวางแผนการทำงานอย่างละเอียดและรัดกุมที่สุด เพื่อปฏิบัติการส่งมอบสินค้าที่ลื่นไหล “เราประสานงานกับทุกฝ่ายในกำหนดเวลาที่เที่ยงตรง เมื่อเรือเดินทางออกจากต้นทาง เราก็จะเริ่มติดต่อกับบริษัทผู้รับสินค้าอย่างใกล้ชิด เพื่อรายงานความคืบหน้าของขั้นตอนการขนส่งสินค้า ขั้นตอนการถ่ายสินค้าลงจากเรือ เวลาที่ทางเราสะดวกต่อการถ่ายสินค้าลง พร้อมแนะนำจำนวนรถรับสินค้าที่เหมาะสม เพื่อประสิทธิผลสูงสุดของปฏิบัติการ” Mr. Aratame กล่าว
อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Logistics Mananger เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Logistics Manager หรือคลิกที่นี่