Shell ร่วมกับ Hapag-Lloyd ลงนามข้อตกลงสำหรับการจัดหาเชื้อเพลิงไบโอมีเทนเหลวระยะยาว

0
287

เมื่อเร็วๆ นี้ สายการเดินเรือ Hapag-Lloyd และบริษัท Shell Western LNG B.V (Shell) ได้ร่วมลงนามข้อตกลงระยะยาวสำหรับการจัดหาเชื้อเพลิงไบโอมีเทนเหลว โดยความร่วมมือครั้งใหม่นี้นับเป็นการต่อยอดความร่วมมือเชิงกลยุทธ์เพื่อเร่งกระบวนการลดอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนด้วยเชื้อเพลิงทางเลือกในเรือขนส่งสินค้าระหว่างสายการเดินเรือฯ กับบริษัท Shell ที่ได้ทำร่วมกันเมื่อปี 2023

เชื้อเพลิงไบโอมีเทน หรือ Bio-LNG มีบทบาทสำคัญในกลยุทธ์การลดคาร์บอนของ Hapag-Lloyd ที่มีเป้าหมายในการลดอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนจากปฏิบัติการกองเรือให้เป็นศูนย์ภายในปี 2045 โดยการใช้เชื้อเพลิงดังกล่าวจะช่วยให้สายการเดินเรือฯ สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก พร้อมสนับสนุนการลดปริมาณคาร์บอนในซัพพลายเชนของลูกค้า โดย Shell ได้เริ่มขยายการให้บริการเชื้อเพลิงไบโอมีเทนเหลวตั้งแต่ปี 2024 ซึ่งปัจจุบันมีพร้อมให้บริการใน 22 จุดสำคัญภายในเครือข่ายการเติมเชื้อเพลิง LNG ทั่วโลก

Mr. Jan Christensen ผู้อำนวยการระดับสูงฝ่ายจัดซื้อเชื้อเพลิงระดับโลก สายการเดินเรือ Hapag-Lloyd กล่าวว่า “ข้อตกลงนี้ช่วยสร้างความมั่นคงด้านเชื้อเพลิงและเพิ่มความน่าเชื่อถือในการจัดการซัพพลายเชน เราจำเป็นต้องเพิ่มปริมาณการใช้เชื้อเพลิงหมุนเวียนที่ผลิตจากของเสียในกองเรือของเราให้มากขึ้น ซึ่งจะเป็นการลดการปล่อยมลพิษโดยไม่กระทบต่อคุณภาพและความน่าเชื่อถือ”

ทั้งนี้ เชื้อเพลิงไบโอมีเทนเหลวที่ Shell จัดหาให้ Hapag-Lloyd ได้รับการรับรอง ISCC EU ซึ่งเน้นย้ำถึงความยั่งยืนของกระบวนการผลิตวัตถุดิบ ความสามารถในการตรวจสอบด้านความยั่งยืนในซัพพลายเชน รวมถึงความสามารถในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก นอกจากนี้ยังเป็นเชื้อเพลิงแบบ drop-in ที่ทำให้เรือพลังงานเชื้อเพลิงคู่ LNG ของ Hapag-Lloyd สามารถเปลี่ยนไปใช้เชื้อเพลิงหมุนเวียนได้โดยไม่ต้องดัดแปลงอุปกรณ์ ทั้งยังเป็นเชื้อเพลิงที่ได้มาจากกระบวนการย่อยสลายของเสียอินทรีย์ เช่น เศษซากพืช มูลสัตว์และเศษอาหาร ซึ่งถูกนำมากำจัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และสิ่งเจือปนออกเพื่อปรับปรุงให้เป็นเชื้อเพลิงไบโอมีเทน


อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Logistics Mananger เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Logistics Manager หรือคลิกที่นี่

บทความก่อนหน้านี้Whale Logistics Group ผนึกกำลังบริษัท น้ำตาลครบุรี จำกัด (มหาชน) (KBS Sugar) และบริษัท Wilmar Sugar Limited ลงนาม MOU จัดตั้งโรงรีแพ็คน้ำตาลในแหลมฉบัง
บทความถัดไปCMA CGM ยกระดับบริการ SECI เชื่อมต่อสเปนและหมู่เกาะ Canary