สหไทย เทอร์มินอล เปิดงบ โชว์กำไร 109 ล้านบาท BBT พลิกกำไรได้ตามเป้า

0
3080

สหไทย เทอร์มินอล หนึ่งในผู้นำการให้บริการท่าเทียบเรือและโลจิสติกส์แบบครบวงจร เผยผลประกอบการปี 2019 มีกำไร 109.04 ล้านบาท ตอกย้ำพื้นฐานยังแกร่ง รุกขยายธุรกิจต่อเนื่อง

คุณเสาวคุณ ครุจิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สหไทย เทอร์มินอล จำกัด (มหาชน) หรือ PORT กล่าวว่า “บริษัทฯมีความยินดีที่จะรายงานผลประกอบการปี 2019 ซึ่งบริษัทฯ มีรายได้รวม 1,528.72 ล้านบาท ลดลง 1.87 % จากรายได้รวม 1,557.89 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรขั้นต้น 367.37 ล้านบาท ลดลง 7.79 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 109.04 ล้านบาท ลดลง 20.16 % จากกำไรสุทธิ 136.57 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปีก่อน”

“โดยการให้บริการเรือใหญ่ (Feeder) และการให้บริการเรือขนส่งชายฝั่ง (Barge) ซึ่งเป็นบริการหลักลดลง  10.27 % โดยมีปัจจัยการชะลอตัวของการนำเข้า-ส่งออกจากสงครามการค้าระหว่าง สหรัฐอเมริกาและสาธารณรัฐประชาชนจีน รวมทั้งค่าเงินบาทที่ยังคงแข็งตัวต่อเนื่องเป็นปัจจัยกดดัน”

“แต่อย่างไรก็ตามบริษัท บางกอก บาร์จ เทอร์มินอล จำกัด (BBT) บริษัทย่อยที่ร่วมทุนกับ MOL เพื่อให้บริการท่าเรือชายฝั่งกลับมีผลประกอบการที่ดีขึ้นและมีกำไรจากการดำเนินงานเป็นปีแรกหลังจากเปิดให้บริการในเดือนพฤศจิกายน ปี 2017 มั่นใจว่าการเติบโตของธุรกิจที่ไปพร้อมกับคู่ค้าจะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การเติบโตเป็นไปอย่างยั่งยืน ทั้งนี้คณะกรรมการมีมติเห็นชอบให้เสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นให้จ่ายปันผล 0.07 บาทต่อหุ้น จากกำไรในส่วนที่ได้รับยกเว้นภาษี โดยกำหนดวันปิดทะเบียนรายชื่อ ผู้ถือหุ้นในวันที่ 29 เมษายน 2020 จ่ายปันผลในวันที่ 20 พฤษภาคม 2020

คุณบัญชัย ครุจิตร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร คาดว่าปีนี้บริษัทฯ จะเติบโตเป็นไปตามแผนที่วางไว้ โดยมั่นใจว่าการเปิดให้บริการโครงการโลจิสติกส์พาร์ค และศูนย์กระจายสินค้าบนพื้นที่กว่า 50 ไร่ ได้ในช่วงปลายปี 2020 โดยจะเปิดในเขตพื้นที่ขอบเมืองกรุงเทพมหานคร ผ่านบริษัท บริษัท บางกอก โลจิสติกส์ พาร์ค จำกัด (Bangkok Logistics Park) ซึ่ง PORT ร่วมทุนกับกลุ่มเฟรเซอร์สฯ ผู้นำการให้บริการด้านอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรมไทย ในขณะที่โครงการ ท่าเรือแห่งใหม่แห่งที่ 3 ผ่าน บริษัท บางกอก  ริเวอร์ เทอมินอล จำกัด (Bangkok River Terminal)  ซึ่ง PORT ร่วมลงทุนกับบริษัท APM Terminals จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ A.P.Moller-Maersk  สายเรืออันดับหนึ่งของโลก และกับกลุ่มน้ำตาลมิตรผลเพื่อรองรับการขยายตัวในอนาคต โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2021 ซึ่งทั้ง 2 โครงการนอกจากจะช่วยในการเติบโตและขยายฐานของบริษัทฯให้ใหญ่ขึ้น ยังจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งและสร้างความยั่งยืนให้แก่ธุรกิจอีกด้วย

อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Logistics Mananger เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Logistics Manager หรือคลิกที่นี่

บทความก่อนหน้านี้TAPA เปิดตัวสุดยอดมาตรฐานความปลอดภัย รับมือการโจรกรรมสินค้าทั่วโลก
บทความถัดไปONE ปรับปรุงบริการขนส่งระหว่าง Intra-Asia กับญี่ปุ่น ปี 2020
tech and history geek, who enjoys hunting and photographing dark skies and milky way