กทท. ปรับปรุงท่าเรือระนอง ตั้งเป้าศูนย์กลางการขนส่งสินค้ากลุ่มประเทศ BIMSTEC

0
4005

การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ยกระดับการให้บริการของท่าเรือระนอง (ทรน.) และเร่งปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน พร้อมกับเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ เพื่อพัฒนาขึ้นเป็นศูนย์กลางการขนส่งสินค้าสู่กลุ่มประเทศ BIMSTEC ซึ่งประกอบไปด้วย บังคลาเทศ ศรีลังกา อินเดีย เมียนมา เนปาล ภูฏาน และประเทศไทย

เรือโทกมลศักดิ์ พรหมประยูร ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย

ในการนี้ เรือโทกมลศักดิ์ พรหมประยูร ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย เผยว่า “กทท. ได้เร่งดำเนินการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานและการให้บริการของ ทรน. ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อให้ท่าเทียบเรือทั้งสองแห่งของท่าเรือฯ สามารถรองรับเรือขนส่งสินค้าขนาด 12,000 เดดเวทตันได้ โดยโครงการปรับปรุงครั้งนี้ ดำเนินงานภายใต้นโยบายยกระดับการให้บริการของรัฐบาล ในการผลักดันโครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ (SEC) เพื่อเชื่อมโยงการขนส่งทางน้ำ ถนน และราง ระหว่างฝั่งอันดามันและฝั่งอ่าวไทยจาก ทรน. กับท่าเรือชุมพร และท่าเรือแหลมฉบัง (ทลฉ.) พร้อมกับเพิ่มมูลค่าทางการค้าของประเทศ โดยกำหนดให้ ทรน. เป็นศูนย์กลางการขนส่งสินค้าฝั่งทะเลอันดามัน เชื่อมต่อประเทศในกลุ่ม BIMSTEC เข้าด้วยกัน”  

“ทั้งนี้ การพัฒนาศักยภาพของ ทรน. ภายใต้งบประมาณรวม 41.8 ล้านบาทนี้ ยังเป็นการปรับปรุงโครงสร้างท่าเทียบเรือที่ 1 และ 2 ให้มีความปลอดภัย พร้อมกับปรับปรุงท่าเทียบเรือที่ 1 ให้มีประสิทธิภาพรองรับเรือบรรทุกสินค้าได้เทียบเท่ากับท่าเทียบเรือที่ 2 อีกด้วย” เรือโทกมลศักดิ์ กล่าวเสริม

อนึ่ง การปรับปรุงโครงสร้างดังกล่าว แบ่งออกเป็นงานปรับปรุงท่าเทียบเรือที่ 1 ซึ่งมีความยาวหน้าท่า 130 เมตร โดยการติดตั้งยางรองรับแรงกระแทกที่ท่าเทียบเรือฯ จำนวน 35 ชุด สำหรับการรองรับเรือขนส่งสินค้าขนาด 12,000 เดดเวทตัน

ขณะที่ท่าเทียบเรือที่ 2 ความยาวหน้าท่า 150 เมตร จะดำเนินการซ่อมแซมยางรองรับการกระแทกท่าเทียบเรือฯ เพื่อรองรับเรือขนส่งสินค้าขนาด 12,000 เดดเวทตัน รวมถึงรองรับการใช้งานเครนยกขนสินค้าหน้าท่าขนาด 65.3 ตัน สำหรับสะพานทางเข้าท่าเทียบเรือที่ 1 และ 2 นั้น สามารถรองรับน้ำหนักรถบรรทุกกึ่งพ่วง หกเพลา 22 ล้อ ได้

โดยในขณะนี้ กทท. กำลังดำเนินการจ้างที่ปรึกษาออกแบบและศึกษาผลกระทบ ในการก่อสร้างพื้นที่วางตู้สินค้าเพิ่มเติม ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2021

อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Logistics Mananger เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Logistics Manager หรือคลิกที่นี่

บทความก่อนหน้านี้APM Terminal เปิดตัว API ใหม่ ยกระดับการส่งผ่านข้อมูลจากท่าเทียบเรือ
บทความถัดไปMSC เผยรายละเอียดบริการขนส่งสินค้าสด ต้อนรับฤดูเมลอน