MSC เติบโตอย่างมั่นคง ด้วยแรงขับเคลื่อนจากบุคลากรที่มีคุณภาพ

0
11120

การเริ่มต้นธุรกิจล้วนแล้วแต่มีความเสี่ยง และต้องก้าวผ่านความหวาดกลัวที่จะล้มเหลว ความทุ่มเทและพยายามจนประสบความสำเร็จจะเป็นประสบการอันล้ำค่าสำหรับผู้ที่แข็งแกร่งเท่านั้น

สายการเดินเรือ Mediterranean Shipping Company (MSC) เริ่มต้นธุรกิจในปี 1970 และมีสำนักงานใหญ่อยู่ในนครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดย Mr. Gianluigi Aponte ผู้ก่อตั้ง เล็งเห็นโอกาสในช่วงที่เกิดการปฏิวัติอุตสาหกรรมการขนส่งทางเรือด้วยตู้สินค้า และตัดสินใจที่จะลงทุนในอุตสาหกรรมนี้ จากจุดเริ่มต้นด้วยเรือบรรทุกสินค้าเพียงหนึ่งลำ และบริการขนส่งสินค้าเพียงเส้นทางเดียว สายการเดินเรือฯ ค่อยๆ เติบโตขึ้นและขยายกองเรือ รวมทั้งพัฒนาบริการใหม่ๆ เพิ่มเติมให้กับลูกค้า

ปัจจุบัน MSC ได้เติบโตขึ้นมาเป็นสายการเดินเรือขนส่งตู้สินค้าที่มีพื้นที่การให้บริการใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่สองของโลก ตามรายงานของเว็บไซต์ www.alphaliner.com ผู้ให้บริการฐานข้อมูลสำหรับอุตสาหกรรมการขนส่งสินค้าทางทะเลชั้นแนวหน้า ยิ่งไปกว่านั้น สายการเดินเรือฯ ยังเติบโตขึ้นมาโดยไม่มีการควบรวมหรือเข้าควบคุมกิจการของสายการเดินเรืออื่นๆ แตกต่างจากแนวโน้มของอุตสาหกรรม ซึ่งการควบรวมหรือเข้าซื้อกิจการของบริษัทอื่นๆ แทบจะเป็นเรื่องสามัญ และการที่สายการเดินเรือฯ ยังคงดำรงสถานะความเป็นบริษัทเอกชนและกิจการแบบครอบครัว ทำให้พวกเขาสามารถวางแผนระยะยาวและนำรายได้กลับมาพัฒนาบริษัทได้อย่างคล่องตัว โดยไม่จำเป็นต้องผ่านความเห็นชอบ หรือข้อโต้แย้งจากผู้ถือหุ้นเหมือนองค์กรที่เป็นบริษัทมหาชน

ปัจจุบัน MSC มีกองเรือบรรทุกสินค้าขนาด 520 ลำ ปฏิบัติการในเส้นทางการค้ากว่า 200 เส้นทางทั่วโลก และมีสำนักงานกระจายอยู่ใน 155 ประเทศ พร้อมพนักงานมากกว่า 70,000 คน และสาเหตุที่ MSC สามารถก้าวหน้าได้อย่างไม่หยุดยั้ง นั่นเป็นเพราะพวกเขาให้ความสำคัญกับการเฟ้นหาและดูแลพนักงานที่มีความทุ่มเท และมีใจรักในการทำงานให้กับองค์กรและอุตสาหกรรมการขนส่งสินค้าทางทะเลอย่างสม่ำเสมอ

ความมุ่งมั่นและกระตือรือร้นเหล่านี้ สามารถสัมผัสได้ในทันทีเมื่อเราได้พบและพูดคุยกับ Mr. Peter Blohm กรรมการผู้จัดการ MSC Mediterranean Shipping (Thailand) Co., Ltd.  ซึ่งนำความทุ่มเทในการทำงานกว่าสองทศวรรษมาบูรณาการเข้ากับสำนักงานประจำประเทศไทย

Continuous Growth

MSC ประเทศไทยก่อตั้งขึ้นครั้งแรกในปี 1997 โดยมีสำนักงานอยู่ใจกลางกรุงเทพมหานคร เพื่อแสดงความมุ่งมั่นในการทำการตลาดในประเทศไทย Mr. Blohm ได้เข้ามารับตำแหน่งในช่วงเวลาที่สำคัญของบริษัทฯ เนื่องจากพวกเขากำลังจะเปิดสำนักงานอีกแห่งที่แหลมฉบังในช่วงเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้ เพื่อมอบบริการให้กับลูกค้าที่ท่าเรือน้ำลึกโดยตรง นอกจากนี้พวกเขายังมีแผนการที่จะปรับปรุงสำนักงานปัจจุบันให้ทันสมัยยิ่งขึ้นอีกด้วย โดยมีกำหนดแล้วเสร็จในช่วงไตรมาสแรกของปี 2020

ปัจจุบันนับเป็นเวลากว่า 7 เดือนแล้วที่ Mr.Blohm เข้ามารับตำแหน่งที่ประเทศไทย ซึ่งนับเป็นเวลาที่เหมาะสมในการทำความรู้จัก และเรียนรู้ถึงความเป็นมาในเส้นทางการทำงานและการเติบโตของเขากับ MSC

“ผมทำงานให้กับกลุ่มบริษัท MSC มา 19 ปีแล้ว เริ่มแรกผมทำงานให้กับ MSC สาขาเมือง Novorossiysk ทางตอนใต้ของประเทศรัสเซีย” Mr.Blohm กล่าว “ในตอนนั้น MSC ยังเป็นบริษัทขนาดเล็ก และผมช่วยพวกเขาก่อตั้งสำนักงานใหม่ ซึ่งรวมไปถึงการสร้างและขยายเครือข่ายการบริการ จนกระทั่งถึงจุดที่ธุรกิจเริ่มเติบโตอย่างก้าวกระโดด จากนั้นผมได้รับมอบหมายให้ไปประจำที่สาขา St. Petersburg และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกรรมการผู้จัดการประจำประเทศรัสเซีย ในช่วงเวลานั้นบริษัทฯ เติบโตเป็นสองเท่าทุกปี หลังจากนั้นไม่กี่ปี ผมก็ได้รับข้อเสนอให้ไปทำงานในแถบสแกนดิเนเวีย ซึ่งเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่เราอยากเข้าไปขยายธุรกิจ”

“ผมใช้เวลาสองสามปีในสแกนดิเนเวีย จากนั้นก็ถูกขอให้ไปประจำที่ปานามา ซึ่งเป็นที่ที่เราจดทะเบียนเรือ รวมถึงเรามีเรือเดินทางผ่านคลองปานามาเป็นประจำ เรามองเห็นโอกาสที่จะสร้างศูนย์กลางการถ่ายลำสินค้าที่นั่น และปัจจุบันปานามาก็เป็นศูนย์กลางการปฏิบัติการที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของ MSC พอทำงานที่นั่นครบ 10 ปี ผมก็คิดว่าถึงเวลาที่จะต้องมองหาความท้าทายใหม่ๆ และประเทศไทยก็เป็นสถานที่ที่น่าสนใจมากสำหรับผม เพราะที่นี่มีองค์ประกอบที่จำเป็นทุกอย่างสำหรับการเป็นศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์ของภูมิภาค ทั้งท่าเรือน้ำลึก, สถานีตู้สินค้า ICD, ท่าเทียบเรือบาร์จ และที่สำคัญ ผมมองเห็นโอกาสในการเติบโตอีกมากสำหรับ MSC ในประเทศไทย” Mr.Blohm กล่าว

“ประเทศไทยมีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ ซึ่งที่ผ่านมา ผมก็ต้องขอออกตัวว่า เรายังเป็นเพียงบริษัทที่กำลังเติบโต และเราต้องสร้างฐานที่มั่นในตลาดที่มีความได้เปรียบเสียก่อน ในขณะที่ประเทศไทยมีความซับซ้อนเกินศักยภาพของเครือข่ายของเรา แต่ปัจจุบันประเทศไทยก็ได้พัฒนาขึ้นอย่างมาก พร้อมโอกาสใหม่ๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย เรากำลังปรับบริการของเราให้เข้ากับความต้องการของท้องถิ่น เราอยากก้าวไปข้างหน้าและมีส่วนร่วมในการเติบโตของประเทศไทยให้มากกว่านี้

MSC Gülsün at Shanghai terminal

Opportunities Abound

ประสบการณ์การทำงานหลายสิบปีของ Mr. Blohm ทำให้เขารู้ว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้องค์กรสามารถรักษาความเป็นเลิศเอาไว้ได้ คือการเฟ้นหา ฝึกฝน และรักษาพนักงานชั้นยอดเอาไว้ แม้ว่าปัจจุบันสำนักงานในประเทศไทยจะบรรลุเป้าหมายจำนวนมากที่ถูกกำหนดเอาไว้ได้แล้ว แต่ Mr. Blohm มั่นใจว่ายังมีโอกาสที่เปิดกว้างอีกมากมายสำหรับ MSC ซึ่งทัศนคติและจิตวิญญาณของผู้ประกอบการแบบนี้ คือสิ่งที่เขาต้องการจากสมาชิกในองค์กร

“ผมมองเห็นโอกาสที่ MSC และประเทศไทยสามารถเติบโตไปด้วยกัน สิ่งที่ผมได้เรียนรู้คือ ผู้คนที่นี่ต้องการทำงานในที่ที่พวกเขารู้สึกว่าได้มีส่วนร่วมในการทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่เกินกว่าศักยภาพของคนเพียงคนเดียว และนั่นคือจุดเด่นของ MSC ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการที่เรายังเป็นบริษัทเอกชนที่ดำเนินงานแบบกิจการครอบครัว และบรรยากาศภายในบริษัทของเราก็เป็นเสมือนครอบครัว” Mr. Blohm กล่าว

แม้ที่นี่จะเป็นการทำงานในเอเชียครั้งแรกของ Mr. Blohm แต่เขาไม่ได้รู้สึกถึงความแตกต่างจากสำนักงานในหลายประเทศที่เขาเคยทำงานมาก่อน “นอกจากความต่างทางวัฒนธรรมแล้ว โดยทั่วไปแล้วผมไม่เห็นความแตกต่างจากสำนักงานในประเทศอื่นๆ พนักงานทุกคนอยากรู้ว่าพวกเขากำลังมุ่งไปในทิศทางใด และพวกเขาก็อยากทำงานกับบริษัทที่มีทิศทางที่ชัดเจน ผมว่านั่นเป็นสิ่งที่พนักงานทั่วโลกคิดเหมือนกัน และพวกเขาอยากเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่ยิ่งใหญ่ มีสิ่งหนึ่งที่เรายังอาจสื่อสารได้ไม่ค่อยดีนักในประเทศไทย นั่นก็คือการทำให้ทุกคนตระหนักว่าการทำงานกับ MSC เป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมแค่ไหน บริษัทของเราก่อตั้งบนรากฐานที่มั่นคง และทุกสิ่งที่เราทำในวันนี้ ล้วนเป็นการวางรากฐานสู่อนาคตที่ยิ่งใหญ่กว่าเสมอ”

นอกจากนี้ MSC ยังพยายามลดความซับซ้อนในกระบวนการธุรกิจของตัวเองด้วย โดย  Mr. Blohm กล่าวว่า “เราพยายามปรับเปลี่ยนกระบวนการการทำงานให้สะดวกและเรียบง่ายที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ความซับซ้อนและยุ่งยากเป็นปัญหาเกิดขึ้นเป็นประจำในอุตสาหกรรมการขนส่งสินค้าทางเรือ ความจริงแล้วสิ่งที่เราทำนั้นเรียบง่ายมาก แต่ผมก็สังเกตว่ามีความลักลั่นในภาคส่วนต่างๆ ของอุตสาหกรรม ที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อทำให้กิจกรรมต่างๆ เต็มไปด้วยความซับซ้อน การสร้างความเรียบง่ายนั้นไม่ได้ทำเพื่อลูกค้าของเราเท่านั้น แต่เราให้ความสำคัญกับพนักงานของเราเป็นหลัก เพราะถ้าพนักงานของเรามีความสุข ลูกค้าของเราก็จะมีความสุขจากบริการที่ดีเยี่ยมเช่นกัน”

เส้นทางในอาชีพของ Mr. Blohm นำพาเขาไปสู่ประสบการณ์อันหลากหลาย จากถิ่นกำเนิดในเดนมาร์ก เขาทำงานกับบริษัทสัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ และได้ทำงานในรัสเซีย สวีเดน ปานามา และไทย เขาคือตัวอย่างของพนักงานที่มีความสามารถและความทุ่มเท ที่ได้รับโอกาสจาก MSC ในการเติบโต

เมื่อถามว่าเส้นทางอาชีพแบบเดียวกับเขายังคงเป็นไปได้หรือไม่ เขาตอบกว่า “เนื่องจากบริษัทของเรายังคงเติบโตขึ้นเรื่อยๆ สำหรับพนักงานที่มีทักษะ ความทุ่มเท และมีความมุ่งมั่นที่จะเติบโตไปพร้อมกับเรา เราก็พร้อมที่จะมอบโอกาสให้พวกเขาเสมอ เรามีพนักงานที่เริ่มทำงานที่นี่และค่อยๆ ก้าวหน้าขึ้นไปสู่ตำแหน่งที่มีความรับผิดชอบมากขึ้น ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็นไปได้ เราอยากให้พนักงานในองค์กรของเราพร้อมรับมือกับทุกอย่าง คุณต้องพร้อมที่จะตั้งคำถามว่าอะไรมีประโยชน์ อะไรไม่มีประโยชน์ และต้องปรับปรุงสิ่งเหล่านั้นได้อย่างเหมาะสม

การทำงานกับ MSC นั้นให้อิสระในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในท้องถิ่นที่คุณทำงานอยู่ เพื่อให้แน่ใจว่างานที่ออกมานั้นสมบูรณ์แบบ แต่ละประเทศก็มีปัญหาที่แตกต่างกันออกไป และเราสามารถแก้ปัญหาเหล่านั้นได้เสมอจากความอิสระที่สำนักงานใหญ่มอบให้ เราทุกคนทำงานโดยมีเป้าหมายเดียวกัน และอนาคตของเราในประเทศไทยก็ดูสดใสเป็นอย่างมาก

อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Logistics Mananger เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Logistics Manager หรือคลิกที่นี่

บทความก่อนหน้านี้DB Schenker เปิดสำนักงานย่อยในประเทศบังคลาเทศอย่างเป็นทางการ
บทความถัดไปLM เปิดตัวตารางเรือออนไลน์ใหม่ ค้นหาเที่ยวเรือที่ต้องการ ง่ายๆ แค่ปลายนิ้ว
Danny Gill
Danny is currently a Digital Marketing and Content Creation Manager for Airfreight Logistics and Logistics Manager (LM) and is quite the foodie. He’s always on the hunt for new and exciting dishes to sample, and is never one to back down from a spicy challenge. His travels have taken him around the world, and he’s been able to experience many different cultures (and food).