A.P. Moller – Maersk (Maersk) ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ตู้สินค้าแบบครบวงจร เสริมแกร่งฐานการปฏิบัติการในบังกลาเทศ หนึ่งในตลาดอุตสาหกรรมสิ่งทอและเสื้อผ้าที่สำคัญของโลก ซึ่งบริษัทฯ ได้เข้าไปเปิดดำเนินกิจการมาเป็นเวลานานกว่าสามทศวรรษ
แม้ปัจจุบันการส่งออกสิ่งทอจากบังกลาเทศจะมีการเติบโตสูงขึ้นอย่างมาก แต่จำนวนคลังสินค้าใน Chattogram กลับไม่เพิ่มขึ้นเลยนับตั้งแต่ปี 2012 อีกทั้งยังมีเพียงบริษัท ISATL ผู้ปฏิบัติการ ICD และ CFS ชั้นนำในบังกลาเทศ เป็นผู้ปฏิบัติการเพียงรายเดียวนับตั้งแต่ปี 2018 เป็นต้นมา อย่างไรก็ตาม แม้ทุกวันนี้จะมีการใช้พื้นที่ที่มีอยู่อย่างเต็มประสิทธิภาพแล้ว แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ โดยในปี 2021 ความท้าทายเชิงโครงสร้างนี้ได้ส่งผลกระทบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการนำเข้าและส่งออกในตลาด เมื่อการปฏิบัติการในสถานีบรรจุและขนถ่ายสินค้า (CFS) เกิดติดขัด ก็จะส่งผลต่อไปยังขั้นตอนการดำเนินพิธีการศุลกากร การบรรจุสินค้าที่ล่าช้า ระยะเวลาการรอของรถบรรทุกที่นานขึ้น รวมทั้งยังส่งผลกระทบต่อเนื่องไปยังการปล่อยตู้สินค้าสู่ท่าเรือ ซึ่งทำให้ผลิตภาพโดยรวมของทั้งระบบลดลง อีกทั้งยังส่งผลกระทบร้ายแรงต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ เนื่องจากท่าเรือ Chittagong รองรับตู้สินค้ามากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ของสินค้าที่นำเข้าและส่งออกจากบังกลาเทศ
จากความท้าทายดังกล่าว Maersk Bangladesh ได้จับมือกับ ISATL เพื่อก่อสร้างคลังสินค้าทัณฑ์บนขนาด 200,000 ตารางฟุต (18,580 ตร.ม.) โดยปัจจุบัน ISATL เป็นผู้ปฏิบัติการคลังสินค้า และ CFS ทั้งหมดสี่แห่งใน Chattogram และท่าเรือ Dhaka และภายใต้การเป็นพันธมิตรดังกล่าว ISATL จะสร้างคลังสินค้าทัณฑ์บนแห่งใหม่ภายในพื้นที่ของศูนย์ปฏิบัติการเดิมที่ Pathortoli ใน Chattogram คลังสินค้าแห่งใหม่นี้จะขยายพื้นที่การปฏิบัติการเดิมเป็นสองเท่า และขยายพื้นที่การปฏิบัติการทั้งหมดใน Chattogram เพิ่มอีก 8 เปอร์เซ็นต์ โดยคาดว่าจะดำเนินการเสร็จสมบูรณ์ภายในสิ้นปี 2022 และผู้ส่งออกของบังกลาเทศและผู้ซื้อในต่างประเทศจะสามารถเริ่มใช้งานศูนย์ปฏิบัติการดังกล่าวได้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2022 เมื่อการก่อสร้างเฟสที่หนึ่งแล้วเสร็จ
Mr. Angshuman Mustafi กรรมการผู้จัดการ บริษัท Maersk Bangladesh กล่าวว่า “บังกลาเทศมีความต้องการด้านโซลูชันแบบครบวงจรเพื่อสนับสนุนปฏิบัติการขนส่งสินค้าทางทะเล การยกขนสินค้าภายในท่าเรือ และโลจิสติกส์ภาคพื้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อตลาดการค้าในระยะยาว โดยการร่วมมือกับ ISATL เราจะเปิดให้บริการศูนย์ปฏิบัติการที่มีศักยภาพ ซึ่งจะมีส่วนช่วยแก้ไขความแออัดภายในระบบการขนส่งภาคพื้นดิน และปรับกระบวนการไหลเวียนของสินค้าทั้งขาเข้าและขาออกจากบังกลาเทศให้มีความราบรื่นยิ่งขึ้น”
อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Logistics Mananger เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Logistics Manager หรือคลิกที่นี่