LOGISTEED เปิดตัวชื่อแบรนด์ใหม่ภายใต้คุณภาพบริการโลจิสติกส์ระดับสากล พร้อมเปิดรับโอกาสและความเป็นไปได้ใหม่ๆ ผ่านการผสานความเชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์ (Logistics) เข้ากับแนวทางการให้บริการที่มุ่งเน้นคุณภาพเหนือความคาดหมาย (Exceed) การพัฒนาไปข้างหน้า (Proceed) การบรรลุผลสำเร็จ (Succeed) และความรวดเร็ว (Speed) ซึ่งเปรียบเสมือนหัวใจสำคัญที่บริษัทฯ ยึดถือเป็นหลักในการให้บริการแก่ลูกค้ามาโดยตลอด
เพื่อเป็นการปรับภาพลักษณ์ขององค์กรและสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ในการยกระดับธุรกิจโลจิสติกส์ให้ทันสมัยและสอดคล้องกับการเติบโตของเทคโนโลยี รวมถึงแนวทางการให้บริการและกระบวนการโลจิสติกส์ยุคใหม่มากขึ้น บริษัท Hitachi Transport System Vantec (Thailand) ได้ประกาศปรับเปลี่ยนชื่อองค์กร สู่แบรนด์ LOGISTEED (Thailand) โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน ปี 2023 เป็นต้นไป
เมื่อวันที่ 8 มีนาคมที่ผ่านมา LM มีโอกาสได้พูดคุยกับ Mr. Hiroki Sato กรรมการผู้จัดการ คุณไกรศักดิ์ โรจนประเสริฐ ผู้จัดการทั่วไปอาวุโส ฝ่าย Logistics Business & Logistics Engineering และคุณลัดดาภรณ์ วรานุกูลรักษ์ ผู้จัดการทั่วไป ฝ่าย Corporate Group Quality Assurance/Internal Auditing/Legal & Compliance/Safety & Quality Management บริษัท LOGISTEED (Thailand) เกี่ยวกับเป้าหมายและแนวทางในการเปลี่ยนแปลงและปรับภาพลักษณ์องค์กรผ่านการรีแบรนด์ในครั้งนี้
A Proud History
บริษัท Hitachi Transport System เป็นบริษัทในเครือของ Hitachi Group ก่อตั้งขึ้นในประเทศญี่ปุ่นเมื่อปี 1950 ก่อนที่จะเข้ามาจัดตั้งบริษัท Hitachi Transport System (Thailand) เพื่อดำเนินธุรกิจรับจัดเก็บสินค้าและบริการขนส่งสินค้าในประเทศไทย เมื่อปี 1989
โดยคุณลัดดาภรณ์ ได้เล่าถึงจุดเริ่มต้นของการก่อตั้งบริษัทฯ ในประเทศไทยว่า “ในระยะแรกของการก่อตั้ง Hitachi Transport System (Thailand) บริษัทมุ่งเน้นการให้บริการเพื่อสนับสนุนการจัดเก็บ ขนส่ง และกระจายสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนแก่บริษัท Hitachi Consumer Products ไปยังปลายทางทั่วประเทศไทย รวมไปถึงการให้บริการด้านพิธีการศุลกากร การนำเข้าและส่งออก นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีชื่อเสียงและความเชี่ยวชาญด้านการให้บริการขนส่งสินค้าที่มีขนาดใหญ่ รวมถึงการเคลื่อนย้ายและติดตั้งเครื่องจักรในโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ด้วย”
คุณลัดดาภรณ์ กล่าวต่อไปว่า “ในปี 1999 เราได้รับใบอนุญาตสำหรับผู้ให้บริการรับจัดการขนส่งสินค้า (freight forwarding license) ซึ่งครอบคลุมถึงการให้บริการผ่านพิธีการศุลกากร การจัดการขนส่งสินค้าทางทะเลและทางอากาศ ซึ่งเปิดโอกาสให้เราสามารถให้บริการแก่ลูกค้าซึ่งเป็นบริษัทภายนอกมากขึ้น ก่อนที่จะมีการก่อตั้งบริษัทในเครือขึ้นใหม่ ในชื่อ TST Sunrise Service เมื่อปี 2009 เพื่อให้บริการด้านคลังสินค้าและรองรับลูกค้าในหลากหลายธุรกิจมากขึ้น จากนั้นในปี 2011 บริษัทได้เข้าซื้อหุ้นบริษัท Eternity Grand Logistics เพื่อต่อยอดการให้บริการขนส่งสินค้าในประเทศและบริการขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนด้วยรถบรรทุก
“ในปี 2015 ทาง Hitachi Transport System (Thailand) ได้ควบรวมกิจการกับ Vantec World Transport (Thailand) และเปลี่ยนชื่อเป็น Hitachi Transport System Vantec (Thailand) ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถเพิ่มศักยภาพการให้บริการและการรองรับลูกค้าได้มากยิ่งกว่าที่เคย ก่อนที่บริษัทฯ จะมีการเปลี่ยนชื่ออีกครั้งเป็น LOGISTEED (Thailand) ในวันที่ 1 เมษายนนี้”
A Bold Rebranding Move
หลังจากที่บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในฐานะผู้ให้บริการโลจิสติกส์ชั้นนำระดับโลกมาเป็นเวลากว่า 73 ปี นับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งขึ้นในญี่ปุ่น และ 34 ปีแห่งความสำเร็จหลังก่อตั้งบริษัทในประเทศไทย ล่าสุด บริษัทได้ประกาศรีแบรนด์จาก Hitachi Transport System Vantec สู่ LOGISTEED พร้อมโลโก้และอัตลักษณ์องค์กรใหม่ ‘Toward New Dimensions’ เพื่อสร้างภาพจำในการเป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์ที่ทันสมัยและชัดเจนยิ่งขึ้น
โดยชื่อแบรนด์ LOGISTEED เกิดจากการนำเอาคำว่า Logistics เข้ามาผนวกรวมกับคำว่า Exceed, Proceed, Succeed และ Speed ซึ่งเป็นคำศัพท์ที่สื่อถึงการให้บริการที่มากกว่าความคาดหวังของลูกค้า (Exceed) การพัฒนาไปข้างหน้า (Proceed) การบรรลุผลสำเร็จ (Succeed) และความรวดเร็ว (Speed) ซึ่งทางบริษัทได้ใช้เป็นคอนเซ็ปส์ให้การให้บริการแก่ลูกค้าและส่งเสริมเป้าหมายการเติบโตของบริษัทมาโดยตลอด และจะต่อยอดความสำเร็จนี้ต่อไปอีกในอนาคต
Mr. Sato อธิบายว่า “การเปลี่ยนชื่อบริษัทในครั้งนี้เป็นนโยบายที่เริ่มต้นมาจากบริษัทแม่ ซึ่งจะช่วยให้ภาพจำของผู้คนที่มีต่อแบรนด์เปลี่ยนแปลงไป และการรีแบรนด์นี้จะทำให้ภาพลักษณ์ขององค์สะท้อนถึงความเป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์และการจัดการซัพพลายเชนชั้นนำระดับโลกของบริษัทได้ชัดเจนยิ่งขึ้น เนื่องจากในความเป็นจริง บริษัทได้ให้บริการแก่ลูกค้าทั่วไปมากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ในปัจจุบัน”
“การเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น LOGISTEED ในครั้งนี้ จะสะท้อนถึงความเป็นบริษัทผู้ให้บริการโลจิสติกส์ระดับโลกได้ดียิ่งขึ้น ด้วยเครือข่ายมากกว่า 120 บริษัท ใน 30 ประเทศทั่วโลก พร้อมความเชี่ยวชาญเฉพาะทางในการให้บริการโลจิสติกส์แก่ลูกค้าในหลายอุตสาหกรรม ลูกค้าของเราทั้งลูกค้าปัจจุบันและลูกค้าใหม่จึงสามารถมั่นใจได้เสมอว่าพวกเขาจะได้รับมาตรฐานการให้บริการที่ดี ภายใต้คุณภาพและประสิทธิภาพการปฏิบัติการในระดับดีเยี่ยมเช่นที่ผ่านมา ทั้งในส่วนของบริการโลจิสติกส์แบบ 3PL การจัดการซัพพลายเชน บริการรับจัดการขนส่งสินค้าทางทะเลและทางอากาศ การขนส่งสินค้าทางบกและการกระจายสินค้า บริการผ่านพิธีการศุลกากร บริการคลังสินค้า บริการเคลื่อนย้ายสินค้าขนาดใหญ่และติดตั้งเครื่องจักร รวมถึงบริการโลจิสติกส์โซลูชันต่างๆ ที่บริษัทมุ่งมั่นพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง ควบคู่ไปกับการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการปฏิบัติการและการให้บริการแก่ลูกค้าของเรา” Mr. Sato กล่าวเสริม
Logistics Engineering & IT Solutions
ปฏิเสธไม่ได้ว่า ปัจจุบันเทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทในแทบทุกอุตสาหกรรม ซึ่งแน่นอนว่าธุรกิจโลจิสติกส์เองก็ได้รับอิทธิพลด้านการเปลี่ยนผ่านสู่ความเป็นดิจิทัล (digital transformation) เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะ LOGISTEED ซึ่งเป็นบริษัทพันธมิตรของบริษัทผู้นำด้านเทคโนโลยีไอทีระดับโลก นั่นจึงทำให้บริษัทใช้จุดแข็งและเครือข่ายที่แข็งแกร่งนี้ในการพัฒนาระบบไอทีที่สามารถสนับสนุนการปฏิบัติการโลจิสติกส์ได้เป็นอย่างดี ทำให้บริษัทไม่เพียงก้าวทันเทคโนโลยีอยู่เสมอเท่านั้น หากแต่ยังสามารถก้าวนำเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ในปัจจุบันอีกด้วย
สำหรับบริษัท LOGISTEED แล้ว การพัฒนาระบบและแอพพลิเคชันสนับสนุนการปฏิบัติการถือเป็นเรื่องที่บริษัทให้ความสำคัญและลงทุนอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านบุคลากรและเทคโนโลยี ซึ่งเราจะเห็นได้จากการที่บริษัทก่อตั้งทีมไอทีขึ้นมาเพื่อพัฒนาและคอยซัพพอร์ทการใช้งานระบบต่างๆ โดยนอกเหนือจากการพัฒนาระบบจัดการคลังสินค้า (Warehouse Management System: WMS) และระบบจัดการการขนส่ง (Transportation Management System: TMS) ขึ้นมาใช้เป็นของบริษัทเองแล้ว ล่าสุด LOGISTEED ยังได้พัฒนาระบบจัดการด้านโลจิสติกส์ (Logistics Monitoring System: LMS) ซึ่งเป็นระบบที่พัฒนาขึ้นใหม่ เพื่อยกระดับการปฏิบัติการในกระบวนการโลจิสติกส์ทั้งหมด และยังเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการลูกค้าให้ดียิ่งขึ้นไปอีกด้วย
คุณไกรศักดิ์ กล่าวว่า “ปัจจุบัน เรากำลังพัฒนาระบบ LMS ขึ้นมาใหม่ โดยถือได้ว่าเป็นบริษัทแรกๆ ที่พัฒนาระบบนี้ขึ้นมาใช้งานจริง และตอนนี้เราได้เริ่มใช้งานระบบนี้แล้ว โดย LMS เป็นระบบที่เราคิดค้นพัฒนาขึ้นเองเพื่อเสริมประสิทธิภาพการปฏิบัติการ และช่วยควบคุมขั้นตอนการดำเนินงานต่างๆ ทำให้เราติดตามสถานะการปฏิบัติการในทุกขั้นตอนได้แบบเรียลไทม์ นับตั้งแต่ขั้นตอนการรับออเดอร์ รับสินค้า การบรรจุภัณฑ์สินค้า การโหลดสินค้าขึ้นตู้ การปฏิบัติการขนส่งด้วยรถบรรทุก ไปจนถึงการส่งมอบสินค้า ซึ่งช่วยให้เราสามารถประเมินเปอร์เซ็นต์ความคืบหน้าของกระบวนการทำงานทั้งหมด ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เราสามารถตรวจสอบและแก้ไขปัญหาได้อย่างเฉพาะเจาะจงว่าขั้นตอนใดที่มีความล่าช้าและมีสาเหตุมาจากอะไร นอกจากนี้ หากมีเหตุสุดวิสัยที่จะทำให้การขนส่งสินค้าต้องล่าช้าออกไป เราก็สามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ล่วงหน้า เพื่อร่วมกันเตรียมรับมือกับสถานการณ์และวางแผนสำรองได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
นอกเหนือจากการพัฒนาระบบ LMS เพื่อเสริมประสิทธิภาพการให้บริการโลจิสติกส์แล้ว LOGISTEED ยังได้พิจารณาที่จะนำเทคโนโลยีและระบบไอทีอื่นๆ เข้ามาช่วยเพิ่มศักยภาพของบุคลากรและการปฏิบัติการโดยรวมได้ในอนาคต อาทิ ระบบ ASRS (Automated Storage and Retrieval System) หรือระบบจัดการด้านการจัดเก็บและเบิกจ่ายสินค้าอัตโนมัติ ซึ่งช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บสินค้าได้ ลดการใช้กำลังคนโดยไม่จำเป็น และเพิ่มความแม่นยำในการดำเนินการ รวมไปถึงการนำยานพาหนะขนถ่ายสินค้าระบบอัตโนมัติ (Automated Guided Vehicle: AGV) มาช่วยในกระบวนการขนส่งภายในคลังสินค้า
Toward New Dimensions
เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านบริการโลจิสติกส์ บริษัทไม่ได้เพียงเดินหน้าพัฒนาด้านไอทีโซลูชันและการสื่อสารผ่านการรีแบรนด์เท่านั้น แต่ LOGISTEED ยังเตรียมต่อยอดความสำเร็จผ่านการเพิ่มศักยภาพในการรองรับการเติบโตของลูกค้าทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก ด้วยการเตรียมการก่อสร้างคลังสินค้าแห่งใหม่บนพื้นที่กว่า 47 ไร่ ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ
คุณไกรศักดิ์ กล่าวว่า “เราวางแผนที่จะสร้างคลังสินค้าโดยใช้ประโยชน์จากพื้นที่ให้มากที่สุด โดยคาดว่าจะก่อสร้างคลังสินค้าแบบสองชั้น ซึ่งจะทำให้เรามีพื้นที่จัดเก็บสินค้าได้ถึง 70,000 ตร.ม. โดยในเฟสแรก เราจะเริ่มต้นก่อสร้างคลังสินค้าในพื้นที่ 40,000 ตร.ม. ก่อน จากนั้นจึงขยายเพิ่มเติมในเฟสที่สอง โดยการก่อสร้างเฟสแรกเราคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในต้นปี 2025 สำหรับคลังสินค้าใหม่นี้เราจะพัฒนาให้เป็นคลังสินค้าแบบมัลติฟังก์ชัน (multi-functional) ครอบคลุมทั้งคลังสินค้าแห้งและคลังสินค้าควบคุมอุณหภูมิ ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถรองรับลูกค้าได้หลากหลายอุตสาหกรรมฯ มากขึ้น ทั้งกลุ่มสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องสำอางค์ สินค้าเพื่อสุขภาพ และสินค้ากลุ่มอาหาร เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดในเมืองไทยที่จะก้าวไปสู่การเป็นศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์ของภูมิภาคอาเซียนต่อไป”
Unified Strength
นอกเหนือจากการพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเพิ่มศักยภาพของ LOGISTEED (Thailand) ในประเทศไทยแล้ว บริษัทยังเดินหน้าเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านบริการโลจิสติกส์ครบวงจรอย่างไม่หยุดยั้ง ผ่านความร่วมมืออันใกล้ชิดกับบริษัทแม่ รวมไปถึงการทำงานร่วมกันระหว่าง LOGISTEED และบริษัทในเครือ อย่าง TST Sunrise Service รวมถึงบริษัท Eternity Grand Logistics เพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านบริการขนส่งสินค้าภายในประเทศและการขนส่งข้ามพรมแดน อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มศักยภาพทางการแข่งขัน ควบคู่ไปกับการขยายโอกาสในการพัฒนาโซลูชันใหม่ๆ ให้กับลูกค้าของบริษัทฯ เพื่อเน้นย้ำจุดยืนของ LOGISTEED ในฐานะบริษัทผู้ให้บริการโลจิสติกส์ที่ให้บริการด้วยความรวดเร็วภายใต้คุณภาพเหนือระดับ และพร้อมที่จะพัฒนาไปสู่ความสำเร็จข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง
อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Logistics Mananger เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Logistics Manager หรือคลิกที่นี่