Gartner, Inc บริษัทวิจัยและที่ปรึกษาชั้นนำ เผยข้อมูลผลกระทบต่อซัพพลายเชนจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 พร้อมแนะนำให้ผู้จัดการซัพพลายเชนประเมินและวางแผน เพื่อเตรียมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ทั้งในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว
Mr. Koray Köse ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์ข้อมูล บริษัท Gartner กล่าวว่า “ผลที่ตามมาของการระบาดครั้งใหญ่เป็นสิ่งที่ยากจะคาดการณ์ เราจึงต้องมีความพร้อมในการรับมือเมื่อเกิดความเสี่ยงขึ้น และนั่นคือการที่จะต้องเปลี่ยนแนวคิดในการบริหารความเสี่ยงและสร้างความต่อเนื่องทางธุรกิจ”
โดย Gartner ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลกระทบที่ได้เกิดขึ้นในวงการซัพพลายเชนแล้วในปัจจุบัน ดังนี้
- การขาดแคลนวัสดุอุปกรณ์ หรือสินค้าสำเร็จรูปที่มีการขนส่งผ่านศูนย์โลจิสติกส์ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ
- การขาดแคลนแรงงานเนื่องจากการถูกกักกันโรค หรือจากอาการเจ็บป่วย
- อุปสรรคในการเข้าถึงแหล่งต้นทางของสินค้าหรือการบริการ เนื่องจากการเดินทางอาจถูกจำกัดในบางพื้นที่ ซึ่งส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจหรือพัฒนาโครงการใหม่ๆ
- ข้อจำกัดด้านการจัดเก็บและความพร้อมใช้วัสดุอุปกรณ์ ณ ศูนย์กระจายสินค้าและเครือข่ายการขนส่ง เนื่องจากวัสดุอุปกรณ์อาจจะติดค้างอยู่ ณ ที่ใดที่หนึ่งซึ่งส่งผลให้เกิดความยุ่งยากในการค้นหาเส้นทางและวิธีการขนส่งแบบอื่น
- การเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคจากการซื้อสิ่งของในที่สาธารณะ ไปซื้อของออนไลน์แทน ซึ่งเป็นเรื่องที่ท้าทายเครือข่ายการขนส่ง
ทั้งนี้ Gartner ยังได้แนะนำเกี่ยวกับการวางแผนสำหรับการเตรียมความพร้อมกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นเป็นสามระยะ ดังนี้
- แผนระยะสั้น เน้นการสร้างความโปร่งใสในซัพพลายเชนทุกระดับ โดยการพัฒนาโปรแกรมสำหรับตรวจสอบและรับมือกับความเสี่ยงที่จะเกิดจากภาวะหยุดชะงักของซัพพลายเชน จากนั้นจึงตรวจสอบว่าสามารถเขาถึงสินค้าคงคลังที่มีอยู่ได้ โดยขั้นตอนนี้เป็นสิ่งที่ต้องลงมือปฏิบัติทันที
- แผนระยะกลางระดับไตรมาส เน้นที่การสร้างสมดุลระว่างอุปสงค์และอุปทาน รวมถึงการเตรียมสินค้าคงคลังสำรอง
- แผนระยะยาวจะต้องเริ่มลงมือทำในปีนี้ คือการคาดการณ์ระยะเวลาที่ผลกระทบจะเกิดขึ้นในครั้งต่อไป และเตรียมวางแผนและพัฒนาแผนปฏิบัติการไว้รองรับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น
อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Logistics Mananger เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Logistics Manager หรือคลิกที่นี่