FedEx ประสบความสำเร็จในการขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนด้วยยานยนต์ไฟฟ้าเป็นครั้งแรกจากมาเลเซียสู่สิงคโปร์

0
417

FedEx Express หนึ่งในบริษัทขนส่งสินค้าด่วนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ประสบความสำเร็จในการปฏิบัติการขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนจากมาเลเซียไปยังสิงคโปร์ด้วยยานยนต์ไฟฟ้า (EV) เป็นครั้งแรก โดยความสำเร็จครั้งนี้ถูกบันทึกไว้ใน Malaysian Book of Records ในฐานะการขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ครั้งแรก ซึ่งช่วยเน้นย้ำถึงเป้าหมายในการบรรลุการปฏิบัติการที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) ภายในปี 2040 ของ FedEx ได้เป็นอย่างดี

โดยปฏิบัติการดังกล่าวเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ณ ศูนย์ปฏิบัติการของ FedEx ใน Shah Alam ประเทศมาเลเซีย โดยยานยนต์ไฟฟ้าของ FedEx ได้เดินทางข้ามพรมแดนเป็นระยะทาง 406 กม. ไปยังจุดหมายปลายทาง ณ ท่าอากาศยาน Changi ในประเทศสิงคโปร์ โดยระหว่างการขนส่ง ยานยนต์ไฟฟ้าได้แวะชาร์จพลังงานไฟฟ้าใน Johor ประเทศมาเลเซียเพียงครั้งเดียวเท่านั้น นอกจากนี้ การขนส่งสินค้าด้วยยานยนต์ไฟฟ้าครั้งนี้ยังพิสูจน์ให้เห็นว่าสามารถช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนลงได้ถึง 100 กก. เมื่อเทียบกับรถตู้พลังงานเชื้อเพลิงโดยทั่วไป

ทั้งนี้ FedEx จะนำข้อมูลเชิงลึกที่ได้จากการปฏิบัติการครั้งนี้ไปประเมินเพื่อค้นหาประสิทธิภาพทางการปฏิบัติการต่อไป  เพื่อนำไปปรับใช้กับการปฏิบัติการยกขนสินค้าและขนส่งข้ามพรมแดนในอนาคต ซึ่งไม่เพียงแต่จะเป็นมิตรแต่สิ่งแวดล้อมมากขึ้น แต่ยังช่วยยกระดับประสิทธิภาพของกองรถ รวมถึงการส่งมอบบริการที่ดีขึ้นให้แก่ลูกค้าด้วย

สำหรับเป้าหมายเพื่อการเปลี่ยนผ่านไปสู่การใช้ยานพาหนะไฟฟ้า FedEx ยังได้เตรียมความพร้อมเพื่อเปลี่ยนผ่านไปใช้ยานพาหนะไฟฟ้าสำหรับการปฏิบัติการขนส่งสินค้าทั้งทางบกและทางอากาศ โดยถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์เพื่อความยั่งยืนของ FedEx ซึ่งมุ่งเน้นหลักการ Reduce, Replace, Revolutionize ครอบคลุมทั้งการปฏิบัติการที่ประหยัดเชื้อเพลิงมากขึ้น การลงทุนในพลังงานทดแทน รวมถึงการมีส่วนร่วมในโซลูชันเพื่อการบรรจุสินค้าอย่างยั่งยืน

นอกจากนี้ เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัทยังได้เปิดตัวโปรแกรมสำหรับรายงานปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนในรูปแบบ cloud-based ซึ่งช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงประวัติการปล่อยก๊าซคาร์บอนจากชิปเมนต์ ผ่านเครือข่ายของ FedEx โดยลูกค้าของ FedEx สามารถใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อประกอบการตัดสินใจในกลยุทธ์การขนส่งสินค้าในอนาคต เพื่อช่วยลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับสิ่งแวดล้อม


อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Logistics Mananger เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Logistics Manager หรือคลิกที่นี่

บทความก่อนหน้านี้APM Terminals จับมือ HHIT ร่วมพัฒนาระบบท่าเรืออัตโนมัติและโลจิสติกส์สีเขียวในเวียดนาม
บทความถัดไปPSA Sines รับมอบเครน RTG อัตโนมัติใหม่ 6 คัน พร้อมยกระดับปฏิบัติการตู้สินค้าอัตโนมัติเต็มรูปแบบ
Kittipat Sakulborirak
Writer, film maker, coach and some type of your friend