DHL Global Forwarding ขยายสถานี CFS ในบังกลาเทศ รองรับความต้องการส่งออกเสื้อผ้าสำเร็จรูประดับโลก

0
556
DHL named as a Leader in the 2020 Gartner Magic Quadrant for Third-Party Logistics, Worldwide

DHL Global Forwarding ลงทุนขยายสถานีบรรจุและคัดแยกสินค้า (CFS) ในบังกลาเทศ คิดเป็นมูลค่ากว่าสองล้านยูโร เพื่อตอบสนองการเติบโตของอุตสาหกรรมส่งออกเสื้อผ้าสำเร็จรูป (RMG) โดยปัจจุบันบังกลาเทศมีสถานี CFS เพียงไม่ถึง 20 แห่งทั่วประเทศ ในขณะที่ศูนย์ปฏิบัติการเหล่านี้มีส่วนสำคัญในการรับมอบและรวบรวมสินค้าจากซัพพลายเออร์หลากหลายรายเพื่อบรรจุตู้สินค้าก่อนขนส่งต่อไปยังผู้รับปลายทาง

สินค้าส่งออกของบังกลาเทศในปีงบประมาณ 2022 มีมูลค่าสูงถึง 52 พันล้านเหรียญสหรัฐเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ โดยมีปริมาณสินค้าส่งออกเพิ่มขึ้นถึง 34.3 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับปีงบประมาณ 2021 และมีเสื้อผ้าสำเร็จรูปเป็นสินค้าส่งออกสำคัญคิดเป็นสัดส่วนราว 80 เปอร์เซ็นต์ของสินค้าส่งออกทั้งหมด และมีตลาดสำคัญได้แก่ สหรัฐอเมริกา เยอรมนี สหราชอาณาจักร สเปน และฝรั่งเศส

“การขยายสถานีบรรจุและคัดแยกสินค้าของ DHL Global Forwarding จะช่วยตอบสนองความต้องการส่งออกเสื้อผ้าสำเร็จรูปจากบังกลาเทศสู่ปลายทางทั่วโลกที่กำลังเพิ่มขึ้น ด้วยมูลค่าการส่งออกที่สูงถึง 42.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ อุตสาหกรรมเสื้อผ้าสำเร็จรูปของบังกลาเทศมีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญเนื่องจากความสามารถด้านการผลิตที่แข็งแกร่งและต้นทุนค่าแรงที่ได้เปรียบ การยกระดับขีดความสามารถด้านความปลอดภัย การจัดเก็บสินค้า และกระบวนการคัดแยกสินค้าของสถานี CFS จะช่วยให้เราสามารถมอบบริการคุณภาพสูงแก่ลูกค้า และในขณะเดียวกันก็สอดคล้องตามมาตรฐานคุณภาพของสหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกาด้วย โดยผ่านทางสถานี CFS เหล่านี้ เราจะสามารถเสริมสร้างความแข็งแกร่งของพื้นฐานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลได้ ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญตามแนวคิดด้านความยั่งยืนของบริษัท” Mr. Fabian Rybka ผู้อำนวยการประจำกลุ่มประเทศบังกลาเทศ ศรีลังกา มัลดีฟส์ เนปาล และภูฏาน บริษัท DHL Global Forwarding กล่าว

ทั้งนี้ สถานี CFS ของ DHL Global Forwarding ตั้งอยู่ใน Chittagong ซึ่งเป็นเมืองท่าสำคัญ และเป็นที่ตั้งของท่าเรือ Chittagong ท่าเรือหลักของบังกลาเทศซึ่งรองรับปริมาณสินค้านำเข้าและส่งออกมากกว่า 92 เปอร์เซ็นต์ของประเทศ การขยายพื้นที่สถานี CFS เป็น 70,000 ตารางฟุต จะช่วยให้สินค้าสามารถเข้าถึงท่าเรือได้สะดวกขึ้น และจัดส่งออกทางทะเลได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ สถานี CFS ดังกล่าวยังมีจุดเด่นด้านปฏิบัติการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งช่วยลดการปล่อยคาร์บอนอีกทางหนึ่งด้วย โดยลูกค้ายังสามารถเลือกใช้เชื้อเพลิงทางทะเลที่ยั่งยืนสำหรับการขนส่งทั้งแบบ FCL และ LCL ผ่านโซลูชัน GoGreen Plus เพื่อลดการปล่อยคาร์บอนจากปฏิบัติการขนส่งสินค้าทางเรือได้อีกด้วย


อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Logistics Mananger เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Logistics Manager หรือคลิกที่นี่

บทความก่อนหน้านี้Maersk เปิดสำนักงานแห่งใหม่ที่ SOHAR Freezone ในโอมาน
บทความถัดไปWallenius Wilhelmsen เข้าควบคุมกิจการ Syngin Technology