deugro จับมือ Siemens Gamesa และ Amasus Offshore พัฒนาเรือขนส่งสินค้าโครงการกังหันลมนอกชายฝั่ง

0
499

deugro Denmark ในเครือ deugro ผู้เชี่ยวชาญด้านปฏิบัติการขนส่งสินค้าโครงการ โดยความร่วมมือกับ Siemens Gamesa และ Amasus Offshore B.V. เปิดเผยโครงการสั่งประกอบเรือขนส่งสินค้าที่ออกแบบมาเพื่อขนส่งส่วนประกอบกังหันลมผลิตไฟฟ้านอกชายฝั่งจำนวนสองลำ ได้แก่ Rotra Futura และ Rotra Horizon โดย Siemens Gamesa และ deugro ได้บรรลุเงื่อนไขสัญญาเช่าเหมาลำระยะยาวสำหรับเรือทั้งสองลำดังกล่าว ซึ่งมีกำหนดส่งมอบในปี 2025

โครงการพัฒนาเรือขนส่งสินค้าในครั้งนี้เป็นการต่อยอดจากแนวคิด Rotra ที่ได้รับรางวัลและใช้ในการประกอบเรือขนส่งสินค้าหนัก Rotra Mare และ Rotra Vente ซึ่งนับตั้งแต่ในปี 2016 เป็นต้นมา แนวคิด Rotra ได้รับการพิสูจน์ว่ามีจุดเด่นในการลดความเสี่ยง ลดระยะเวลาการยกขนสินค้า และลดต้นทุน โดยใช้ประโยชน์จากระบบ RO/RO และโครงสร้างเครนเหนือศีรษะที่เป็นเอกลักษณ์ สำหรับใช้ในการขนส่งส่วนประกอบกังหันลมผลิตไฟฟ้านอกชายฝั่ง ในการนี้ เรือใหม่ทั้งสองลำได้รับการออกแบบให้สามารถรองรับขนาดและน้ำหนักที่เพิ่มมากขึ้นของส่วนประกอบกังหันลมรุ่นใหม่ และยังคงประสิทธิภาพในการรองรับสินค้าและความยืดหยุ่นของปฏิบัติการระดับสูงสุดในเรือชั้นเดียวกันเอาไว้ด้วย

เรือขนส่งสินค้า Rotra Futura และ Rotra Horizon มีความกว้าง 26 เมตร ความยาว 167.6 เมตร พร้อมหอบังคับการเรือและส่วนพักอาศัยตั้งอยู่บริเวณหัวเรือเพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการรองรับสินค้าและขอบเขตวิสัยทัศน์การสังเกตการณ์ โดยเรือทั้งสองลำจะติดตั้งทางลาดสำหรับปฏิบัติการแบบ RO/RO, เครน Liebherr สามตัว และโครงสร้างเครนเหนือศีรษะที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ซึ่งจะช่วยให้บรรทุกใบพัดกังหันลมได้ทั้งหมดสามระดับ พร้อมให้ความยืดหยุ่นสูงสุดในการจัดเรียงสินค้า รวมถึงวิธีการยกขนสินค้าลงเรือ

ทั้งนี้ แนวคิดในการลดรอยเท้าคาร์บอนเป็นหนึ่งในประเด็นสำคัญของการออกแบบและพัฒนาเรือทั้งสองลำ โดยมีการลดการใช้พลังงานของเรือด้วยการออกแบบลำตัวเรือตามหลักอากาศพลศาสตร์ และเสริมประสิทธิภาพการไหลของน้ำด้วยสารเคลือบผิวลำตัวเรือลดแรงเสียดทาน และยังติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล Wärtsilä ที่ทันสมัย โดยมีอัตราการบริโภคเชื้อเพลิงและการปล่อยมลภาวะต่ำลง 15 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ในมาตรฐานยุคปัจจุบัน นอกจากนี้ ยังมีระบบส่งกำลังแบบไฮบริดที่เปี่ยมประสิทธิภาพ และระบบกรองไอเสียที่ตรงตามมาตรฐาน IMO สูงสุดในระดับสาม รวมถึงให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับการนำความร้อนเหลือทิ้งกลับมาใช้ประโยชน์อีกด้วย

โดยเรือทั้งสองลำนี้จะประกอบขึ้นที่อู่ต่อเรือ Jiangsu Zhenjiang Shipyard ในประเทศจีน และมีกำหนดส่งมอบในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนของปี 2025


อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Logistics Mananger เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Logistics Manager หรือคลิกที่นี่

บทความก่อนหน้านี้Maersk ขยายพื้นที่คลังสินค้ากว่าห้าแสนตารางฟุตในบังกลาเทศ
บทความถัดไปHapag-Lloyd ปฏิบัติการเรือ Al Zubara เข้าเทียบท่าที่ Wilhelmshaven เป็นครั้งแรก