Cainiao เสริมศักยภาพซัพพลายเชนสำหรับสินค้า FMCG ด้วยโซลูชันเฉพาะ

0
317

เมื่อเร็วๆ นี้ กลุ่มบริษัท Cainiao Group (Cainiao) หน่วยธุรกิจโลจิสติกส์ใครือของ Alibaba Group ได้เปิดตัวบริการที่ออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อเสริมสร้างศักยภาพด้านซัพพลายเชนสำหรับภาคสินค้าอุปโภคบริโภค (FMCG) เพื่อให้การดำเนินการมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นและลดต้นทุนได้มากยิ่งขึ้นสำหรับการจัดส่งสินค้าตามคำสั่งซื้อแต่ละรายการ โดยบริการใหม่นี้ประกอบด้วยบริการติดฉลากสินค้า การจัดการสินค้าคงคลังสำหรับธุรกิจ B2B การบริหารจัดการซัพพลายเออร์ โดยมีแบรนด์ Bestore ซึ่งเป็นแบรนด์สินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำของจีน เป็นพันธมิตรรายแรกที่นำบริการใหม่ของ Cainiao ไปใช้ในการปฏิบัติการและจัดการซัพพลายเชนทั่วโลกของบริษัทฯ

เนื่องจากการติดฉลากและการบรรจุหีบห่อสำหรับอุปโภคบริโภคสำหรับแบรนด์ที่มีการส่งออกสินค้าทั่วโลกมักจะมีความท้าทายในรูปแบบที่ไม่เหมือนใคร เนื่องจากต้องปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบท้องถิ่นของแต่ละพื้นที่ อีกทั้งสินค้ายังต้องมีลักษณะตรงตามความคาดหวังและความชื่นชอบของผู้บริโภคในท้องถิ่น ขณะเดียวกันบริษัทต่างๆ ยังต้องคอยตรวจสอบข้อกำหนดล่าสุด เช่น ข้อมูลบรรจุภัณฑ์ภาคบังคับที่ครอบคลุมข้อมูลเกี่ยวกับส่วนผสม สารก่อภูมิแพ้ คุณค่าทางโภชนาการ แหล่งกำเนิดสินค้า วันหมดอายุ คำเตือน คำแนะนำ และอื่นๆ ซึ่งอาจทำให้ขั้นตอนการส่งออกนั้นมีความยุ่งยากมากยิ่งขึ้น

ดังนั้น เพื่อเป็นการช่วยให้แบรนด์ต่างๆ รับมือกับความซับซ้อนของกฎหมายและข้อกำหนดในท้องถิ่นได้ Cainiao จะให้การสนับสนุนแบบครบวงจรแก่พันธมิตรในเรื่องของการติดฉลากสินค้าอุปโภคบริโภค ตั้งแต่การออกแบบ การผลิต ไปจนถึงการกระจายและจัดส่งฉลากสินค้า ยิ่งไปกว่านั้น บริการเหล่านี้จะมีการดำเนินการอยู่ในจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งจะช่วยให้ Cainiao สามารถลดต้นทุนโดยรวมด้านการรวบรวมสินค้าและบริการเพิ่มมูลค่าลงได้ราว 10 เปอร์เซ็นต์ จึงช่วยให้คู่ค้าสามารถลดต้นทุนให้แก่ลูกค้าได้ด้วยเช่นกัน

นอกจากนี้ Cainiao ยังสามารถดำเนินการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการสินค้าคงคลังและบริหารจัดการซัพพลายเออร์สำหรับบริษัทที่จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค โดยซัพพลายเออร์สามารถส่งสินค้าไปยังคลังสินค้าของ Cainiao สำหรับการรวบรวมและติดฉลากสินค้า สำหรับขั้นตอนอื่นๆ ในกระบวนการซัพพลายเชน เช่น การกระจายสินค้า การจัดส่งสินค้าระยะ first-mile การผ่านพิธีการศุลกากร และการขนส่งสินค้าในรูปแบบต่างๆ เพื่อส่งออกไปยังประเทศปลายทางก็ดำเนินการได้จากที่เดียว ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าสามารถเพิ่มประสิทธิภาพด้านการขนส่งและลดต้นทุนลงได้ถึง 25 เปอร์เซ็นต์ จากการลดจำนวนการขนส่งสินค้าแบบไม่เต็มตู้ (LCL) ได้อีกด้วย  


อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Logistics Mananger เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Logistics Manager หรือคลิกที่นี่

บทความก่อนหน้านี้HMM Malaysia ร่วมกิจกรรมปลูกป่าเพื่อสิ่งแวดล้อม
บทความถัดไปท่าเรือ Kalundborg เดินหน้าแผนลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์