เดนมาร์กประกาศร่วมมือเป็นพันธมิตรเชื้อเพลิงสีเขียวในอินเดีย

0
226

A.P. Moller – Maersk หนึ่งในสมาชิกผู้ร่วมก่อตั้งพันธมิตร Green Fuels Alliance India จะเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการอำนวยการในฐานะหนึ่งในตัวแทนจากอุตสาหกรรมการขนส่งสินค้าทางทะเลว่าด้วยเชื้อเพลิงสีเขียว

โดยประเทศเดนมาร์กได้ประกาศว่า โครงการ Green Fuels Alliance India (GFAI) จะเป็นการส่งเสริมการร่วมมือระหว่างสองประเทศในภาคส่วนโซลูชันพลังงานที่ยั่งยืนและผลักดันเป้าหมายระดับโลกที่มีร่วมกันในแง่ของความเป็นกลางทางคาร์บอน

พันธมิตรใหม่นี้นำโดยสถานทูตเดนมาร์กและสถานเอกอัครราชทูตเดนมาร์กในอินเดีย ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาภาคส่วนเชื้อเพลิงสีเขียว รวมทั้ง Green Hydrogen ด้วยการสนับสนุนนวัตกรรม การร่วมมือ และการเป็นพันธมิตรระหว่างอุตสาหกรรมในเดนมาร์กและพันธมิตรอินเดีย

จุดประสงค์หลักของ GFAI คือ การสนับสนุนการเติบโตของพลังงานยั่งยืนในอินเดีย ด้วยการสร้างระบบนิเวศที่สนับสนุนการร่วมมือกันในกลุ่มธุรกิจ หน่วยงานรัฐบาล หน่วยงานวิจัย และผู้ที่มีส่วนได้เสียทางการเงินจากทั้งทางฝั่งเดนมาร์กและอินเดีย

หน่วยงานชั้นนำสัญชาติเดนมาร์กทั้งหมดเก้าแห่งได้ร่วมมือกันในโครงการ GFAI ในฐานะสมาชิกก่อตั้ง ได้แก่ Maersk, Topsoe, Umwelt Energy, Mash Makes, Europe Sustainable Solutions, Novozymes, Danfoss, Brdr. Christensen และ Hydrogen Denmark สมาชิกคณะกรรมการที่ปรึกษาของ GFAI ประกอบด้วย India Hydrogen Alliance, Energy Consortium at the Indian Institute of Technology Madras, the Danish Energy Agency และ State of Green

การประกาศของ GFAI ถือเป็นช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์ เนื่องจากอินเดียให้การสนับสนุนเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนอย่างมาก โดยตั้งเป้าให้สำเร็จภายในปี 2070 ขณะเดียวกัน เดนมาร์กก็ได้อันดับหนึ่งจากการจัดอันดับ Climate Performance Ranking ประจำปี 2024 และพร้อมก้าวสู่ความสำเร็จของความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2050

GFAI เป็นการแสดงให้เห็นถึงกิจกรรมภายใต้การร่วมมือมือเชิงกลยุทธ์ Green Strategic Partnership (GSP) ซึ่งลงนามในปี 2020 ระหว่างอินเดียและเดนมาร์ก ซึ่งเป็นการตอบสนองต่อเป้าหมายทางสภาพอากาศที่มุ่งมั่นของทั้งสองประเทศ

ทั้งนี้ Maersk ได้ตั้งเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในกลุ่มธุรกิจให้เท่ากับศูนย์ให้สำเร็จภายในปี 2040 และยังตั้งเป้าหมายระยะใกล้ที่มุ่งมั่นและสามารถทำได้จริงสำหรับปี 2030 เพื่อให้มั่นใจว่าจะมีความก้าวหน้าอย่างมีนัยสำคัญ

ในทุกปี เรือจำนวน 100,000 ลำ ได้รับพลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิลปริมาณ 300 ล้านตัน เพื่อปฏิบัติการขนส่งสินค้าน้ำหนักรวม 11 พันล้านตันทั่วโลก ซึ่งนับว่าการขนส่งสินค้ามีการปล่อยคาร์บอนราว 1,076 ล้านตันต่อปี คิดเป็นราว 3 เปอร์เซ็นต์ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลก ทั้งนี้ Maersk มีความมุ่งมั่นในการมีบทบาทในการขนส่งสินค้าโดยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเท่ากับศูนย์ (NetZero) ด้วยการเปลี่ยนมาใช้เชื้อเพลิงสีเขียวในการให้พลังงานเรือ และมุ่งมั่นสั่งซื้อเรือใหม่ที่สามารถใช้เชื้อเพลิงสีเขียวได้เท่านั้น

โดย Maersk ได้เปิดตัวเรือขนส่งสินค้าเชื้อเพลิงคู่ลำแรกของโลก ซึ่งสามารถใช้เชื้อเพลิงเมทานอลสีเขียวได้ในปี 2023 และถือเป็นเรือที่มีขนาดใหญ่ที่สุดที่สามารถใช้เชื้อเพลิงสีเขียวได้ โดยเรือมีขนาดพื้นที่ระวาง 16,000 ทีอียู และจะเริ่มปฏิบัติการในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2024 โดย Maersk ได้จัดหาเชื้อเพลิงเมทานอลสีเขียวในปริมาณที่เพียงพอสำหรับการเดินทางเที่ยวปฐมฤกษ์ และมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติการอย่างมีประสิทธิภาพต่อในปี 2024 ถึง 2025 โดยการมองหาโซลูชั่นสำหรับเรือที่ใช้เชื้อเพลิงเมทานอลได้ นอกจากเรือสองลำนี้แล้ว ยังมีเรืออีก 23 ลำที่ Maersk ได้ทำการสั่งซื้อและจะเพิ่มเข้ากองเรือเมื่อต่อเรือแล้วเสร็จ


อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Logistics Mananger เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Logistics Manager หรือคลิกที่นี่

บทความก่อนหน้านี้CEVA Logistics ในสเปนได้รับรางวัลจากการโครงการทางเดียวกันไปด้วยกัน
บทความถัดไปTNSC แถลงข่าวสถานการณ์ส่งออกเดือนธันวาคม 2023 พร้อมคาดการณ์การส่งออกไทยปี 2024