ด้วยประสบการณ์กว่าห้าทศวรรษ ในการให้บริการด้านโลจิสติกส์ ตั้งแต่ปี 1969 ในยุคที่ธุรกิจ ‘โลจิสติกส์’ ยังไม่เป็นที่รู้จักในประเทศไทยมากนัก จนถึงปัจจุบัน บริษัท YUSEN LOGISTICS (THAILAND) ได้กลายเป็นผู้นำด้านการให้บริการโลจิสติกส์ครบวงจรในไทยที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามากที่สุด โดยเฉพาะในด้านการจัดการพิธีศุลกากรอันเป็นธุรกิจแรกเริ่มของบริษัท รวมถึงบริการขนส่งที่ขยายบริการขึ้นอย่างกว้างขวาง พร้อมทั้งการมอบโซลูชั่นที่ตอบโจทย์กับธุรกิจเฉพาะด้านที่ทันสมัย และการให้บริการที่เปี่ยมประสิทธิภาพ
เนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปี ของบริษัท Yusen Logistics (Thailand) นิตยสาร LM ฉบับนี้ได้รับเกียรติจากคุณภัสส์ศา โชตน์ภาวินันท์ Executive Officer Air & Ocean Customs Clearance และคุณนพดล สันติวรรักษ์ Executive Officer Accounting and Finance Group, Corporate Planning Group and IT Group บริษัท Yusen Logistics (Thailand) บุคลากรคนสำคัญขององค์กร ที่มีประสบการณ์ในการทำงานกับบริษัทฯ มาเกือบ 30 ปี มาร่วมแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับการร่วมงานกับ Yusen Logistics รวมทั้งภาพรวมธุรกิจ และการเติบโตขององค์กร
THE START OF SOMETHING GREAT
Yusen Logistics (Thailand) มีจุดเริ่มต้นมาจากธุรกิจให้บริการดำเนินพิธีการศุลกากรสำหรับการนำเข้าและส่งออกสินค้า ทางทะเล ทางอากาศ และภาคพื้นดิน รวมถึงบริการขนส่งสินค้าภายในประเทศ ภายใต้ชื่อ ‘NYK Transport Service (Thailand) Co.,Ltd.’ โดยบริษัทฯ เริ่มเปิดให้บริการในปี 1969 และมีบุคลากรไม่ถึง 100 คน ต่อมาบริษัทฯ ได้ขยายบริการด้านการขนส่งสินค้าทางทะเล FCL/LCL และ ขนส่งภายในประเทศเพิ่มมากขึ้น และในปี 2003 บริษัทฯ ได้เปลี่ยนชื่อเป็น ‘NYK Logistics (Thailand) Co.,Ltd’ เพื่อสะท้อนถึงภาพลักษณ์การเป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์มากขึ้น ในปี 2011 บริษัทได้ควบรวมกิจการกับ Yusen Air & Sea Service จึงได้ผันตัวเป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์แบบครบวงจรภายใต้ชื่อ ‘Yusen Logistics (Thailand) Co.,Ltd’
แม้ว่า Yusen Logistics (Thailand) จะประสบความสำเร็จอย่างมาก ทั้งจากความเป็นหนึ่งด้านการให้บริการจัดการพิธีการศุลกากร โดยเป็นบริษัทแรกที่ได้รับใบอนุญาตตามมาตรฐาน AEO จากกรมศุลกากร ที่กำหนดโดยองค์การศุลกากรโลก ประกอบกับเครือข่ายบริษัท Yusen Logistics ที่แข็งแกร่ง หากแต่บริการด้านศุลกากรเพียงอย่างเดียว ก็ไม่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของอุตสาหกรรมที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง การปรับรูปแบบธุรกิจเป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์แบบครบวงจร ที่ครอบคลุมตั้งแต่การให้บริการขนส่งสินค้าทางทะเล ทางอากาศ และภาคพื้นดิน ทั้งในประเทศและข้ามพรมแดน บริการจัดการสินค้า บริการโล-จิสติกส์แบบสัญญาจ้าง ทั้งแบบ 3PL และ 4PL รวมถึงการสรรสร้างโซลูชั่นต่างๆ ให้แก่ลูกค้า จึงเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์การพัฒนาของบริษัทฯ ให้เข้ากับอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ในปัจจุบันมากที่สุด
บริการด้านการขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์ของ Yusen Logistics (Thailand) ในปัจจุบัน มีหลากหลายรูปแบบและสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบวงจร ซึ่งรวมไปถึงการจัดส่งสินค้าแบบ Milk Run อีกทั้งยังมีการเปิดให้บริการศูนย์กระจายสินค้าเพิ่มเติมอีกด้วย ทั้งนี้ ในส่วนของบริการคลังสินค้า บริษัทฯ ได้ลงทุนก่อสร้างและออกแบบคลังสินค้าใหม่กว่า 600 ล้านบาท ในปี 2018 และได้เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการแล้วในช่วงต้นปี 2019 ที่ผ่านมา
โดยคุณนพดลได้กล่าวถึงประเด็นนี้ว่า “ในวันนี้ลูกค้าไม่ได้ต้องการแค่พื้นที่สำหรับพักสินค้า แต่เราต้องมีบริการเพิ่มมูลค่า (add value) ระหว่างที่สินค้าพัก อยู่ในคลังสินค้าด้วย เช่น การบรรจุหีบห่อสินค้า การตรวจสอบสินค้า การบรรจุสินค้า และมีการบริการหน้างานโดยพนักงานจากบริษัทฯ (Staff on-site) สำหรับการจัดการคลังสินค้าของลูกค้า เป็นต้น นอกจากนี้เรายังให้บริการด้านข้อมูลระหว่างพื้นที่ในคลังสินค้าของเรา กับรายการสินค้า คงคลังของผู้ใช้บริการด้วย” คุณภัสส์ศา เสริมถึงการให้บริการด้านข้อมูลคลังสินค้าอีกว่า “เราใช้ซอฟต์แวร์ (WMS) ในการบริหารจัดการคลังสินค้า และมีแผนกพัฒนาระบบการจัดการใบขนส่งสินค้าเป็นของเราเอง ซึ่งเราเป็น Software House และเรายังมีช่องทางการส่งข้อมูลเชื่อมโยงถึงกรมศุลกากรผ่าน Customs Gateway โดยตรง ทั้งนี้เรามี resource ทางด้าน EDI-IT เพื่อพัฒนาระบบการบริการของหน่วยงานพิธีการศุลกากรในองค์กรให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด สะดวกรวดเร็วต่อการปรับปรุงเปลี่ยนแปลง และลดขั้นตอนการทำงาน” อนึ่ง เพื่อเสริมสร้างรากฐานของธุรกิจให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น Yusen Logistics Thailand ยังได้ลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และอุปกรณ์ให้พร้อมสำหรับการอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้า โดยได้จัดซื้อรถบรรทุกหลากหลายแบบ ตั้งแต่ 4 ล้อ 6 ล้อ และ 10 ล้อ รวมไปถึงรถหัวลากต่างๆ โดยรวมแล้วกว่า 700 คัน และยังมีพันธมิตรด้านการขนส่งที่ให้บริการร่วมกับทาง Yusen Logistics (Thailand) อีกกว่า 1,000 คัน
EXPANDING THE BUSINESS
Yusen Logistics (Thailand) ไม่เพียงแต่นำเสนอบริการที่ครอบคลุมและมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง แต่บริษัทฯ ยังมอบคุณภาพบริการที่มีความสม่ำเสมอให้แก่ลูกค้ามาตลอด ไม่ว่าจะอยู่ในระหว่างช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ หรือสถานการณ์ต่างๆ ที่ส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจ โดยคุณภัสส์ศาได้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า
“เราไม่อยากให้สินค้าของลูกค้าเสียหาย หรือขนส่งสินค้าไม่ทันกำหนดเวลา ซึ่งบางครั้งเราอาจต้องแก้ปัญหาด้วยต้นทุนที่สูงกว่าปกติ แต่เราก็เลือกที่จะรักษาความไว้วางใจของลูกค้าเอาไว้มากกว่า”
“ในส่วนของการบริหารงานบุคคล เรามีงบประมาณในการหมุนเวียนตำแหน่ง และจัดอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการทำงานเฉพาะด้านต่างๆ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุน Business Team” ทั้งนี้ คุณภัสส์ศายังได้กล่าวเสริมถึงเรื่องนี้อีกว่า “ธุรกิจของเรานั้นไม่ได้ใช้ระบบ IT ในการจัดการงานเพียงอย่างเดียว หากแต่คุณภาพการทำงานของบุคลากรก็มีความสำคัญอย่างมากด้วย เราจึงส่งเสริมให้มีการฝึกอบรมงานเฉพาะด้านตามหลักสูตรต่างๆ โดยเฉพาะการดำเนินพิธีศุลกากร ซึ่งปัจจุบันเรามีผู้ชำนาญการพิธีการศุลกากรมากกว่า 40 คน”
ทั้งนี้ ชื่อเสียงและความสำเร็จตลอด 50 ปีที่ผ่านมา จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากขาดบุคลากรที่เปี่ยมคุณภาพและแข็งแกร่งในการร่วมทางธุรกิจ และก้าวข้ามความท้าทายมาด้วยกันตลอด “บริษัทของเราผ่านวิกฤตเศรษฐกิจ อย่างเช่น วิกฤตต้มยำกุ้ง ในปี 1997 มาได้ด้วยความร่วมมือร่วมแรงของพนักงานทุกคน” คุณภัสส์ศา กล่าว
อนึ่ง แม้ว่า Yusen Logistics (Thailand) จะมีต้นกำเนิดจากบริษัทแม่ในประเทศญี่ปุ่น แต่เนื่องจาก บริษัทฯ เปิดดำเนินกิจการอยู่ในประเทศ ไทย ผู้บริหารระดับสูงจึงเล็งเห็นความสำคัญและเปิดโอกาสให้คนไทยมีส่วนร่วมในการบริหารด้วย ดังนั้นบุคลากรในแต่ละภาคส่วนจึงได้รับโอกาสในการพัฒนาความสามารถอย่างต่อเนื่อง โดยคุณนพดลได้กล่าวถึงประเด็นนี้ว่า “เรามีการหมุนเวียนสับเปลี่ยนบทบาท ทั้งในส่วนของการบริหารงานภายในระดับสูง และการเพิ่มศักยภาพการทำงานให้แก่บุคลากร อาทิ หากพนักงานฝ่ายขนส่งสินค้าทางอากาศ ต้องการเรียนรู้การทำงานในส่วนของการขนส่งสินค้าทางทะเล หรือ บริการโลจิสติกส์แบบสัญญาจ้างก็สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้”
ปัจจุบัน การบริหารงานภายในของ Yusen Logistics (Thailand) แบ่งเป็นสองกลุ่ม ได้แก่ Business Team และ Corporate Team โดยทั้งสองทีมต่างคอยช่วยเหลือสนับสนุนการทำงานของอีกฝ่าย เพื่อให้บรรลุเป้าหมายเดียวกันได้ โดย Business Team มีหน้าที่ในการวางแผนกลยุทธ์ “การทำงานของ Business Team แต่ละทีม มีการตั้งเป้าหมาย และงบประมาณในการทำงานแต่ละปี โดยเรามีบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญของธุรกิจนั้นๆ ในแต่ละ Business Team เช่น การดำเนินพิธีศุลกากร การขนส่งสินค้า คลังสินค้า การขนส่งสินค้าทางอากาศ การขนส่งสินค้าทางทะเล การขนส่งสินค้าภาคพื้นดิน และข้ามพรมแดน เป็นต้น โดยมีการประสานงานกันเพื่อให้การบริการลูกค้าเป็นไปอย่างราบรื่น และเกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยคำนึงถึงความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก” คุณภัสส์ศา กล่าว
ในส่วนของ Corporate Team นั้นมีหน้าที่ในการช่วยเหลือสนับสนุนให้การทำงานของ Business Team และการดำเนินธุรกิจของลูกค้าเป็นไปอย่างราบรื่น โดยคุณนพดลได้กล่าวถึงการทำงานของฝ่ายนี้ว่า “เรามีหน้าที่ดูแลและเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับพื้นฐานธุรกิจต่างๆ อย่างเช่น เรามีการทำรายงานด้านข้อมูลทางการเงินที่เป็นประโยชน์ต่อผู้บริหาร สร้างหน้ากระดานที่ใช้สรุปข้อมูล (dashboard) และจัดการข้อมูลอย่างเป็นระบบ เพื่อใช้เป็นส่วนหนึ่งของข้อมูลในการวิเคราะห์และวางแผนกลยุทธ์ได้ง่ายขึ้น”
“ในส่วนของการบริหารงานบุคคล เรามีงบประมาณในการหมุนเวียนตำแหน่ง และจัดอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการทำงานเฉพาะด้านต่างๆ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุน Business Team” ทั้งนี้ คุณภัสส์ศายังได้กล่าวเสริมถึงเรื่องนี้อีกว่า “ธุรกิจของเรานั้นไม่ได้ใช้ระบบ IT ในการจัดการงานเพียงอย่างเดียว หากแต่คุณภาพการทำงานของบุคลากรก็มีความสำคัญอย่างมากด้วย เราจึงส่งเสริมให้มีการฝึกอบรมงานเฉพาะด้านตามหลักสูตรต่างๆ โดยเฉพาะการดำเนินพิธีศุลกากร ซึ่งปัจจุบันเรามีผู้ชำนาญการพิธีการศุลกากรมากกว่า 40 คน”
“หน้าที่ที่สำคัญที่สุดอีกเรื่องหนึ่งของ Corporate Team ก็คือ การดูแลจัดการเรื่องการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์และข้อบังคับต่างๆ (Compliance) ตั้งแต่กฎระเบียบด้านภาษีและกฎหมายทางด้านธุรกิจ ยกตัวอย่างเช่น การเปิดคลังสินค้าที่ใช้จัดเก็บ สินค้าอันตรายและสารเคมี เราจะมีส่วนร่วมในการดำเนินงานตั้งแต่การตรวจสอบสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับการเก็บสินค้าแต่ละประเภท โดยตรวจดูว่าคลังสินค้านั้นสร้างขึ้นมาอย่างไร มีกำแพงกันไฟหรือไม่ มีทีมรักษาความปลอดภัยพร้อมแล้วหรือไม่ และต้องใช้ใบอนุญาตอะไรบ้าง ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเรื่องสำคัญมาก” คุณนพดลกล่าว “ส่วนงานด้าน IT นั้น เรายังดูแลในเรื่องของ IT support ทั้งในส่วนของเครือข่าย (Network) และบริการ IT Solution รวมถึง การเขียนโค้ดโปรแกรม ให้ลูกค้าอีกด้วย”
นอกจากนี้ การทำงานแบบประสานกันระหว่าง Business Team และ Corporate Team ยังถือเป็นหัวใจหลัก ที่ช่วยส่งเสริมให้ Yusen Logistics สามารถพัฒนาธุรกิจได้อย่างก้าวกระโดดโดยไม่ทิ้งใครไว้ด้านหลัง โดยคุณนพดลได้กล่าวว่า
“สิ่งที่สำคัญที่สุดในการทำงานของเราคือการสื่อสาร โดยทุกเดือนเราจะจัดประชุมร่วมกันระหว่าง Business Team และ Corporate Team เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและปรับความเข้าใจให้ตรงกัน เพื่อให้สามารถดำเนินงานต่อไปบนพื้นฐานการจัดการเดียวกันได้อย่างถูกต้อง”
AN EYE TOWARDS THE FUTURE
เนื่องด้วยการเปลี่ยนแปลงที่ไม่เคยหยุดยั้งของอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ การดำเนินงานธุรกิจในด้านนี้ต่อไปจึงต้องคำนึงถึงความท้าทายที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งการเตรียมพร้อมรับมือกับปัญหาต่างๆ เพื่อให้บริษัทฯ สามารถเติบโตได้อย่างราบรื่น โดย Yusen Logistics (Thailand) เล็งเห็นว่า จำนวน ของผู้ให้บริการโลจิสติกส์ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนั้น เป็นเรื่องท้าทายสำหรับบริษัทฯ ซึ่งคุณนพดลกล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “เรามีแนวทางในการรับมือกับปัญหาดังกล่าว ด้วยการปรับปรุงบริษัท และปรับเปลี่ยนบริการให้แตกต่างไปจากผู้ให้บริการรายอื่น โดยปัจจุบันเรากำลังดำเนินงานตามนโยบาย ‘Transform 2025’ ซึ่งเป็นนโยบายการให้บริการแบบ Customer Centric เพื่อให้ลูกค้าไว้วางใจเรา พร้อมกับการมอบโซลูชั่นที่ตอบโจทย์ให้แก่ลูกค้า ซึ่งเป็นจุดเด่นในบริการของเรามาตลอด”
ทั้งนี้ นโยบาย ‘Transform 2025’ เป็นนโยบายที่สร้างขึ้นเพื่อให้บริษัท Yusen Logistics ทั่วโลกทำงานอยู่บนมาตรฐานเดียวกัน พร้อมไปกับการให้บริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าตามกลุ่มภูมิภาคต่างๆ ได้อย่างดีเยี่ยม โดยคุณนพดลได้อธิบายเพิ่มเติมว่า “นโยบาย Transform 2025 ประกอบด้วยหัวใจสำคัญ ได้แก่ Connected, Committed และ Creative โดย Connected คือ การเชื่อมต่อและทำความเข้าใจใน ธุรกิจของลูกค้าให้มากขึ้น ซึ่งปัจจุบันเราได้เปลี่ยนรูปแบบการให้บริการลูกค้าเป็นแบบ Customer Centric แล้ว ส่วน Committed คือการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้า โดยเรามีทีมบริการที่ไว้วางใจได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราปลูกฝังมาตลอด สุดท้ายคือ Creative คือการสร้างสรรค์โซลูชั่นต่างๆ ให้กับลูกค้า โดยเราสามารถมอบแนวทางการแก้ไขปัญหาของธุรกิจโลจิสติกส์ทั้งแบบ 3PL และ 4PL ให้กับลูกค้าได้ ไปพร้อมกับการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง”
วาระครบรอบ 50 ปีของ Yusen Logistics (Thailand) ไม่เพียงแต่เป็นเครื่องยืนยันความสำเร็จในฐานะผู้ให้บริการโลจิสติกส์มาอย่างยาวนาน แต่ยังถือเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการมอบบริการที่เปี่ยมคุณภาพ และโดดเด่นในอุตสาหกรรมต่อไปในอนาคต ควบคู่ไปกับการพัฒนาองค์กรร่วมกับบุคลากรเพื่อมอบบริการมาตรฐานระดับสากล ด้วยความเข้าใจในธุรกิจระดับภูมิภาคเช่นกัน “เมื่อลูกค้าได้เห็นโลโก้ Yusen Logistics พวกเขาจะต้องรู้สึกมั่นใจว่าจะได้รับบริการที่ดีที่สุด ด้วยโซลูชั่นที่มาจากความใส่ใจในพื้นฐานธุรกิจของลูกค้าอย่างแท้จริง” คุณนพดลกล่าว
อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Logistics Mananger เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Logistics Manager หรือคลิกที่นี่