SJWD ขับเคลื่อนธุรกิจภายใต้แนวคิด ESG มุ่งลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์

0
671

SCGJWD Logistics หรือ SJWD มุ่งขับเคลื่อนธุรกิจภายใต้โครงการริเริ่มด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) เพื่อความยั่งยืน ผ่านการขนส่งและการให้บริการ รวมถึงการบริหารจัดการรูปแบบต่างๆ อาทิ การขนส่งสินค้าต่อเนื่องหลากหลายรูปแบบ การบริหารกองรถบรรทุกสินค้าเที่ยวไปและกลับเพื่อลดการวิ่งรถเที่ยวเปล่า เพิ่มปริมาณการใช้รถขนส่งด้วยเชื้อเพลิงทางเลือก ติดตั้งโซลาร์เซลล์ รวมไปถึงการใช้เทคโนโลยีจัดเก็บสินค้าอัตโนมัติในคลังสินค้า เพื่อดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก พร้อมร่วมดูแลสังคมและธรรมาภิบาล ผ่านโครงการจัดฝึกอบรมทักษะการขับขี่หลักสูตรต่างๆ โดยโรงเรียนทักษะพิพัฒน์ เพื่อร่วมลดอุบัติเหตุและพัฒนาทักษะเพื่อสร้างอาชีพ

โดยคุณบรรณ เกษมทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท SCGJWD Logistics ผู้ให้บริการโลจิสติกส์และซัพพลายเชนแบบครบวงจรชั้นนำ กล่าวว่า “ปัจจุบันการดำเนินธุรกิจภายใต้หลัก ESG เป็นสิ่งที่ภาคธุรกิจต่างๆ ควรให้ความสำคัญ รวมไปถึงการสร้างพันธมิตรกับผู้ประกอบการที่มุ่งเน้น ESG เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้จัดงาน ESG SYMPOSIUM 2023 Acceleration Changes towards Low Carbon Society ร่วม เร่ง เปลี่ยน สู่สังคมคาร์บอนต่ำ เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายด้าน ESG ผ่านการเลือกใช้พลังงานทางเลือกอย่างผสมผสาน การจัดการพลังงานผ่านโครงการต่างๆ และออกแบบศูนย์กระจายสินค้าทั่วประเทศเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อมุ่งสู่การเป็นโซลูชันโลจิสติกส์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งทั้งหมดนี้นอกจากจะช่วยลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังสามารถช่วยตอบสนองนโยบายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ของลูกค้าได้อีกด้วย”

นอกจากนี้ SJWD ได้เห็นถึงความสำคัญของการลดอุบัติเหตุเพื่อความปลอดภัยบนท้องถนนมาโดยตลอด ในปี 2011 จึงได้มีการจัดตั้ง ‘โรงเรียนทักษะพิพัฒน์’ ที่จังหวัดสระบุรี เพื่อพัฒนาทักษะด้านการขับขี่ อาทิ หลักสูตรขับขี่รถบรรทุก และฟอร์คลิฟท์ เป็นต้น โดยมีผู้ที่ผ่านการฝึกอบหลักสูตรต่าง ๆ ไปแล้วกว่า 140,000 ราย

คุณชวนินทร์ บัณฑิตกฤษดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท SCGJWD Logistics กล่าวว่า “SJWD ได้ดำเนินโครงการด้าน ESG เพื่อความยั่งยืน ซึ่งช่วยดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ผ่านโมเดลการขนส่งและให้บริการรวมถึงการบริหารจัดการรูปแบบต่าง ๆ อาทิ บริการขนส่งสินค้าต่อเนื่องหลากหลายรูปแบบ ซึ่งผสมผสานการขนส่งทางรถ รางและเรือเข้าด้วยกัน จึงสามารถช่วยลดการใช้พลังงานเชื้อเพลิงและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก พร้อมรองรับความต้องการของลูกค้าที่ต้องการขนส่งสินค้าภายในประเทศ หรือนำเข้า-ส่งออกสินค้า ด้วยการบริหารต้นทุนขนส่งที่สามารถแข่งขันได้ นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับการบริหารรอบรถบรรทุกสินค้าเที่ยวไปและกลับ โดย SJWD ได้นำเทคโนโลยีไอทีเข้ามาปรับใช้ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ด้วยการบริหารจัดการ Fleet Optimization ในงานขนส่งแต่ละภูมิภาค เพื่อใช้เชื้อเพลิงอย่างคุ้มค่าและลดการวิ่งเที่ยวเปล่าหรือรถเบาให้ได้มากที่สุด ยิ่งไปกว่านั้น บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับการใช้รถขนส่งที่ใช้เชื้อเพลิงทางเลือก โดยปัจจุบันได้นำรถขนส่งที่ใช้เชื้อเพลิงทางเลือกเข้ามาให้บริการทดแทนรถขนส่งที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงแล้ว 332 คัน รวมไปถึงการเลือกใช้พลังงานไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ โดยปัจจุบันได้ติดตั้งหลังคาโซลาร์เซลล์ที่อาคารคลังสินค้า อีกทั้งยังมีการปรับใช้เทคโนโลยีจัดเก็บสินค้าอัตโนมัติ (ASRS) ทดแทนการใช้ฟอร์คลิฟท์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงกว่า 40 คัน และช่วยลดการใช้พลังงานไฟฟ้า ลดอุบัติเหตุ เพิ่มความรวดเร็วแม่นยำในการค้นหาสินค้าด้วย”


อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Logistics Mananger เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Logistics Manager หรือคลิกที่นี่

บทความก่อนหน้านี้ECU Worldwide ยกระดับประสิทธิภาพและลดค่าใช้จ่ายให้ธุรกิจในเขต EEC ของไทย
บทความถัดไปEuroasia Total Logistics รับมอบเครื่องหมายรับรองคาร์บอนฟุตพริ้นท์ ตอกย้ำความมุ่งมั่นพัฒนาโลจิสติกส์สู่ความยั่งยืน