บริษัท SIAM PATTANA MARITIME (SPM) ในเครือ บริษัท SIAM ECL และบริษัท EASTERN CAR LINER (ECL), JAPAN ได้รับความไว้วางใจจาก M.C.S STEEL PUBLIC COMPANY LIMITED อีกครั้ง ในการอนุมัติสัญญาการขนส่งสินค้าในปี 2024 สำหรับการขนส่งเหล็กโครงสร้างขนาดใหญ่จากท่าเรือกรุงเทพ ไปยังท่าเรือ Chiba และ Yokohama ในประเทศญี่ปุ่น โดยครอบคลุมตั้งแต่เดือนมกราคม ปี 2024 จนถึงเดือนธันวาคม ปี 2024 คิดเป็นมูลค่าสัญญารวมทั้งสิ้นประมาณ 225 ล้านบาท
ทั้งนี้ SPM คาดการณ์ว่าภายในปี 2024 บริษัทฯ จะสามารถให้บริการขนส่งสินค้าทางเรือแก่บริษัทคู่ค้ารวมทั้งสิ้น 9-10 ชิปเมนท์ คิดเป็นมูลค่าการขนส่งรวม 225 ล้านบาท โดยประมาณ
เนื่องจากเหล็กโครงสร้างเป็นสินค้าที่มีขนาดใหญ่และมีมูลค่าที่สูง จึงจำเป็นต้องใช้ประสบการณ์และความชำนาญในการขนส่งเป็นอย่างมาก ด้วยประสบการณ์และความชำนาญของทีมงานในการให้บริการขนส่งสินค้าโครงการขนาดใหญ่อย่างต่อเนื่องมากกว่า 24 ปี ทางบริษัท SPM และ SIAM ECL จึงได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าให้เป็นผู้ดำเนินกระบวนการขนส่งมาโดยตลอด
อีกทั้ง ในปี 2024 นี้ บริษัทฯ ยังได้เป็นส่วนหนึ่งในการขนส่งสินค้าเหล็กโครงสร้างหลายโครงการ อาทิ TOKIWABASHI TORCH TOWER, TOKYO ARENA, SHINAGAWA 3, NIHONBASHI 1 CHOME, HAMAMATSU CHO, MINAMI AOYAMA และ YAESU ในประเทศญี่ปุ่น โดยเริ่มขนส่งตั้งแต่ช่วงต้นปีนี้ และคาดว่าจะดำเนินการต่อเนื่องไปจนถึงปี 2027
คุณธนิต หาญเบญจพงศ์ กรรมการบริษัท SPM และผู้จัดการทั่วไป บริษัท SIAM ECL กล่าวว่า “บริษัทฯ มีแผนในการสั่งซื้อเรือเพิ่มอีกหนึ่งลำในปีนี้เพื่อเพิ่มศักยภาพของธุรกิจและกองเรือของบริษัทแม่ ‘EASTERN CAR LINER (ECL)’ ถึงแม้บริษัท SPM ของเราจะเป็นบริษัทขนาดเล็กในประเทศไทย แต่เราก็พยายามปรับตัวอยู่ตลอดเวลาเพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงให้คำแนะนำแก่ลูกค้าในการวางแผนการขนส่งชิ้นงานแต่ละครั้ง เพื่อให้สามารถใช้พื้นที่ระวางเรือได้เกิดประโยชน์สูงสุด ด้วยประสบการณ์ที่ยาวนานของเราในการจัดสรรพื้นที่ระวางเรือให้บรรทุกสินค้าได้จำนวนมากขึ้นภายใต้ประสิทธิภาพและความปลอดภัยระดับสูง ยิ่งไปกว่านั้น การได้รับความไว้วางใจอนุมัติสัญญาการขนส่งสินค้าในปีนี้อีกครั้ง ยังสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพและความเป็นมืออาชีพของเราในการปฏิบัติการขนส่งสินค้าโครงการระหว่างประเทศ และเรายังคงมุ่งมั่นนำเสนอและส่งมอบบริการที่ลูกค้าพึงพอใจ และเสนอราคาค่าขนส่งที่เหมาะสมให้แก่ลูกค้า และผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า SPM จะได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าในการให้บริการขนส่งสินค้าต่อไปอีกในอนาคต”
นอกจากนี้ สถานการณ์สงครามภายใต้ความขัดแย้งภูมิรัฐศาสตร์ในภูมิภาคทะเลแดง ยังส่งผลต่อราคาน้ำมันและความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนจะทำให้มีผลกระทบต่อการส่งออกของไทย และทำให้ค่าระวางเรือมีแนวโน้มสูงขึ้นในอนาคต เนื่องจากปัจจุบันราคาค่าขนส่งได้ผ่านสู่จุดต่ำสุดแล้ว อีกทั้งค่าประกันสินค้าที่ขนส่งทางทะเลในอนาคตก็มีแนวโน้มสูงขึ้นจากผลกระทบด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ทาง SPM เปิดเผยว่าบริษัทฯ มีความเข้าใจในสถานการณ์และความต้องการของลูกค้าจึงได้พยายามปรับลดค่าระวางเรือให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมเพื่อประโยชน์สูงสุดของลูกค้าและบริษัทฯ
SIAM PATTANA MARITIME (SPM) เป็นผู้ให้บริการขนส่งสินค้าทางทะเลในเครือบริษัท SIAM ECL และบริษัท EASTERN CAR LINER (ECL), JAPAN ให้บริการเรือสัญชาติไทย (Thai Flag Vessel) และเรือที่มีสิทธิเช่นเดียวกับเรือสัญชาติไทย (Sub Thai Vessel) โดยมีเส้นทางการให้บริการครอบคลุมปลายทางหลักที่สำคัญในเอเชีย อาทิ ญี่ปุ่น จีน สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย พม่า บังคลาเทศ และอินเดีย เพื่อช่วยสนับสนุนการขนส่งสินค้าโครงการต่างๆ ทั้งของภาครัฐและภาคเอกชน
อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Logistics Mananger เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Logistics Manager หรือคลิกที่นี่
