ตู้ Reefer : ทางเลือกสำคัญของการขนส่งวัคซีน Covid-19

0
4524

การขนส่งและกระจายวัคซีน Covid-19 ถือเป็นอีกหนึ่งในความท้าทายหลักของอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ยุคปัจจุบัน เนื่องจากวัคซีน Covid-19 ปริมาณหลายล้านโดสจำเป็นต้องได้รับการจัดส่งไปยังปลายทางทั่วโลกอย่างเร่งด่วนภายในระยะเวลาที่จำกัด พร้อมกันนี้ การจัดการและจัดเก็บวัคซีนทุกโดสจะต้องดำเนินการภายใต้อุณหภูมิต่ำเป็นพิเศษ (ultra-cold) คือ ราว -70 ถึง -80 องศาเซลเซียสตลอดซัพพลายเชน

Clear the Decks

แม้โหมดการขนส่งทางอากาศจะเป็นตัวเลือกอันดับแรกที่ทั้งบริษัทผู้ผลิต ผู้รับจัดการขนส่งสินค้า และภาครัฐของแต่ละประเทศนึกถึงเมื่อต้องการขนส่งวัคซีนป้องกันโรค Covid-19 ด้วยเหตุผลด้านความรวดเร็วและความต้องการใช้งานที่เร่งด่วน อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมโลจิสติกส์ได้คาดการณ์ว่าภายในระยะสองถึงสามปีที่จะถึงนี้ จะมีความต้องการใช้งานตู้ขนส่งสินค้าเย็น (reefers) เพื่อการขนส่งและกระจายวัคซีน Covid-19 ผ่านโหมดการขนส่งทางทะเลไปยังปลายทางทั่วโลกมากกว่า 60,000 ตู้ ดังนั้น ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมฯ จึงเดินหน้าเตรียมความพร้อมสำหรับการขนส่งวัคซีนผ่านโหมดการขนส่งทางทะเลให้พร้อมรับมือกับความท้าทายในแง่ต่างๆ อย่างเร่งด่วน

ตู้สินค้าเย็นถือเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่เป็นหัวใจหลักของการขนส่งวัคซีนทางเรือ ยิ่งการขนส่งใช้ระยะเวลามากเท่าใด ประสิทธิภาพในการควบคุมอุณหภูมิสินค้าของตู้สินค้าเย็นก็ยิ่งทวีความสำคัญมากยิ่งขึ้น เนื่องจากวัคซีนเป็นสินค้าที่มีความอ่อนไหวต่ออุณหภูมิสูง (temperature sensitive) อีกทั้งยังเกี่ยวข้องกับการป้องกันโรคและช่วยเหลือชีวิตผู้คนเป็นจำนวนมาก

ปัจจุบัน ตู้สินค้าเย็นส่วนใหญ่มักถูกใช้งานในการขนส่งสินค้าประเภทของสดเสียง่าย (perishables) และสินค้าเภสัชภัณฑ์เป็นหลัก แต่ในช่วงไม่กี่เดือนมานี้เราจะเห็นว่าสายการเดินเรือหลายแห่งได้มีการสั่งซื้อตู้สินค้าเย็นเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะเดียวกันบริษัทผู้ผลิตเทคโนโลยีตู้สินค้าเย็นเองต่างก็เดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ของตนให้สามารถตอบรับกับความต้องการในอุตสาหกรรมฯ ทั่วโลกอย่างไม่หยุดนิ่ง โดยเฉพาะการยกระดับตู้สินค้าเย็นให้สามารถรองรับการขนส่งวัคซีน Covid-19 ที่กำลังเป็นที่ต้องการเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นี้

Beat the Heat

แม้ตู้สินค้าเย็นที่ใช้ในการขนส่งสินค้าประเภทต่างๆ จะมีช่วงอุณหภูมิแตกต่างจากข้อกำหนดของการขนส่งวัคซีน แต่ด้วยประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง และพัฒนาการทางเทคโนโลยีในปัจจุบัน ทำให้บริษัทผู้ผลิตสามารถยกระดับขีดความสามารถของตู้สินค้าควบคุมอุณหภูมิให้สามารถรองรับการขนส่งและกระจายวัคซีน Covid-19 ได้เป็นอย่างดี โดยบริษัท Thermo King ซึ่งเป็นผู้ผลิตตู้สินค้าเย็นที่เคยปฏิวัติการขนส่งอาหารผ่านเทคโนโลยีการขนส่งสินค้าแบบควบคุมอุณหภูมิมาแล้ว ได้ทำงานร่วมกับบริษัทผู้ผลิตยา ภาครัฐ และบริษัทโลจิสติกส์หลายแห่ง เพื่อสร้างความมั่นใจว่าซัพพลายเชนการขนส่งวัคซีนไปยังคลีนิคและโรงพยาบาลทั่วโลกจะเป็นไปอย่างราบรื่น บริษัทฯ ได้เดินหน้าพัฒนาตู้สินค้าเย็นต่อยอดจากเทคโนโลยีตู้สินค้าเย็นในปัจจุบันที่ลูกค้านำไปใช้ในการขนส่งปลาทูน่าสดไปยังประเทศญี่ปุ่น ให้สามารถรองรับการขนส่งวัคซีน Covid-19 ได้ เนื่องจากตู้สินค้าเหล่านี้เป็นตู้ที่สามารถปรับระดับอุณหภูมิได้ต่ำเป็นพิเศษ

โดยทั่วไปแล้ว การขนส่งปลาทูน่าสดจำเป็นต้องจัดเก็บสินค้าภายใต้อุณหภูมิ -60 องศาเซลเซียส เพื่อรักษาคุณภาพของและสีของเนื้อปลาให้คงความสดใหม่จนถึงปลายทางสุดท้ายในร้านค้าและร้านอาหาร ขณะที่วัคซีน Covid-19 จากหลายบริษัทผู้ผลิตจำเป็นต้องมีการจัดเก็บและขนส่งภายใต้อุณหภูมิ -70 และ -80 องศาเซลเซียส ดังนั้น ทาง Thermo King จึงได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ตู้สินค้าเย็น โดยเพิ่มฉนวนกันความร้อนและปรับปรุงระบบทำความเย็นให้สามารถกักเก็บความเย็นได้มากยิ่งขึ้น โดยที่ตู้สินค้าเย็นขนาด 20 ทีอียูแต่ละตู้ สามารถบรรจุวัคซีนได้ราว 300,000 โดส เมื่อประเมินจากขนาดบรรจุภัณฑ์วัคซีนของบริษัท Pfizer

Ultra-Cold Storages

แม้อุตสาหกรรมการขนส่งทางทะเลจะคาดการณ์ว่าจะมีความต้องการใช้งานตู้สินค้าเย็นไม่น้อยกว่า 60,000 ตู้ แต่ก็มีแนวโน้มที่ตัวเลขจะเพิ่มสูงขึ้นอีก เนื่องจากตู้สินค้าเย็นจำนวนไม่น้อยจะถูกนำไปใช้งานเป็นพื้นที่จัดเก็บสินค้าชั่วคราว หรือ Pop up cold storage อันเป็นผลมาจากการขาดแคลนคลังสินค้าที่สามารถจัดเก็บวัคซีน Covid-19 ในช่วงอุณหภูมิต่ำเป็นพิเศษได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ในทางเดียวกันนี้ กลุ่มบริษัทเทคโนโลยีตู้สินค้าสัญชาติเยอรมัน อย่าง MECOTEC Group ก็ได้เปิดตัวตู้สินค้าควบคุมอุณหภูมิชนิดพิเศษ (Mobile Hybrid Container) ที่สามารถปรับอุณหภูมิได้ต่ำสุดที่ -80 องศาเซลเซียส ซึ่งจะช่วยให้บริษัทผู้ปฏิบัติการขนส่งสินค้าสามารถมอบโซลูชันการขนส่ง การเก็บรักษา และการกระจายวัคซีน COVID-19 ได้อย่างครบวงจร โดยบริษัท MECOTEC ระบุว่า สาเหตุหลักก็คือข้อจำกัดด้านการจัดเก็บวัคซีนที่จำเป็นต้องเก็บรักษาภายใต้อุณหภูมิที่ต่ำราว -80 องศาเซลเซียส แต่ทุกวันนี้ทั่วโลกมีศูนย์การแพทย์เพียงไม่กี่แห่งที่มีอุปกรณ์และพื้นที่เพียงพอสำหรับการเก็บรักษาวัคซีนในปริมาณมาก ดังนั้น ตู้สินค้าควบคุมอุณหภูมิชนิดพิเศษจึงถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่สามารถทำหน้าที่เป็นคลังสินค้าขนาดย่อมเพื่อจัดเก็บวัคซีน ซึ่งคุณลักษณะดังกล่าวของตู้สินค้าเย็นจะช่วยให้ผู้ผลิต ผู้รับจัดการขนส่งสินค้า และภาครัฐในหลายประเทศที่ไม่มีคลังสินค้าควบคุมอุณหภูมิเป็นของตนเอง หันใช้งานตู้สินค้าเย็นเป็นคลังสินค้าชั่วคราวเพื่อรักษาคุณภาพของวัคซีน โดยเฉพาะปลายทางในพื้นที่ห่างไกล

อย่างไรก็ตาม แม้หลายภาคส่วนในอุตสาหกรรมฯ จะเริ่มเตรียมความพร้อมให้สามารถรองรับการขนส่งวัคซีน Covid-19 ผ่านการสั่งซื้อและปรับปรุงประสิทธิภาพตู้สินค้าให้ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดแล้ว แต่เพื่อให้มั่นใจว่าตู้สินค้าเย็นจะมีคุณภาพและปริมาณที่เพียงพอ ทั้งการขนส่งวัคซีนและสินค้าที่มีความอ่อนไหวต่ออุณหภูมิอื่นๆ ทุกภาคส่วนในอุตสาหกรรมฯ ยังจำเป็นต้องมีการวางแผนและคาดการณ์ความต้องการใช้งานตู้สินค้าเย็นล่วงหน้าอยู่เสมอ เพื่อบริหารจัดการตู้สินค้าเย็นให้เพียงพอต่อการใช้งาน และป้องกันไม่ให้เกิดการขาดแคลนตู้สินค้า ซึ่งอาจนำมาซึ่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการขนส่งทางทะเลโดยรวมในอีกแง่หนึ่งด้วย

อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Logistics Mananger เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Logistics Manager หรือคลิกที่นี่

บทความก่อนหน้านี้DSV พัฒนาศูนย์โลจิสติกส์ครบวงจรในกรุง Stockholm ประเทศสวีเดน
บทความถัดไปGEODIS เสนอบริการเช่าเหมาลำ เสริมสภาพคล่องระวางสินค้าเอเชีย-ยุโรป
Phubet Boonrasri
Chen is an experienced writer and an avid explorer of nature. He thrives on travelling, hiking, and backpacking to new places. His wanderlust has allowed him to experience and learn from new cultures, allowing him to better accommodate for whatever comes his ways.