การชะลอตัวและการจอดรอคิวของรถบรรทุกสินค้าที่รอเข้าท่าเทียบเรือผู้ประกอบการฝั่งบี (B1-B5) ท่าเรือแหลมฉบัง ได้สร้างแรงกดน้ำหนักที่พื้นถนนและไหล่ทาง ทำให้ถนนเกิดการชำรุด รวมทั้งมีการทรุดตัวอยู่บ่อยครั้ง เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุขณะเดินทางสัญจรไปมา
ในการนี้ เรือโท กมลศักดิ์ พรหมประยูร ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เปิดเผยว่า การท่าเรือฯ ได้เตรียมการปรับปรุงถนนหน้าท่าผู้ประกอบการฝั่งบี (B1-B5) เพื่อรองรับการขยายตัวของปริมาณเรือและสินค้า ลดปัญหาการจราจรติดขัดภายในท่าเรือฯ และอำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการและผู้ใช้บริการ ให้สามารถดำเนินกิจกรรมการขนส่งได้รวดเร็วและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
โครงการปรับปรุงถนนดังกล่าว มีพื้นที่ปรับปรุงรวมกว่า 46,500 ตารางเมตร ภายใต้งบประมาณจำนวน 70.93 ล้านบาท โดยจะปรับจากถนนยางมะตอย เป็นถนนคอนกรีตเสริมเหล็กความหนา 28 เซนติเมตร ซึ่งมีความทนทานและอายุการใช้งานที่ยาวนาน สามารถรับน้ำหนักของรถบรรทุกได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ โครงการปรับปรุงถนนหน้าท่าเทียบเรือฝั่งบี (B1-B5) จะเริ่มดำเนินการในปี 2021 ใช้ระยะเวลาดำเนินการ 240 วัน
อนึ่ง กทท. มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบโลจิสติกส์ให้มีความทันสมัย พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับสภาพสิ่งแวดล้อมภายในท่าเรือเพื่อความปลอดภัย ให้ผู้ใช้บริการเกิดความพึงพอใจ อีกทั้งยังมุ่งเน้นแก้ไขปัญหาด้านการจราจรให้เกิดความสะดวกและคล่องตัว เพื่อรองรับการขยายตัวของปริมาณเรือและสินค้าในอนาคตอีกด้วย
อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Logistics Mananger เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Logistics Manager หรือคลิกที่นี่
