MSC Mediterranean Shipping Company (MSC) สายการเดินเรือชั้นนำระดับโลก และ Shell International Petroleum Company Limited (Shell) บรรลุข้อตกลงความร่วมมือ เดินหน้าเร่งลดการปล่อยคาร์บอนในอุตสาหกรรมการขนส่งสินค้าทางเรือทั่วโลก โดยการลงนามบันทึกความร่วมมือ (MoU) ครั้งนี้จะช่วยให้ MSC และ Shell ขึ้นมามีบทบาทในการผลักดันการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานของภาคการขนส่งสินค้าทางเรือเพิ่มมากขึ้นในฐานะผู้พัฒนาและผู้บุกเบิกปรับใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีและโซลูชันด้านเชื้อเพลิง

ทั้งสององค์กรมีแผนในการพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ ที่มีความปลอดภัย ยั่งยืน และมีศักยภาพด้านการแข่งขัน ซึ่งสามารถช่วยลดการปล่อยมลภาวะจากสินทรัพย์ที่มีอยู่ในปัจจุบัน และช่วยเปิดทางไปสู่อนาคตที่ไร้คาร์บอนของอุตสาหกรรมการขนส่งสินค้าทางเรือ

Mr. Bud Darr รองประธานกรรมการบริหาร ฝ่ายพาณิชย์นาวีและการประสานงานกิจการภาครัฐ กลุ่มสายการเดินเรือ MSC Group กล่าวว่า “เพื่อให้บรรลุเป้าหมายสูงสุดในการปฏิบัติการแบบไร้คาร์บอน เราจำเป็นต้องพิจารณาโซลูชันต่างๆ โดยเราต้องการความก้าวหน้าด้านการวิจัยและพัฒนา รวมทั้งการพัฒนาเชื้อเพลิงอย่างมีนัยยะ MSC ยินดีต้อนรับพันธมิตรอย่างเช่น Shell ซึ่งเป็นความสัมพันธ์ในลักษณะของการแบ่งปันข้อมูลข้ามภาคอุตสาหกรรม และเป็นการพิสูจน์ว่าความร่วมมือกันนั้นเป็นหัวใจสำคัญในการกำหนดแนวทางที่ดีที่สุดที่จะนำไปสู่อนาคตแบบไร้คาร์บอน”

ทั้ง Shell และ MSC มีการทำงานร่วมกันผ่านโครงการต่างๆ มานานกว่า 10 ปี ซึ่งรวมไปถึงการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพเป็นเชื้อเพลิงเรือ และการทดลองเชื้อเพลิงกำมะถันต่ำ ทั้งนี้ ทีมงานด้านเทคนิคและการพาณิชย์ของ MSC และ Shell จะร่วมมือกันเพื่อพัฒนาและปรับใช้โซลูชันการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) อาทิ เชื้อเพลิงพลังงานสะอาดแห่งอนาคต และเทคโนโลยีที่จะเข้ามาช่วยสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายภายใต้แนวคิดระบบเชื้อเพลิงคู่ที่มีการปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ ซึ่งรวมไปถึงเซลล์เชื้อเพลิงด้วย ทั้งสององค์กรยังจะร่วมมือกันในด้านเทคโนโลยีประหยัดพลังงาน รวมถึงแพลตฟอร์มและบริการดิจิทัลด้วย

อีกทั้ง ความร่วมมือในครั้งนี้ยังครอบคลุมถึงการแสวงหาโอกาสในการใช้เชื้อเพลิง LNG ในกองเรือของ MSC โดยที่ LNG นั้นได้รับการยอมรับว่าเป็นเชื้อเพลิงที่ปล่อยมลภาวะต่ำที่สุดในปัจจุบัน ซึ่งทั้งสององค์กรจะร่วมมือกันพิจารณาแนวทางต่างๆ สำหรับอนาคต รวมไปถึงเทคโนโลยีการลดปริมาณมีเทนในก๊าซไอเสีย ซึ่งจะช่วยลดปริมาณก๊าซมลภาวะจากไอเสียของเชื้อเพลิง LNG ให้ต่ำลงยิ่งกว่าเดิม


อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Logistics Mananger เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Logistics Manager หรือคลิกที่นี่

บทความก่อนหน้านี้COSCO SHIPPING สนับสนุนการส่งมอบเครื่องบิน A350 ลำแรก ของศูนย์ประกอบเครื่องบิน Airbus Tianjin C&DC
บทความถัดไปGebrüder Weiss มุ่งพัฒนาโครงการ Hyperloop
Thanathas Akkhachotkawanich
Bangkok grew, Australian aged, Silicon Valley matured, this aspiring writer adds flavor to our team with his assuring smile and quill-tip talents.