A.P. Moller – Maersk สายการเดินเรือและผู้ให้บริการโลจิสติกส์ชั้นนำ เปิดเผยแผนการปฏิบัติการพาณิชย์นาวีที่ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน โดยการประกาศเปิดตัวเรือขนส่งสินค้าที่มีการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ลำแรกภายในปี 2023 ซึ่งเร็วกว่ากำหนดการเดิมของบริษัทฯ ถึงเจ็ดปี
โดย Maersk ยังเปิดเผยอีกว่า เรือที่สั่งประกอบใหม่ทั้งหมดในอนาคตจะได้รับการติดตั้งเทคโนโลยีระบบเชื้อเพลิงร่วม ซึ่งจะช่วยให้บริษัทฯ สามารถปฏิบัติการเรือได้โดยมีการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ หรือใช้เชื้อเพลิงเรือมาตรฐานแบบกำมะถันต่ำ (VLSFO)
“ความมุ่งมั่นของ A.P. Moller – Maersk คือการบุกเบิกกระบวนการโลจิสติกส์แบบที่มีการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนต่ำลง อีกทั้งลูกค้าของเราก็ยังคาดหวังให้เราช่วยเหลือพวกเขาในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนให้กับซัพพลายเชนทั่วโลกของพวกเขา ซึ่งเราก็ได้ตอบรับความต้องการอันนั้น พร้อมทุ่มเทเพื่อก้าวข้ามอุปสรรคในเชิงปฏิบัติ เชิงเทคนิค และด้านความปลอดภัย ที่เกี่ยวกับเชื้อเพลิงที่มีการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักที่เราต้องการในอนาคต ความท้าทายอันนี้ ซึ่งในปี 2018 ตอนที่เราตั้งเป้าหมายเอาไว้นั้น อาจดูเป็นเรื่องที่แทบไม่มีโอกาสจะบรรลุได้ ในวันนี้ กลับกลายมาเป็นเป้าหมายที่ท้าทายแต่สามารถเอื้อมถึง” Mr. Søren Skou ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท A.P. Moller – Maersk กล่าว
ทั้งนี้ มากกว่าครึ่งของลูกค้าหลักของ Maersk จำนวน 200 ราย ได้ตั้งเป้าหมายหรืออยู่ในระหว่างกระบวนการกำหนดเป้าหมายด้านการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ภายในซัพพลายเชนของพวกเขา และมีอีกหลายรายที่มีแนวโน้มว่าจะดำเนินการในลักษณะเดียวกัน
เรือขนส่งสินค้าพลังงานเมทานอลของ Maersk ลำแรก จะเป็นเรือถ่ายลำสินค้าที่มีขนาดพื้นที่ระวางสินค้าราว 2,000 ทีอียู โดยจะนำไปปฏิบัติการในระดับภูมิภาค ซึ่งแม้ว่าเรือลำใหม่นี้จะติดตั้งระบบเชื้อเพลิงร่วมที่สามารถใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเรือกำมะถันต่ำได้ แต่บริษัทฯ ก็ตั้งเป้าที่จะปฏิบัติการเรือโดยใช้เชื้อเพลิงเมทานอลแบบที่เกิดจากกระบวนการแยกโมเลกุลของน้ำด้วยไฟฟ้า (e-methanol) หรือเมทานอลชีวภาพ (bio-methanol) ตั้งแต่วันแรกของการปฏิบัติการ
อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Logistics Mananger เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Logistics Manager หรือคลิกที่นี่