ท่าเรือแหลมฉบังขับเคลื่อนแผนงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) เดินหน้าส่งมอบการพัฒนาที่ยั่งยืน ควบคู่กับการดำเนินงานโครงการพัฒนาท่าเรือฯ เฟส 3

ท่าเรือแหลมฉบัง (ทลฉ.) ภายใต้การดูแลของการท่าเรือแห่งประเทศไทย ได้ทำหน้าที่เป็นเกตเวย์สำคัญในการเชื่อมต่อการค้าไทยกับทั่วโลกมาตลอดหลายทศวรรษ อีกทั้งยังเดินหน้าพัฒนาท่าเรือฯ อย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบัน ท่าเรือแหลมฉบังกำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานภายใต้โครงการพัฒนาท่าเรือฯ เฟส 3 เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการรองรับตู้สินค้าและเรือขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ ให้สามารถตอบรับความต้องการของผู้ใช้บริการในอุตสาหกรรมการขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์ทั้งในระดับประเทศและระดับโลก

อย่างไรก็ตาม การพัฒนาด้านประสิทธิภาพและคุณภาพของโครงสร้างพื้นฐานมิได้เป็นเพียงเป้าหมายหลักหนึ่งเดียวที่ท่าเรือแหลมฉบังยึดมั่น เนื่องจากท่าเรือฯ เล็งเห็นถึงคุณภาพชีวิตของประชาชนและความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม รวมถึงการให้ความสำคัญกับบุคลากรในองค์กรเป็นเรื่องที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ด้วยเหตุนี้ ท่าเรือแหลมฉบังจึงมุ่งมั่นยกระดับแผนงานด้านสิ่งแวดล้อม(Environmental) สังคม (Social) และหลักธรรมาภิบาล (Governance) ควบคู่ไปกับโครงการพัฒนาท่าเรือฯ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยในภาพรวม พร้อมกับยกระดับคุณภาพของชุมชนในพื้นที่ให้ดีขึ้นและสามารถเดินหน้าไปด้วยกันได้อย่างยั่งยืน

นิตยสาร LM ฉบับนี้ มีโอกาสได้พูดคุยกับ ว่าที่ร้อยตรี รัฐกร เขียวไพศาล นักบริหาร 16 ประจำผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อเจาะลึกถึงวิสัยทัศน์ด้านการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน นโยบายด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และหลักธรรมาภิบาลขององค์กร (ESG) รวมถึงการอัปเดตความคืบหน้าของโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง เฟสที่ 3 ในปัจจุบัน

ESG Initiatives

จากวิสัยทัศน์อันกว้างไกลและความใส่ใจด้านสิ่งแวดล้อมและชุมชนโดยรอบ ท่าเรือแหลมฉบังตั้งเป้าหมายที่จะพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน ครอบคลุมทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล จึงได้ว่าจ้างที่ปรึกษาและคณะบุคคลภายนอก (Third Party) ด้านสิ่งแวดล้อมให้เข้ามาตรวจสอบการปฏิบัติการและการดำเนินโครงการพัฒนาท่าเรือ เฟส 3 อย่างเคร่งครัด อีกทั้งยังมีการแต่งตั้งคณะกรรมการจากผู้ทรงคุณวุฒิและตัวแทนจากชุมชนโดยรอบโครงการ ถือเป็นการประสานความร่วมมือกับภาคชุมชน เพื่อกำกับดูแลให้การดำเนินการโครงการพัฒนาท่าเรือฯ ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยรอบท่าเรือน้อยที่สุด

ยิ่งไปกว่านั้น ท่าเรือแหลมฉบังยังต้องการที่จะยกระดับการปฏิบัติการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้มากยิ่งขึ้น จึงได้กำหนดนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมเพิ่มเติม โดยคุณรัฐกรได้อธิบายถึงนโยบายดังกล่าวว่า “ประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมถือเป็นประเด็นที่ท่าเรือแหลมฉบังให้ความสำคัญมาโดยตลอด โดยเราตั้งเป้าหมายที่จะลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ในโครงการพัฒนาท่าเรือฯ ให้มากที่สุด เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนและลดปัญหาที่อาจส่งผลกระทบต่อภาวะโลกร้อน ซึ่งกำลังเป็นประเด็นที่สำคัญในปัจจุบัน ดังนั้น ท่าเรือแหลมฉบังจึงได้กำหนดนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมขององค์กรอย่างเคร่งครัด โดยกำหนดให้การดำเนินการคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนใกล้เคียงเป็นหลัก รวมถึงกำหนดมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการวางแผนพัฒนากิจการต่างๆ ขององค์กร พร้อมกำหนดให้การประกอบกิจการต่างๆ ของทุกหน่วยงานต้องเป็นไปตามกฏระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมทั้งในและระหว่างประเทศ”

“ประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมถือเป็นประเด็นที่ท่าเรือแหลมฉบังให้ความสำคัญมาโดยตลอด โดยเราตั้งเป้าหมายที่จะลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ในโครงการพัฒนาท่าเรือฯ ให้มากที่สุด”

– ว่าที่ร้อยตรี รัฐกร เขียวไพศาล –

“ท่าเรือแหลมฉบังจัดให้มีการติดตามและประเมินผลการดำเนินงาน รวมทั้งวางแผนพัฒนางานด้านสิ่งแวดล้อมขององค์กรอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง อีกทั้งยังสนับสนุนให้พนักงาน ผู้ใช้บริการ ภาคเอกชน และชุมชน เข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมขององค์กร ด้วยนโยบายที่เคร่งครัดดังกล่าวจะช่วยให้ท่าเรือแหลมฉบังสามารถลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้ตามเป้าหมายในการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน” คุณรัฐกร กล่าวเสริม

ทั้งนี้ การท่าเรือแห่งประเทศไทยจะให้การสนับสนุนทรัพยากร ทั้งในเรื่องของงบประมาณ เวลา บุคลากร เครื่องมือ และเทคโนโลยี อย่างเหมาะสม เพื่อให้นโยบายดังกล่าวสามารถบรรลุเป้าประสงค์ที่องค์กรตั้งไว้ได้มีประสิทธิภาพและยั่งยืน

CSR Efforts

นอกเหนือจากประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมแล้ว ประเด็นความรับผิดชอบต่อสังคม (Corporate Social Responsibility: CSR) ก็ถือเป็นอีกหนึ่งหัวข้อที่ท่าเรือแหลมฉบังให้ความสำคัญอย่างมาก โดยเฉพาะกับชุมชนในพื้นที่โดยรอบท่าเรือแหลมฉบัง ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับโครงการพัฒนาท่าเรือฯ เฟส 3 โดยท่าเรือแหลมฉบังตั้งเป้าหมายที่จะยกระดับความเป็นอยู่ที่ดีให้แก่ชุมชนในพื้นที่ดังกล่าว เพื่อให้การพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐานและการพัฒนาธุรกิจ มีการเติบโตไปพร้อมกับความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน

โดยคุณรัฐกรได้เปิดเผยถึงแผนงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคมของท่าเรือแหลมฉบังว่า “ท่าเรือแหลมฉบังใส่ใจและคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะกับชุมชนและสังคมในพื้นที่โดยรอบท่าเรือ ด้วยเหตุนี้ โครงการด้านความรับผิดชอบต่อสังคมจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการบรรลุเป้าหมายดังกล่าว โดยปัจจุบัน ท่าเรือแหลมฉบังกำลังดำเนินการโครงการด้านความรับผิดชอบต่อสังคมทั้งหมดเก้าโครงการ ครอบคลุมทั้งด้านการศึกษา สังคม สุขภาพและความปลอดภัย และสิ่งแวดล้อม”

“ท่าเรือแหลมฉบังใส่ใจและคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะกับชุมชนและสังคมในพื้นที่โดยรอบท่าเรือ ด้วยเหตุนี้ โครงการด้านความรับผิดชอบต่อสังคมจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการบรรลุเป้าหมายดังกล่าว”

– ว่าที่ร้อยตรี รัฐกร เขียวไพศาล

โดยทั้งเก้าโครงการของท่าเรือแหลมฉบัง ประกอบด้วย โครงการด้านการศึกษาสามโครงการ ได้แก่ โครงการพัฒนาภาษาอังกฤษสำหรับเยาวชนในพื้นที่โดยรอบท่าเรือฯ โครงการทุนการศึกษายั่งยืน และโครงการพัฒนาทักษะด้านดนตรีให้กับนักเรียน ขณะที่โครงการด้านสังคม สุขภาพ และความปลอดภัย ได้มีการดำเนินกิจกรรมทั้งหมดห้าโครงการ อาทิ โครงการพัฒนาอาชีพและเสริมสร้างรายได้ โครงการท่าเรือแหลมฉบังห่วงใย ใส่ใจสุขภาพชุมชน โครงการเสริมสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัย โครงการท่าเรือแหลมฉบังร่วมใจบริจาคโลหิต และโครงการสัมนาชุมชนสัมพันธ์ นอกจากนี้ ยังมีโครงการด้านสิ่งแวดล้อมอีกหนึ่งโครงการ คือโครงการอนุรักษ์ป่าชายเลนและชายฝั่งทะเลแหลมฉบัง

คุณรัฐกรอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการเหล่านี้ว่า “ทุกโครงการได้รับความเห็นชอบจากคณะอนุกรรมการพัฒนาชุมชนและสังคมรอบท่าเรือแหลมฉบัง อีกทั้งท่าเรือแหลมฉบังยังได้ประชุมร่วมกับคณะอนุกรรมการฯ เพื่อรับทราบและร่วมแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นอีกหนึ่งความร่วมมือของท่าเรือแหลมฉบังกับภาคชุมชนในพื้นที่ เพื่อขับเคลื่อนเป้าหมายในการอยู่ร่วมกับประชาชนได้อย่างเป็นสุข”

Phase 3 Construction Updates

ด้วยอัตราการขยายตัวของปริมาณตู้สินค้าที่เพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน โครงการพัฒนาท่าเรือฯ เฟสที่ 3 จึงถือเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่สำคัญสำหรับท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งนอกจากจะช่วยให้ท่าเรือฯ สามารถรองรับการขยายตัวของปริมาณการขนส่งสินค้าทางทะเลได้อย่างเพียงพอแล้ว ยังจะช่วยยกระดับศักยภาพทางการแข่งขันกับท่าเรืออื่นๆ ในเอเชีย อีกทั้งยังเป็นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยในภาพรวมได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย

สำหรับความคืบหน้าของโครงการใหญ่ที่น่าจับตามองนี้ คุณรัฐกรได้ชี้แจงว่า “ปัจจุบัน ท่าเรือแหลมฉบังกำลังเร่งดำเนินการโครงการพัฒนาท่าเรือฯ เฟส 3 ส่วนที่ 1 สำหรับงานก่อสร้างงานทางทะเล โดยมีกำหนดส่งมอบพื้นที่ถมทะเล พื้นที่ 3 สำหรับท่าเทียบเรือตู้สินค้า F ซึ่งเป็นพื้นที่ถมทะเลสุดท้าย ซึ่งคาดการณ์ว่าจะสามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จได้ภายเดือนมิถุนายน ปี 2026 เพื่อที่จะสามารถเปิดให้บริการท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3 ได้ตามกำหนดที่วางไว้ภายในปี 2027”

Integrate Social Care for Corporate Success

นอกเหนือจากโครงการพัฒนาท่าเรือ เฟสที่ 3 ที่กำลังอยู่ในระหว่างการดำเนินการแล้ว ท่าเรือแหลมฉบังยังมีอีกหนึ่งโครงการที่เตรียมจะดำเนินการภายในปีนี้ คือโครงการควบรวมท่าเทียบเรือฝั่ง B ซึ่งคาดการณ์ว่าจะเริ่มดำเนินการในช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายนนี้

ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในทุกมิติของท่าเรือแหลมฉบัง ทั้งในด้านการกำหนดนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม การดำเนินโครงการกิจกรรมด้านความรับผิดชอบต่อสังคม รวมถึงความคืบหน้าของโครงการพัฒนาท่าเรือ เฟสที่ 3 ถือเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นและการเดินหน้าสู่ความสำเร็จของท่าเรือแหลมฉบังในฐานะองค์กรตัวอย่างที่ให้ความสำคัญต่อผลประกอบการขององค์กรเทียบเท่ากับความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมและสังคม นอกจากนี้ยังสะท้อนให้เห็นอีกว่าการดำเนินการเพื่อบรรลุเป้าหมายอย่างครอบคลุมทั้งสามมิตินี้สามารถเดินหน้าไปด้วยกันได้อย่างไร้รอยต่อ

ท่าเรือแหลมฉบังยังคงมุ่งมั่นดำเนินการต่อยอดการพัฒนาต่อไปในทุกมิติอย่างไม่หยุดยั้ง โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อเปิดให้บริการท่าเรือฯ ทั้ง 3 เฟส ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควบคู่ไปกับการพัฒนาคุณภาพชีวิต รักษาสิ่งแวดล้อม พัฒนาสังคม และการดำเนินธุรกิจตามหลักธรรมาภิบาลได้อย่างยั่งยืน


อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Logistics Mananger เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Logistics Manager หรือคลิกที่นี่

บทความก่อนหน้านี้คลังสินค้า NEXT3 ของ NX Taiwan คว้าใบรับรอง GMP สำหรับสินค้าประเภทเครื่องสำอาง
บทความถัดไปOOCL ยกระดับบริการ Transpacific Latin Atlantic 1 และ 2 (TLA1/2)
Kittipat Sakulborirak
Writer, film maker, coach and some type of your friend