Kuehne+Nagel ขนส่งชิ้นส่วนสำหรับโครงการผลิตเชื้อเพลิงที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสำหรับการพาณิชย์แห่งแรก

0
819
Kuehne+Nagel

Kuehne+Nagel ให้บริการจัดการขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์สำหรับโครงการนอกชายฝั่ง ในการขนส่งวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตเชื้อเพลิงเมทานอลระยะแรกในโครงการ Haru Oni ในชิลี ให้แก่บริษัท Siemens Energy

โดยโครงการดังกล่าวเป็นการร่วมมือกันระหว่าง บริษัท Siemens Energy และบริษัท Porsche และบริษัท Highly Innovate Fuels (HIF) ซึ่งถือเป็นโครงการเชิงพาณิชย์ครบวงจรในการผลิตเชื้อเพลิงที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจากลมและน้ำแห่งแรกของโลก มีจุดมุ่งหมายเพื่อลดการปล่อยสารคาร์บอนในภาคอุตสาหกรรมการขนส่งสินค้า

ในระยะแรก โครงการ Haru Oni มุ่งมั่นผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงจากเมทานอลสังเคราะห์ หรือ e-fuels ให้ได้ปริมาณ 130,000 ลิตร ภายในปี 2022 ในระยะที่สอง จะเพิ่มความสามารถในการผลิตตามแผนให้อยู่ที่ราว 55 ล้านลิตรภายในปี 2024 และจะเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 550 ล้านลิตรภายในปี 2026 โครงการดังกล่าวได้ดำเนินพิธีเปิดหน้าดินเมื่อวันที่ 10 กันยายนที่ผ่านมา โดยมีรัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของชิลีเข้าร่วมพิธีด้วย

ทั้งนี้ ภายในสิ้นปี 2021 ชิ้นส่วนของกังหันลมหลัก อันได้แก่ ห้องเครื่องกังหันลม ใบพัดกังหันลม และส่วนของหอคอย จะได้รับการขนส่งจากท่าเรือหลายแห่งในจีนเพื่อทำการรวบรวม และทำการจัดส่งในครั้งเดียวโดยเรือเช่าเหมาลำไปยัง Punta Arenas ประเทศชิลี นอกจากนี้จะมีตู้สินค้าและตู้สินค้าแบบ flat-rack อีกจำนวนมากที่จะขนส่งมาจากยุโรป โดยชิ้นส่วนที่มีความยาวที่สุดคือ ใบพัดกังหันลมจำนวนสามใบ แต่ละใบมีความยาวมากกว่า 65 เมตร และชิ้นส่วนที่มีน้ำหนักมากที่สุดคือ ห้องเครื่องกังหันลม ซึ่งมีน้ำหนักราว 77 ตัน

Mr. Torsten Dubsky ผู้อำนวยการโครงการ Haru Oni บริษัท Siemens Energy กล่าวว่า “พลังงานหมุนเวียนไม่จำเป็นต้องผลิตขึ้นเฉพาะในสถานที่ที่ต้องการใช้พลังงานเท่านั้น แต่ยังสามารถทำการผลิตจากสถานที่ที่มีทรัพยากรธรรมชาติอย่างลมและแสงอาทิตย์ในปริมาณมากได้อีกด้วย ดังนั้น จะเกิดซัพพลายเชนใหม่ขึ้นทั่วโลกเพื่อขนถ่ายพลังงานหมุนเวียนจากภูมิภาคหนึ่งไปยังอีกแห่งหนึ่ง ทั้งนี้ เพื่อการันตีคุณภาพของโครงสร้างพื้นฐานเหล่านี้ การสนับสนุนจากผู้ให้บริการโลจิสติกส์โครงการที่มีประสบการณ์จึงเป็นเรื่องสำคัญ และเรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ Kuehne+Nagel ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับเราในโครงการ Haru Oni Pilot Project” Mr. Mustafa Sener ผู้อำนวยการระดับโลก ฝ่ายโลจิสติกส์สินค้าโครงการ บริษัท Kuehne+Nagel กล่าวว่า “ในฐานะผู้นำในอุตสาหกรรม เราไม่เพียงมุ่งมั่นลดการปล่อยสารคาร์บอนทั่วโลกผ่านโครงการ Net Zero Carbon ของเราเท่านั้น แต่เรายังต้องการลดการปล่อยสารคาร์บอนในการขนส่งอีกด้วย ดังนั้น Kuehne+Nagel จึงมีความภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้เป็นพันธมิตรในหนึ่งในโครงการสำคัญที่มีส่วนผลักดันการเข้าใกล้เป้าหมายการปล่อยสารคาร์บอนของสหภาพยุโรปในปี 2030”

อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Logistics Mananger เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Logistics Manager หรือคลิกที่นี่

บทความก่อนหน้านี้Yusen Logistics คว้ารางวัลผู้ให้บริการ 3PL แห่งปีจาก Target Corporation
บทความถัดไปHapag-Lloyd เปิดให้บริการ e-B/L แก่ลูกค้าทั่วโลก