บริษัท JWD InfoLogistics Public Company Limited (JWD) ขยายการลงทุนครั้งใหญ่ในรอบปี เดินหน้าเข้าถือหุ้นสองเฟส รวม 20 เปอร์เซ็นต์ ใน ESCO ผู้ประกอบการท่าเรือขนส่งตู้สินค้าและผู้ให้บริการซัพพลายเชน ที่มี PSA ผู้ประกอบการท่าเรือรายใหญ่ที่สุดในโลกเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้น หนุน JWD เป็นผู้ดำเนินธุรกิจท่าเรือขนส่งสินค้าระหว่างประเทศรายใหญ่ในท่าเรือแหลมฉบังและผู้ให้บริการสถานีบรรจุและขนถ่ายสินค้าตู้คอนเทนเนอร์ (ICD) ที่ลาดกระบัง เพิ่มศักยภาพการให้บริการขนส่งสินค้าต่อเนื่องหลากหลายรูปแบบ (Multimodal) ทั้งทางบก ทางเรือ และทางราง
คุณชวนินทร์ บัณฑิตกฤษดา ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท JWD InfoLogistics Public Company Limited (JWD) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้วางนโยบายขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่องตามแผนยุทธศาสตร์ห้าปี เพื่อเพิ่มศักยภาพการให้บริการขนส่งสินค้าต่อเนื่องหลากหลายรูปแบบ (Multimodal) โดยเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติให้ บริษัท JWD Transport (Thailand) ในเครือ JWD เข้าซื้อหุ้นรวม 20 เปอร์เซ็นต์ ใน บริษัท EASTERN SEA LAEM CHABANG TERMINAL (ESCO) โดยการเข้าซื้อหุ้นครั้งนี้จะส่งผลให้ JWD เป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ PSA ซึ่งเป็นผู้บริหารและดำเนินการท่าเรือขนส่งสินค้าระดับโลก เนื่องจาก PSA เป็นผู้ถือหุ้นหลักของ ESCO
“การลงทุนที่สำคัญในครั้งนี้นับเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ในรอบปีของบริษัทฯ ซึ่งจะมาจากการออกหุ้นกู้ในช่วงที่ผ่านมาและกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน โดยในช่วงแรก JWD Transport จะเข้าถือหุ้น 15 เปอร์เซ็นต์ ใน ESCO และคาดว่าจะเพิ่มสัดส่วนถือหุ้นเป็น 20 เปอร์เซ็นต์ ภายใน 6-12 เดือนข้างหน้า” คุณชวนินทร์ กล่าว
ปัจจุบัน ESCO เป็นผู้ประกอบการท่าเรือตู้สินค้าสามแห่ง ในพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง ได้แก่ 1) ท่าเรือ ESCO (B3) ที่บริษัทฯ เป็นผู้พัฒนาและบริหารจัดการเองโดยได้รับสัมปทานโดยตรงจากการท่าเรือแห่งประเทศไทย 2) ท่าเทียบเรือ LCB1 (B1) และ 3) ท่าเทียบเรือ LCMT (A0) ซึ่ง ESCO มีส่วนร่วมในฐานะผู้ถือหุ้นในบริษัทที่ได้รับสัมปทานพัฒนาท่าเรือทั้งสองแห่งดังกล่าว โดยในปี 2563 ท่าเรือขนส่งสินค้าระหว่างประเทศทั้ง 3 แห่ง ให้บริการขนถ่ายตู้คอนเทนเนอร์สินค้าที่ผ่านเข้า-ออกตลอดทั้งปี รวมทั้งสิ้นกว่าสองล้านทีอียู คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ ของปริมาณตู้สินค้าผ่าน ในท่าเรือแหลมฉบังในปีที่ผ่านมา และคาดว่าความต้องการใช้บริการท่าเรือขนส่งตู้สินค้าระหว่างประเทศมีแนวโน้มที่ดีอย่างต่อเนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจโลกที่เริ่มฟื้นตัว หลังสถานการณ์ COVID-19 ในสหรัฐอเมริกาและทวีปยุโรปเริ่มคลี่คลาย
ทั้งนี้ การเข้าลงทุนใน ESCO จะเป็นการรุกขยายธุรกิจสู่การเป็นผู้ให้บริการท่าเรือขนส่งสินค้าระหว่างประเทศรายใหญ่ในแหลมฉบังอย่างเต็มตัวของ JWD จากปัจจุบันที่ได้รับสิทธิ์บริหารท่าเรือชายฝั่ง A ในท่าเรือแหลมฉบัง จากการท่าเรือแห่งประเทศไทย และดำเนินธุรกิจท่าเรือขนส่งสินค้า MIPEC ใน Haiphong ประเทศเวียดนาม ผ่านการถือหุ้นใน Transimex ผู้ให้บริการโลจิสติกส์รายใหญ่จากเวียดนาม โดยการรุกเข้าสู่ธุรกิจให้บริการท่าเรือขนส่งสินค้าระหว่างประเทศครั้งนี้ จะเพิ่มศักยภาพแก่บริษัทฯ ด้านการให้บริการโลจิสติกส์แบบ Multimodal สามารถเชื่อมต่อการให้บริการขนส่งสินค้าหลากหลายรูปแบบ ทั้งทางรถ ทางราง ทางน้ำ และเพิ่มโอกาสขยายฐานลูกค้าจากบริการท่าเรือขนส่งตู้สินค้า และบริการสถานี ICD ลาดกระบัง ไปสู่การให้บริการโลจิสติกส์อย่างครบวงจร
“ปัจจุบัน JWD ให้บริการขนส่งสินค้าในรูปแบบ Multimodal Transportation เช่น การขนส่งและเคลื่อนย้ายสินค้าทั่วไป ยานยนต์ สินค้าอันตรายและเคมีภัณฑ์ การขนส่งสินค้าจากกรุงเทพฯ ไปยังท่าเทียบเรือขนส่งตู้สินค้าระหว่างประเทศในพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง การยกขนและเคลื่อนย้ายตู้สินค้าที่ขนส่งทางรถไฟจากภาคอีสาน รวมทั้งจากภาคอุตสาหกรรมหลักในโซน EEC จังหวัดระยองสู่ท่าเรือแหลมฉบัง ดังนั้น การลงทุนครั้งนี้จะทำให้บริษัทฯ สามารถขยายฐานลูกค้าและการให้บริการขนส่งสินค้าเพิ่มขึ้น ทั้งในฝั่งการให้บริการจากกรุงเทพฯ ไปยังท่าเรือแหลมฉบัง และจากสถานี ICD ลาดกระบัง ไปยังท่าเรือแหลมฉบัง รวมถึงการนำฐานข้อมูลสินค้าที่ผ่านเข้า-ออกท่าเรือขนส่งสินค้าระหว่างประเทศมาวิเคราะห์ เพื่อพัฒนาบริการด้านโลจิสติกส์เพิ่มขึ้น” คุณชวนินทร์ กล่าวเสริม
อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Logistics Mananger เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Logistics Manager หรือคลิกที่นี่