Iris Logistics, Inc. เตรียมเปิดตัวบริการขนส่งด่วนในเส้นทางการค้า Intra-Asia บริการใหม่ในเดือนสิงหาคมนี้ โดยจะเชื่อมต่อผู้ส่งสินค้าในฟิลิปปินส์ ไทย และเวียดนามเข้าด้วยกัน ผ่านบริการขนส่งสินค้าทางทะเลที่รวดเร็ว ยืดหยุ่น สะดวกสบาย และคุ้มค่าสำหรับผู้ส่งสินค้าในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
โดยบริการขนส่งด่วนใหม่นี้จะเริ่มต้นการปฏิบัติการ เมื่อเรือ ‘MV Iris Paoay’ ขนาดพื้นที่ระวางสินค้า 1,118 ทีอียู ซึ่งออกเดินทางจาก Los Angeles รัฐแคลิฟอร์เนีย มาถึง Manila ประเทศฟิลิปปินส์ ในวันที่ 25 สิงหาคม จากนั้นจะมีกำหนดเข้าเทียบท่าที่ประเทศไทยทุก 14 วัน โดยมีรอบการวนเรือดังต่อไปนี้
Manila{1] – Bangkok Port 2[2] – Laem Chabang[3] – Ho Chi Minh[4] – Manila
- [1] Asian Terminals Incorporated (ATI) – Manila South Harbour
- [2] Thai Connectivity Terminal (TCT)
- [3] ESCO
- [4] SP-ITC
ทั้งนี้ เรือ MV Iris Paoay มีกำหนดออกเดินทางเที่ยวปฐมฤกษ์ในวันที่ 26 สิงหาคม โดยจะออกเดินทาง จาก Manila South Harbour ในท่าเรือ Manila และแวะเทียบท่าที่ท่าเรือ General Santos และ Davao ก่อนที่จะเดินทางมายังประเทศไทยเพื่อเข้าเทียบท่าที่ Thai Connectivity Terminal (TCT) ในวันที่ 6 กันยายน และออกเดินทางต่อในวันที่ 7 เพื่อไปเทียบเรือที่ Eastern Sea Laem Chabang Terminal (ESCO) ท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี ในวันเดียวกัน จากนั้นจึงออกเดินทางต่อไปยัง Ho Chi Minh ประเทศเวียดนาม ในวันถัดไป และมีกำหนดเดินทางถึง SP-ITC International Container Terminal ทางตอนใต้ของเวียดนามในวันที่ 11 กันยายน และออกเดินทางกลับสู่ฟิลิปปินส์ในวันที่ 12 กันยายน โดยจะเดินทางถึง Manila South Harbour ในวันที่ 15 กันยายน
นอกจากนี้ Iris Logistics ยังตั้งเป้านำเรือเข้าร่วมปฏิบัติการในเส้นทางการบริการใหม่นี้อีกสองลำ โดยจะเริ่มตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปี 2023 เป็นต้นไป
Royal Cargo’s Strong Background
Iris Logistics หรือเดิมเป็นที่รู้จักในชื่อ Royal Cargo Lines Inc. เป็นสายการเดินเรือเอกชนสัญชาติฟิลิปปินส์ และกิจการในเครือของ Royal Cargo ผู้ให้บริการด้านพาณิชย์นาวีและการขนส่งภายในประเทศ และด้วยการลงทุนขยายกองอุปกรณ์ และพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ระบบ รวมทั้งเครือข่ายการปฏิบัติการ ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ต่างๆ รวมทั้งภูมิทัศน์ทางธุรกิจของอุตสาหกรรมการขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์ ผ่านข้อได้เปรียบด้านเทคโนโลยีที่ทันสมัย กลยุทธ์การขยายตลาด และการติดตามแนวโน้มของอุตสาหกรรมอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับบุคลากรในฐานะทรัพยากรที่สำคัญที่สุด บริษัทฯ จึงได้จัดฝึกอบรมพร้อมสร้างเสริมทักษะความชำนาญเฉพาะทางที่เกี่ยวข้องเพื่อตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้า รวมทั้งการปรับใช้แนวคิดการมอบโซลูชันโลจิสติกส์ที่ออกแบบเฉพาะตามความต้องการของลูกค้าแต่ละรายอีกด้วย
“แม้จะมีปัจจัยหลายอย่างที่สามารถสนับสนุนบริษัทฯ ในการยกระดับด้านประสิทธิผล แต่มีปัจจัยเพียงหนึ่งเดียวที่สามารถขับเคลื่อนผลลัพธ์ทุกด้านของบริษัทได้พร้อมๆ กัน นั่นก็คือ ‘การเติบโต’” Mr. Igal Dafni กรรมการผู้จัดการ บริษัท Iris Logistics กล่าว
“การเติบโตเป็นปัจจัยที่บ่งชี้ถึงศักยภาพของบริษัทฯ ในการบรรลุผลลัพธ์ ทว่าผลลัพธ์ในที่นี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การดำเนินการเพื่อให้บรรลุตามเป้าหมาย แต่ยังหมายถึงการทำในสิ่งที่ ‘ถูกต้อง’ อีกด้วย ซึ่ง Iris Logistics เชื่อมั่นในการตัดสินใจขยายธุรกิจเข้ามาในตลาด Intra-Asia ที่กำลังเติบโต โดยเฉพาะการเชื่อมต่อกับประเทศไทยที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับที่สองของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยการตัดสินใจครั้งนี้ไม่เพียง ‘ถูกต้อง’ แต่ยังจะมีส่วนช่วยผลักดันการเติบโตด้านการขนส่งของไทย และ Iris Logistics เองอีกด้วย” Mr. Dafni กล่าวเสริม
ในฐานะบริษัทข้ามชาติที่มีฐานการปฏิบัติการในฟิลิปปินส์ Royal Cargo พร้อมเสมอกับการแข่งขันในเวทีสากล โดยนำเสนอบริการด้านโลจิสติกส์ที่ไว้วางใจได้และมีความคุ้มค่า รวมทั้งมีความคิดสร้างสรรค์ในการนำเสนอบริการใหม่ๆ ที่น่าสนใจ แต่ในขณะเดียวกันก็รักษาระดับคุณภาพการบริการที่ได้มาตรฐาน และให้บริการด้วยความซื่อสัตย์ตรงไปตรงมาเพื่อความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้า
Iris Logistics’ Ambitious Goals
เมื่อไม่นานมานี้ Iris Logistics ประสบความสำเร็จในการปฏิบัติการเรือ MV Iris Paoay ในเส้นทางการบริการสู่สหรัฐอเมริกา ซึ่งเริ่มเปิดให้บริการในเดือนกันยายน 2021 เพื่อสนองความต้องการของผู้ส่งออกในท้องถิ่นที่ได้รับผลกระทบด้านซัพพลายเชนและโลจิสติกส์จากเหตุการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 และด้วยเหตุนี้ เรือ MV Iris Paoay จึงกลายเป็นเรือสัญชาติฟิลิปปินส์ลำแรกที่ปฏิบัติการตรงสู่สหรัฐอเมริกาในรอบสามทศวรรษ
ความสำเร็จครั้งล่าสุดของ Iris Logistics ถือเป็นบทพิสูจน์ความสามารถและวิสัยทัศน์ทางธุรกิจของคณะผู้บริหาร Iris Logistics และ ณ ปัจจุบัน ซึ่งย่างเข้าสู่เดือนที่ 10 ของการปฏิบัติการในระดับสากล ทางบริษัทฯ ก็ประสบความสำเร็จในการมอบคุณภาพการบริการระดับ ‘เหนือกว่ามาตรฐานของตลาด’ ซึ่งส่งผลให้บริษัทฯ ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังวางแผนการขยายบริการด้านการขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์โดยสอดคล้องกับเป้าหมายในการขึ้นมาเป็นหนึ่งในผู้เล่นรายสำคัญในเส้นทางการค้า Intra-Asia โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ไทย
Contact:
TCC Agency Limited
Lumpini Tower, 3rd Fl., No. 1168/5, Rama 4 Rd., Tungmahamek, Sathorn, Bangkok 10120
Tel: +66 2026 7119 ext. 570-575 Email: sales1@iristhailand.com
อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Logistics Mananger เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Logistics Manager หรือคลิกที่นี่