การขนส่งสินค้าโครงการ (Project Cargo) แต่ละประเภทต่างมีแนวทาง วิธีการ และข้อจำกัดในการขนส่งที่แตกต่างกัน เพื่อให้การขนส่งชิปเมนท์ที่มีขนาดใหญ่และมีน้ำหนักมากเป็นไปอย่างรวดเร็วและปลอดภัยสูงสุด ผู้ให้บริการขนส่งสินค้าจึงจำเป็นต้องมีทั้งความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการขนส่งสินค้าเฉพาะทาง รวมถึงการวางแผนจัดการที่รัดกุม โดยเฉพาะการขนส่งสินค้าที่มีขนาดใหญ่และมีน้ำหนักมาก อย่าง กังหันลม
โดยปกติแล้วการจัดการสินค้าขนาดใหญ่ทั่วไป อาทิ หม้อแปลงไฟฟ้า ท่อก๊าซ ตู้รถไฟ และสินค้าโครงการอื่นๆ ล้วนมีความอ่อนไหวและข้อจำกัดที่แตกต่างกันออกไป แต่สินค้าเหล่านี้มักจะได้รับการขนส่งในรูปแบบของชิปเมนท์ขนาดใหญ่เพียงชิปเมนท์เดียว ขณะที่การขนส่งสินค้าโครงการประเภทกังหันลม ส่วนใหญ่จะมีการขนส่งชิ้นส่วนประกอบ อาทิ เสากังหันลม ชุดแกนหมุนใบพัด เครื่องกำเนิดไฟฟ้า และระบบควบคุมกังหันลม ตามมาอีกหลายชิปเมนท์ ดังนั้น ผู้ให้บริการขนส่งสินค้าจึงต้องมีการศึกษาข้อมูลและรายละเอียดของแต่ละชิปเมนท์อย่างละเอียดถี่ถ้วน เพื่อเตรียมความพร้อมในการขนส่งให้มีความเหมาะสม รวดเร็ว และปลอดภัยสูงสุด
LM ได้รับเกียรติจากคุณธนิต หาญเบญจพงศ์ กรรมการบริหาร บริษัท Siam Pattana Maritime จำกัด ในเครือบริษัท SIAM ECL และ Eastern Car Liner ผู้เชี่ยวชาญในการขนส่งสินค้าโครงการทางทะเล มาร่วมแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับการวางแผน การจัดการ และแนวทางการปฏิบัติการขนส่งกังหันลม ซึ่งเป็นชิปเมนท์ที่มีความท้าทายในการจัดการขนส่งอย่างมาก
It’s All in the Planning
ก่อนที่จะให้บริการขนส่งสินค้าโครงการทุกครั้งผู้ให้บริการฯ จำเป็นต้องมีการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับตัวสินค้า ทั้งน้ำหนัก ส่วนสูง รวมถึงข้อมูลจำเพาะอื่นๆ ทั้งด้านข้อจำกัด แนวทาง และระยะเวลาในการจัดการขนส่งสินค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขนส่งสินค้าประเภทกังหันลม ซึ่งเป็นสินค้าโครงการที่มีขนาดใหญ่ มีความยาวและน้ำหนักมาก อีกทั้งยังเป็นสินค้าที่มีส่วนประกอบเป็นจำนวนมาก เพื่อนำข้อมูลทั้งหมดมาใช้ในการวางแผนจัดการชิปเมนท์ให้เป็นไปอย่างราบรื่น
คุณธนิต กล่าวว่า “เมื่อปี 2016 เราได้ให้บริการขนส่งชิปเมนท์กังหันลมครั้งแรก จำนวน 350,000 คิวบิกเมตร จากประเทศจีนไปยังท่าเรือสงขลา โดยทางเรามีการเตรียมความพร้อมก่อนให้บริการเป็นระยะเวลาเกือบหนึ่งปี ทั้งการศึกษาข้อมูลส่วนประกอบของกังหันลมทุกชิปเมนท์ การวางแผนแนวทางการบริหารจัดการขนส่งสินค้าตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง เพื่อให้มั่นใจว่าการจัดการชิปเมนท์กังหันลมเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย”
จากความสำเร็จในครั้งนั้น ทำให้บริษัทฯ ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าอีกครั้ง โดยเมื่อเดือนมีนาคม ปี 2018 บริษัทฯ ได้ร่วมงานกับบริษัทพันธมิตร K.Connect ในการให้บริการขนส่งชิปเมนท์กังหันลมของโครงการหนุมาน จำนวน 600,000 คิวบิกเมตร ซึ่งวางแผนปฏิบัติการด้วยเรือขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ประเภทเทกอง (Bulk Carrier) และมีเครนเรือที่รับของหนักได้ (Heavy lift) จำนวน 23 ลำ ขนาดตั้งแต่ 13,000-25,000 เดตเวทตัน
“การขนส่งชิปเมนท์กังหันลมในครั้งนี้ ลูกค้ามีความต้องการให้เราบริหารจัดการชิปเมนท์ภายในระยะเวลา 8 เดือน ดังนั้น เราจึงต้องมีการวางแผนการจัดการกังหันลม ตั้งแต่ขั้นตอนการเตรียมเรือขนส่งสินค้าให้มีความเหมาะสมและเพียงพอต่อชิปเมนท์ของกังหันลม” คุณธนิต กล่าว “เนื่องจากเรือขนส่งสินค้าที่เรานำมาใช้ปฏิบัติการมีขนาดพื้นที่ระวางไม่เท่ากัน เราจึงต้องมีการตรวจเช็คขีดความสามารถในการบรรจุสินค้าของเรือทุกลำ รวมทั้งเครนยกขนสินค้าบนเรือว่ามีความสามารถและเพียงพอต่อการรองรับสินค้าได้มากน้อยเพียงใด หลังจากนั้นจึงนำข้อมูลทั้งหมดมาประมวลผล เพื่อวางแผนการจัดการขนส่งชิ้นส่วนของกังหันลมทุกชิปเมนท์ให้มีความเหมาะสมกับเรือแต่ละลำ ซึ่งขั้นตอนเหล่านี้จะช่วยป้องกันความผิดพลาดระหว่างการขนส่ง อีกทั้งยังสามารถส่งมอบสินค้าได้ตรงตามระยะเวลาที่ลูกค้ากำหนดด้วย”
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าผู้ให้บริการขนส่งสินค้าจะมีการวางแผนและเตรียมความพร้อมในการบริหารจัดการกังหันลมมาอย่างดีแล้วก็ตาม แต่ในการขนส่งสินค้าทางทะเลย่อมมีความท้าทายและอุปสรรคที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นเสมอ ไม่ว่าจะเป็นความล่าช้าของเรือขนส่งสินค้า ความล่าช้าของสินค้าที่ผลิตไม่ทันการขนส่ง รวมทั้งท่าเรือมีความหนาแน่นของจำนวนเรือในการรอเข้าเทียบท่าจนทำให้เกิดการล่าช้า หรือแม้กระทั่งสินค้าที่ต้องทำการขนส่งไม่ตรงกับข้อมูลที่แจ้งไว้ล่วงหน้า เพราะฉะนั้น ผู้ให้บริการฯ จึงต้องมีการประสานงานกับลูกค้าอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้มั่นใจว่าการขนส่งชิปเมนท์กังหันลมจะเป็นไปตามแผนที่วางไว้และหากเกิดเหตุสุดวิสัยจะได้มีการเตรียมแผนสำรองได้ทันท่วงที
Safe Handling
อย่างที่ทราบกันดีว่าการจัดการสินค้าโครงการทุกประเภท ความปลอดภัยต้องมาเป็นอันดับแรกเสมอ เนื่องจากสินค้าเหล่านี้มีมูลค่าสูงและมีความเสี่ยงต่อการเสียหายได้ง่าย ดังนั้น ผู้ให้บริการฯ จำเป็นต้องมีความระมัดระวังในการจัดการเป็นพิเศษ เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้าเหล่านี้จะคงอยู่ในสภาพสมบูรณ์
“ในการบริหารจัดการชิปเมนท์กังหันลม ผู้ให้บริการฯ ต้องมีความละเอียดรอบคอบสูง เพราะความเชื่อมั่นของลูกค้าไม่ใช่เพียงแค่การให้บริการยกขนสินค้าขึ้นและลงจากเรือเท่านั้น แต่ยังขึ้นอยู่กับการวางแผนการบริหารจัดการสินค้าอย่างไรให้มีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัยสูงสุด” คุณธนิต กล่าว “นอกเหนือจากการปฏิบัติการตามแผนที่เราเตรียมไว้แล้ว บริษัทฯ ยังได้มีการจัดการด้านความปลอดภัยเพิ่มเติม อย่างการสร้างโครงเสาเสริมเหล็ก (stanchion) สำหรับเป็นฐานในการยึดตัวสินค้าไม่ให้เกิดการเคลื่อนไหว รวมทั้งการติดตั้งสลิงผ้าใบ (belt sling) สำหรับยกขนใบพัดกังหันลม เพื่อช่วยป้องกันการกระทบกระแทกกับส่วนประกอบอื่นๆ”
Training for Success
การบริหารจัดการชิปเมนท์ให้มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพนั้นต้องมาจากการปฏิบัติการจากบุคลากรที่มีประสบการณ์และผ่านการฝึกอบรมมาอย่างดี เพื่อช่วยให้การขนส่งกังหันลมเป็นไปอย่างราบรื่นตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง
“ก่อนการปฏิบัติการขนส่งชิปเมนท์กังหันลม เราต้องมีการฝึกอบรมพนักงานให้มีความรู้เกี่ยวกับส่วนประกอบของกังหันลมทุกชิปเมนท์ หลังจากนั้นจึงมีการฝึกสอนเกี่ยวกับขั้นตอนการยกขนสินค้าขึ้นและลงจากเรือ เนื่องจากชิปเมนท์ของกังหันลมในแต่ละชิปเมนท์มีรูปแบบการยกขนที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ เรายังได้ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปบริหารจัดการชิปเมนท์ตั้งแต่ต้นทาง เพื่อให้มั่นใจได้ว่าชิปเมนท์ของกังหันลมทุกชิปเมนท์มีการจัดการได้เหมาะสมและตรงตามแผนที่เราวางไว้” คุณธนิต กล่าว
สุดท้ายนี้ เราจะเห็นได้ว่าสิ่งสำคัญในการให้บริการขนส่งสินค้าโครงการประเภทกังหันลม คือการศึกษารายละเอียดข้อมูลของสินค้าอย่างละเอียดและครบถ้วน เพราะถ้าหากผู้ให้บริการฯ ขาดความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับตัวสินค้าแล้วอาจส่งผลกระทบต่อการวางแผน การบริหารจัดการชิปเมนท์ ตลอดจนถึงการยกขนสินค้าขึ้นและลงจากเรือ ซึ่งสิ่งเหล่านี้หากไม่ได้รับการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพอาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของสินค้าและก่อให้เกิดความเสียหายตามมาได้
Published on Logistics Manager (LM) Magazine on 1st October 2018
อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Logistics Mananger เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Logistics Manager หรือคลิกที่นี่
