Hapag-Lloyd สายการเดินเรือชั้นนำจากเยอรมนี ได้ดำเนินการยกถังก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) น้ำหนัก 1,300 ตันลงเรือ Sajir ขนาดระวาง 15,000 ทีอียู โดยใช้เครนลอยน้ำ ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญในการเปลี่ยนเรือขนส่งตู้สินค้าดังกล่าวให้กลายเป็นเรือที่ขับเคลื่อนด้วยก๊าซธรรมชาติเหลว ซึ่งต้องใช้เวลาถึงสามสัปดาห์ในการจัดเตรียมพื้นที่บนเรือให้รองรับถังเชื้อเพลิงดังกล่าว หลังจากนี้ เครื่องยนต์หลักและเครื่องยนต์ดีเซลเสริมของเรือจะได้รับการดัดแปลงเป็นระบบเชื้อเพลิงคู่เพื่อรองรับก๊าซธรรมชาติเหลวและน้ำมันเชื้อเพลิงกำมะถันต่ำ
การดัดแปลงเรือ Sajir ในครั้งนี้ดำเนินการโดยอู่เรือ HuaRun DaDong ในนคร Shanghai ทั้งนี้ Hapag-Lloyd เป็นสายการเดินเรือรายแรกที่เปลี่ยนเรือขนส่งตู้สินค้าขนาดดังกล่าวให้รองรับก๊าซ LNG โดยแผนงานในครั้งนี้จะใช้ระยะเวลาในการดัดแปลงเรือ Sajir และทดลองวิ่งในเบื้องต้นแล้วเสร็จภายในช่วงต้นปี 2021 ก่อนที่จะนำเรือมาวิ่งให้บริการในเส้นทางการค้าเอเชีย-ยุโรปเหนือ
การดำเนินการดังกล่าวมีมูลค่าประมาณ 35 ล้านเหรียญสหรัฐ และนับเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของกลยุทธ์เพื่อความยั่งยืนของ Hapag-Lloyd การใช้ก๊าซ LNG สามารถช่วยลดการปล่อย CO2 ได้ 15 ถึง 30 เปอร์เซ็นต์ และลดการปล่อยซัลเฟอร์ไดออกไซด์รวมทั้งอนุภาคฝุ่นขนาดเล็กได้มากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์
“จากการดำเนินโครงการนำร่องที่โดดเด่นดังกล่าว เราหวังว่าจะได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ ที่จะเป็นประโยชน์สำหรับอนาคตและวางรากฐานให้เรือขนาดใหญ่เปลี่ยนมาใช้เชื้อเพลิงทางเลือกที่ดีต่ออนาคตด้วยเช่นกัน เป้าหมายระยะยาวของเราจะยังคงเป็นการดำเนินการขนส่งที่ปล่อย CO2 สุทธิเป็นศูนย์โดยใช้ก๊าซธรรมชาติสังเคราะห์ (SNG)” Mr. Richard von Berlepsch กรรมการผู้จัดการฝ่ายกองเรือ สายการเดินเรือ Hapag-Lloyd กล่าว
อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Logistics Mananger เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Logistics Manager หรือคลิกที่นี่
อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Logistics Mananger เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Logistics Manager หรือคลิกที่นี่
