นับตั้งแต่ที่ท่าเรือแหลมฉบังเริ่มเปิดดำเนินการในปี 1991 ท่าเทียบเรือ ESCO เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการท่าเทียบเรือกลุ่มแรกที่เริ่มเปิดดำเนินกิจการพร้อมประตูการค้าทางทะเลที่สำคัญของประเทศไทยแห่งนี้ โดยมีที่ตั้งอยู่ในท่าเทียบเรือตู้สินค้า B3 จากนั้นเป็นต้นมา เหล่าพนักงานของ ESCO ต่างทุ่มเททำงานอย่างเต็มที่ เพื่อให้ ESCO เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการท่าเทียบเรือชั้นนำในประเทศไทย

นอกจากให้บริการท่าเทียบเรือตู้สินค้า B3 แล้ว ESCO ยังมีหุ้นส่วนในท่าเทียบเรือตู้สินค้า A0 และ B1 ในท่าเรือแหลมฉบังอีกด้วย ซึ่งเมื่อรวมกันแล้ว ESCO มีศักยภาพในการปฏิบัติการตู้สินค้าได้มากกว่า 2.2 ล้านทีอียู นอกจากนี้ ในปี 2003 บริษัท PSA ได้เข้ามาลงทุนใน ESCO โดยเป็นการร่วมทุนระหว่างบริษัท Marubeni, Kamigumi และ PSA  โดยที่ PSA นั้นเป็นผู้นำด้านการบริหารท่าเรือทั่วโลกทั้งในเอเชีย ยุโรป และอเมริกา โดยมีศูนย์กลางอยู่ท่าเทียบเรือ PSA Singapore Terminals และ PSA Antwerp

ปัจจุบันท่าเทียบเรือ ESCO สามารถรองรับเรือขนาด Post-Panamax รุ่นล่าสุด ที่มีขนาดความยาว 300 เมตร และกินน้ำลึกได้สูงสุด 14 เมตร และให้บริการด้วยการบูรณาการอุปกรณ์ชั้นเลิศ อาทิ Quay Crane, Rubber Tired Crane, รถฟอร์คลิฟต์, และหัวลากรถพ่วงบรรทุกสินค้าสำหรับขนย้ายตู้สินค้าด้วยความรวดเร็ว รวมถึงเทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น ระบบจัดการท่าเทียบเรือ CATOS (Computer Automated Terminal Operation System) ในการยกระดับการจัดการท่าเทียบเรือ  ร่วมกับการปฏิบัติงานของบุคลากรที่มีคุณภาพ ภายในทำเลที่ยอดเยี่ยมของแหลมฉบัง

ไม่เพียงแต่บริการจัดการตู้สินค้าเท่านั้น แต่ท่าเทียบเรือ ESCO ยังมีบริการอำนวยความสะดวกในการทำพิธีศุลกากรตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยสำนักงานกรมศุลกากรภายในเขตท่าเทียบเรือ พร้อมทั้งเตรียมเอกสารและแบบฟอร์มที่จำเป็นสำหรับผู้ขนส่งและผู้รับสินค้า และบริการลานบรรจุตู้สินค้าซึ่งมีพื้นที่กว่า 9,180 ตารางเมตร รวมทั้งลานวางตู้สินค้าขนาด 45,600 ตารางเมตร ซึ่งสามารถรองรับตู้สินค้าได้ราว 7,600 ทีอียู

โดยลานบรรจุตู้สินค้า ESCO ได้รับการออกแบบให้สามารถรองรับตู้สินค้าแบบเต็มตู้ (FCL) และตู้สินค้าแบบไม่เต็มตู้ (LCL) และมีระบบรักษาความปลอดภัยด้วยกำแพงและรั้วที่แน่นหนา รวมทั้งมีการจำกัดการเข้าออก พร้อมติดตั้งกล้องวงจรปิด และมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง

และในเวลาอันใกล้นี้ ท่าเทียบเรือ ESCO กำลังจะปรับโฉมเว็บไซต์ใหม่ ในดีไซน์ที่ทันสมัย เข้ากับยุคดิจิทัลที่กำลังมาถึง และมีการรวบรวมข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับท่าเทียบเรือ ESCO รวมทั้งมีบริการแสดงตารางเรือเทียบท่า และบริการติดตามตู้สินค้าแบบออนไลน์ เพื่ออีกระดับของความสะดวกสบายสำหรับลูกค้าของ ESCO

วันนี้ ESCO พร้อมรองรับตู้สินค้าที่เพิ่มปริมาณขึ้นอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย ด้วยบริการแบบครบวงจร และรักษาความเป็นผู้นำในธุรกิจผู้ให้บริการท่าเทียบเรือในประเทศไทยต่อไป


ร่วมลุ้นรับรางวัลบัตรกำนัล Starbucks มูลค่า 500 บาทจาก ESCO จำนวน 5 รางวัล เพียงร่วมตอบคำถามจากบทความ ESCO ปฏิบัติการตู้สินค้าทุกตู้ ด้วยความทุ่มเทและใส่ใจ

ท่านสามารถร่วมสนุกได้ภายในวันที่ 15 ธันวาคม 2019 และตรวจสอบรายชื่อผู้โชคดีได้ในนิตยสาร LM ฉบับที่ 531 ประจำวันที่ 1 มกราคม 2020 หรือในเฟซบุคเพจ facebook.com/ThaiLogisticsManager

อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Logistics Mananger เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Logistics Manager หรือคลิกที่นี่

บทความก่อนหน้านี้MSC Isabella เรือตู้สินค้าใหญ่ที่สุดในโลก เทียบท่า Singapore
บทความถัดไปcargo-partner ยกระดับการจัดการคลังสินค้าด้วย Time Slot Management
Pichanon Paoumnuaywit
tech and history geek, who enjoys hunting and photographing dark skies and milky way