DITP และ RX Tradex เดินหน้าสนับสนุนผู้ประกอบการโลจิสติกส์ไทย พร้อมเชื่อมต่อธุรกิจโลจิสติกส์ในอนาคต ในงาน TILOG – LOGISTIX 2024

0
495

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ (DITP) ร่วมกับ บริษัท RX Tradex เตรียมจัดงานแสดงสินค้าและบริการ TILOG – LOGISTIX 2024 ระหว่างวันที่ 15-17 สิงหาคมนี้ ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค ฮอลล์ 98 โดยได้เชิญผู้ประกอบการโลจิสติกส์มากกว่า 150 บริษัท เข้าร่วมงาน เพื่อนำเสนอสินค้าและบริการมากกว่า 415 แบรนด์ จาก 25 ประเทศ ผ่านการจัดแสดงนวัตกรรม เทคโนโลยี และบริการโลจิสติกส์ภายในงาน พร้อมกิจกรรมเสริมองค์ความรู้และสัมมนาวิชาการ โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 9,000 คน

คุณณัฐิยา สุจินดา รองอธิบดี กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า “อุตสาหกรรมโลจิสติกส์ไทยในปี 2023 มีทิศทางเติบโตที่ดี โดยสมาคมการจัดการระบบคลังสินค้าไทยคาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ไทยในปี 2024 จะมีอัตราขยายตัว 15 เปอร์เซ็นต์ ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก โดยปัจจุบัน ไทยมีผู้ประกอบการโลจิสติกส์ในฐานะนิติบุคคลรวม 35,593 ราย อิงจากข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเมื่อเดือนมิถุนายน 2024 และมีมูลค่าการลงทุนจากต่างประเทศเมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2024 ที่ 5,808.76 ล้านบาท คิดเป็น 16.36 เปอร์เซ็นต์ ของการลงทุนในกลุ่มโลจิสติกส์ในไทย โดยจีนเป็นประเทศที่ลงทุนมากที่สุด นอกจากนี้ จากการจัดอันดับดัชนีวัดประสิทธิภาพด้านโลจิสติกส์ระหว่างประเทศ (International Logistics Performance Index: LPI) ของธนาคารโลกประจำปี 2023 ยังพบว่าประเทศไทยอยู่อันดับที่ 34 จาก 139 ประเทศทั่วโลก และเป็นอันดับที่ 3 รองจากสิงคโปร์และมาเลเซีย สำหรับภูมิภาคอาเซียน”

ดร. ชัยชาญ เจริญสุข ประธาน สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย เผยว่า “ปัจจุบัน ผู้ส่งออกต้องเผชิญกับความท้าทายในการดำเนินธุรกิจทั้งจากภายในประเทศและต่างประเทศ อาทิ การขาดแคลนแรงงาน ภาวะต้นทุนการดำเนินธุรกิจที่เพิ่มสูงขึ้นทุกรายการ มาตรการทางการค้าจากหลายประเทศ เช่น Carbon Border Adjustment Mechanism (CBAM) EU Deforestation-free Regulations (EUDR) หรือกฏหมายที่เกี่ยวกับการลดการผลิตและการบริโภคสินค้าโภคภัณฑ์และผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการตัดไม้ทำลายป่าและทำให้เกิดความเสื่อมโทรมของป่าของสหภาพยุโรป ซึ่งคาดการณ์ว่าประเทศคู่ค้าสำคัญอื่นๆ จะกำหนดนโยบายออกมาบังคับใช้ในลักษณะเดียวกันในไม่ช้า โดยผู้ประกอบการไทยที่ต้องการส่งออกสินค้าไปยังประเทศดังกล่าวจำเป็นต้องปรับตัว ตั้งแต่การคัดเลือกวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตสินค้า การปรับปรุงกระบวนการผลิต การบรรจุภัณฑ์และการขนส่งสินค้า และการเลือกใช้พันธมิตรทางธุรกิจที่มีจุดมุ่งหมายร่วมกัน ซึ่งผู้ให้บริการโลจิสติกส์ถือเป็นหนึ่งในพันธมิตรที่สำคัญสำหรับผู้ส่งออก ดังนั้น การคัดเลือกผู้ให้บริการโลจิสติกส์ที่เข้าใจในความต้องการทางธุรกิจและสนับสนุนผู้ส่งออกในการวางแผน เสนอทางเลือกในการพัฒนา ตลอดจนช่วยแก้ปัญหา จึงถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง อีกทั้งยังเป็นกุญแจสู่ความยั่งยืนสำหรับการค้าระหว่างประเทศ”

คุณเฉลิมศักดิ์ กาญจนวรินทร์ นายกสมาคมผู้รับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ กล่าวถึงอนาคตของอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ว่า “การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลจะช่วยสนับสนุนให้ผู้ให้บริการโลจิสติกส์สามารถควบคุมการปฏิบัติการตลอดทั้งซัพพลายเชน ได้รับข้อมูลสำหรับใช้ตัดสินใจได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว ตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงเวลาและมีประสิทธิภาพ และควบคุมต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเทคโนโลยีที่กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในบริการโลจิสติกส์ อาทิ หุ่นยนต์จัดการคลังสินค้าและการขนลำเลียงสินค้า AI จะช่วยควบคุมการขับขี่และเส้นทางของผู้ขนส่งสินค้า ระบบซอฟต์แวร์ จะช่วยจัดการวางแผนเส้นทางการขนส่งสินค้า และระบบบล็อกเชนจะช่วยให้สามารถเก็บรวบรวมและบริหารจัดการข้อมูลของสินค้าหลายประเภทได้เป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังสามารถเชื่อมต่อกับผู้เกี่ยวข้องได้ตลอดทั้งซัพพลายเชน ซึ่งการพัฒนาในด้านนี้จำเป็นต้องได้รับการขับเคลื่อนผ่านความร่วมมือจากทั้งภาครัฐและเอกชน และจำเป็นต้องดำเนินการอย่างจริงจังเพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันในตลาดโลก”

คุณณัฐริยากล่าวเสริมถึงแนวคิดในการจัดงาน TILOG – LOGISTIX 2024 ว่า “งาน TILOG – LOGISTIX ประจำปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด ‘เชื่อมโยงโลกของธุรกิจโลจิสติกส์ในอนาคต (Connecting the Logistics Future’ เพื่อแสดงถึงศักยภาพ ความพร้อม และความร่วมมือของอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ไทยในการปรับตัวให้เข้ากับธุรกิจโลจิสติกส์ในอนาคตที่มุ่งเน้นในด้านนวัตกรรมโลจิสติกส์ เทคโนโลยีดิจิทัล และความยั่งยืน”

คุณวราภรณ์ ธรรมจรีย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท RX Tradex กล่าวว่า “ภายในงานจะมีการจัดแสดงสินค้าจากนานาชาติ อาทิ ไทย จีน ญี่ปุ่น นอร์เวย์ มาเลเซีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ อินโดนีเซีย รวมถึงพาวิลเลี่ยนจากจีน โดยนวัตกรรมเด่นที่จะนำมาจัดแสดง ได้แก่ ระบบช่วยเหลือและตรวจจับพฤติกรรมผู้ขับขี่รถขนส่งสินค้าด้วยระบบ AI ระบบการจัดการคลังสินค้าโดยใช้หุ่นยนต์เพื่อช่วยลำเลียงกระบะบรรจุสินค้า ถุงลมกันกระแทกในตู้สินค้าชนิดหน้าเรียบ ระบบบริหารจัดการคลังสินค้าที่ใช้เทคโนโลยีคิดคำนวณแทนมนุษย์ และบริการขนส่งสินค้าทางรางที่ครบวงจร ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าจำนวนผู้เข้าร่วมงานในปีนี้จะมีอย่างน้อย 9,000 คน โดยตั้งเป้าหมายมูลค่าการซื้อขายภายในงานอย่างน้อย 2,000 ล้านบาท”

นอกจากนี้ ภายในงาน TILOG – LOGISTIX 2024 ยังมีกิจกรรมพิเศษมากมาย อาทิ นิทรรศการภาพรวมอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ของไทย กิจกรรม Innovation Showcase งานสัมมนา Trade Logistics Symposium 2024 และนิทรรศการ World Transport & Logistics Forum

ทั้งนี้ งาน TILOG – LOGISTIX 2024 มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15-17 สิงหาคมนี้ ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค ฮอลล์ 98 โดยสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมและลงทะเบียนได้ที่ www.tilog-logistix.com หรือโทรศัพท์ 02-686-7222


อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Logistics Mananger เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Logistics Manager หรือคลิกที่นี่

บทความก่อนหน้านี้CNC เปิดบริการ Yangon Singapore Express (YSX) เชื่อมเมียนมาสู่สิงคโปร์
บทความถัดไปNX Engineering Vietnam จัดพิธีวางศิลาฤกษ์ศูนย์โลจิสติกส์ Haiphong Logistics Center เฟสสอง
Kittipat Sakulborirak
Writer, film maker, coach and some type of your friend