DP World เปิดตัวบริการขนส่งหางลากพ่วงทางทะเลโดยตรงระหว่างสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และอิรัก

0
871

DP World ผู้ปฏิบัติการท่าเรือ ท่าเทียบเรือ และโซลูชันซัพพลายเชนชั้นนำระดับโลก เปิดตัวบริการขนส่งสินค้าตรงระหว่างสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และอิรักเป็นครั้งแรก โดยบริการนี้เป็นการขนส่งหางลากพ่วงบรรทุกสินค้าทางทะเลแบบไม่มีคนขับและรถหัวลาก โดยรถพ่วงจะลากหางลากพ่วงมาจอดรอที่หน้าท่า ก่อนที่หางลากจะถูกลากลงเรือในภายหลัง

โดยบริการใหม่นี้ถือเป็นการให้บริการในรูปแบบนี้ครั้งแรกในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์โดย P&O Maritime Transports ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ DP World

การปฏิบัติการขนส่งสินค้าผ่านบริการนี้จะใช้เวลาขนส่งประมาณ 36 ชั่วโมง จากท่าเรือ Jebel Ali ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ไปถึงท่าเรือ Umm Qasr ทางตอนใต้ของอิรัก และถือเป็นทางเลือกทดแทนการขนส่งทางรถบรรทุกข้ามพรมแดนที่อาจใช้เวลานานถึง 14 วัน

สำหรับหางลากพ่วงที่บรรทุกสินค้าเอาไว้จะถูกยกขนลงเรือ RO-RO เพื่อขนส่งไปยังท่าเรือ Umm Qasr ของอิรัก จากนั้น รถบรรทุกท้องถิ่นสามารถลากหางลากไปยังปลายทางสุดท้ายภายในประเทศ และเมื่อส่งมอบแล้ว หางลากพ่วงจะถูกส่งกลับไปยังท่าเรือ Umm Qasr และขนส่งกลับสู่ Jebel Ali

นับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน สินค้าที่ขนส่งทางถนนจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ไปยังอิรักต้องผ่านกระบวนการขนถ่ายระหว่างรถบรรทุกที่ขนส่งมาจากต้นทางเพื่อไปขึ้นบนรถบรรทุกสินค้าที่มีใบอนุญาตในท้องถิ่นของอิรัก ซึ่งเป็นการดำเนินการที่ใช้เวลานาน ทั้งยังมีความเสี่ยงต่อเหตุสินค้าเสียหาย การปนเปื้อน และความเสี่ยงในแง่ของการรักษาความปลอดภัย ในขณะที่บริการใหม่ของ DP World จะช่วยให้เจ้าของสินค้าและบริษัทโลจิสติกส์สามารถบรรทุกสินค้าขึ้นบนหางลากพ่วงที่ใช้ทะเบียนสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้โดยตรงจากในคลังสินค้าหรือพื้นที่ของตัวเอง จัดส่งอย่างปลอดภัยไปยังอิรัก และได้รับหางลากพ่วงคันเดิมคืน โดยที่ไม่มีการเปลี่ยนถ่ายสินค้าตลอดเส้นทาง

บริการใหม่นี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับการขนส่งสินค้าที่วางบนแพเล็ตหรือสินค้าโครงการ ซึ่งมักเป็นอุปกรณ์ขนาดใหญ่ที่มีน้ำหนักมาก หรือชิ้นส่วนที่ซับซ้อน โดยเรือ RO-RO ที่ออกแบบมาเพื่อกิจกรรมนี้โดยเฉพาะจะช่วยให้ลูกค้ามีความยืดหยุ่นมากขึ้นในการวางแผนและการเคลื่อนย้ายสินค้าขนาดใหญ่บนรถพ่วงชานต่ำและรถพ่วงลากหนักซึ่งจะช่วยประหยัดต้นทุนได้อย่างมาก เมื่อเทียบกับปฏิบัติการขนส่งสินค้าวางกองแบบดั้งเดิม จากการที่สินค้าจะถูกบรรทุกอยู่บนหางลากพ่วงและพร้อมจัดส่งถึงไซต์งานปลายทางในอิรักได้โดยตรง

ทั้งนี้ นอกจากประโยชน์ด้านเวลาและประสิทธิภาพแล้ว บริการใหม่นี้ยังเป็นประโยชน์ในด้านความยั่งยืนอีกด้วย โดยคาดว่าจะช่วยลดจำนวนรถบรรทุกจากท้องถนนลงได้หลายพันคันต่อปี และช่วยลูกค้าลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงได้อีกทางหนึ่งด้วย


อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Logistics Mananger เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Logistics Manager หรือคลิกที่นี่

บทความก่อนหน้านี้Kuehne+Nagel ยกระดับฟีเจอร์ติดตามตู้สินค้าแบบเรียลไทม์ บนแพลตฟอร์ม myKN
บทความถัดไปSSE ชี้กองเรือของ COSCO และ OOCL ช่วยยกระดับประสิทธิภาพซัพพลายเชน
Thanathas Akkhachotkawanich
Bangkok grew, Australian aged, Silicon Valley matured, this aspiring writer adds flavor to our team with his assuring smile and quill-tip talents.