DB Schenker เข้าร่วมพิธีตั้งชื่อเรือขนส่งตู้สินค้าลำใหม่ของ CMA CGM

0
205

เมื่อเร็วๆ นี้ DB Schenker ได้เข้าร่วมพิธีลงนามตั้งชื่อเรือ CMA CGM BIG SUR ของสายการเดินเรือ CMA CGM ซึ่งเป็นเรือขนส่งตู้สินค้าพลังงานเชื้อเพลิงธรรมชาติเหลว ขนาด 15,000 ทีอียู

Mr. Billy GU ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ CMA CGM China ให้เกียรติต้อนรับ Ms. Cindy Cao ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร DB Schenker Greater China ในฐานะผู้อุปถัมภ์เรือ CMA CGM BIG SUR โดยภายในพิธีดังกล่าวมีแขกผู้มีเกียรติราว 100 คน ประกอบด้วยตัวแทนจากบริษัท DB Schenker, CMA CGM, CMA Ships, พันธมิตรผู้ทรงเกียรติ และผู้จัดการหลักจากอู่ต่อเรือ Jiangnan Shipyard เข้าร่วมในพิธี

Ms. Cindy Cao ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท DB Schenker Greater China กล่าวว่า “นับเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับคำเชิญจาก CMA CGM Group ให้เป็นผู้อุปถัมภ์เรือ CMA CGM BIG SUR อีกทั้งยังถือเป็นโอกาสอันดีที่เราได้ร่วมแสดงความยินดีกับ CMA CGM ซึ่งเป็นพันธมิตรทางธุรกิจของเรา ในการเพิ่มสมาชิกใหม่เข้าสู่กองเรือขนส่งสินค้าทางทะเล การร่วมมือกันในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงผลลัพธ์อันโดดเด่นของการดำเนินงานตลอดหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งเรามีความมุ่งมั่นในการมอบโซลูชันที่หลากหลายให้แก่ลูกค้า เพื่อลดอัตราการปล่อยคาร์บอน พร้อมสร้างคววามมั่นใจว่าเราจะร่วมเดินหน้าสร้างโลกที่ดียิ่งขึ้นให้แก่คนรุ่นใหม่ๆ”

ในฐานะพันธมิตรที่น่าเชื่อถือ DB Schenker และ CMA CGM ได้ร่วมมือกันในภารกิจการยกระดับแนวคิดด้านความยั่งยืนในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ โดยนับเป็นเวลาหลายปีที่ DB Schenker และ CMA CGM ได้มุ่งมั่นปรับใช้แนวคิดด้านความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในอุตสาหกรรมการขนส่งสินค้าทางทะเลและภาคส่วนอื่นๆ ตามความมุ่งมั่นในการลดการปล่อยคาร์บอนในอุตสาหกรรมขนส่งสินค้า

ทั้งนี้ บทบาทของ Ms. Cindy Cao ในฐานะผู้อุปถัมภ์เรือ CMA CGM BIG SUR ไม่ใช่เพียงการอวยพรการเดินทางของเรือเท่านั้น แต่ยังเป็นความคาดหวังต่ออุตสาหกรรมการขนส่งสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นในอนาคตด้วย โดยเรือ CMA CGM BIG SUR ติดตั้งด้วยเครื่องยนต์หลักแบบเชื้อเพลิงคู่รุ่นใหม่ของโลก ซึ่งมีระบบควบคุมอัจฉริยะ (Intelligent Control) ผ่านระบบบำบัดไอเสีย (Exhaust Recycling) ซึ่งสามารถติดตามและปรับสัดส่วนของอากาศและก๊าซได้ผ่านอัลกอริธึมที่กำหนด โดยเมื่อเทียบกับเรือรุ่นก่อนหน้า เรือ CMA CGM BIG SUR สามารถลดปริมาณก๊าซมีเทนในโหมดก๊าซได้ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้มากกว่า 28 เปอร์เซ็นต์

อนึ่ง DB Schenker จะเดินหน้าร่วมมือกับพันธมิตรระดับนานาชาติรายอื่นๆ เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ในอนาคต พร้อมยกระดับความเชี่ยวชาญและความก้าวหน้าทางนวัตกรรม เพื่อสร้างซัพพลายเชนโลจิสติกส์สีเขียวที่ยั่งยืนต่อไป


อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Logistics Mananger เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Logistics Manager หรือคลิกที่นี่

บทความก่อนหน้านี้สมาคมท่าเรือเวียดนามจัดเวิร์กช็อปเกี่ยวกับการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสีเขียวในอุตสาหกรรมการขนส่งสินค้าทางทะเล ที่ CMIT
บทความถัดไปMSC ปรับปรุงบริการ Santana และ Carioca ยกระดับการเชื่อมต่อระหว่างเอเชียกับชายฝั่งตะวันออกของอเมริกาใต้ และคาบสมุทรแคริบเบียน