CMA CGM Group ผู้ให้บริการขนส่งตู้สินค้าชั้นนำ เปิดเผยแผนการในการตอบสนองความต้องการของลูกค้า พร้อมปรับปรุงกระบวนการโลจิสติกส์และซัพพลายเชนให้มีความราบรื่นมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยเฉพาะสำหรับลูกค้าในสหรัฐอเมริกา ซึ่งปริมาณความต้องการขนส่งสินค้าปรับสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2020 ภายหลังจากที่อุตสาหกรรมต้องประสบกับภาวะชะงักงันจากการระบาดของไวรัสโคโรนาในช่วงต้นปี
เพื่อสนับสนุนลูกค้าในสหรัฐอเมริกา CMA CGM ได้ขยายระวางการบริการในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นถึง 39 เปอร์เซ็นต์ ภายในช่วงครึ่งหลังของปี 2020 โดยในระหว่างเดือนพฤษภาคมจนถึงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา CMA CGM ได้ปฏิบัติการเที่ยวเรือพิเศษเพิ่มเติม 25 เที่ยว ในเส้นทางการค้าที่เชื่อมระหว่างเอเชียและสหรัฐอเมริกา คิดเป็นระวางการบริการกว่า 114,500 ทีอียู นอกจากนี้ยังมีการปรับเปลี่ยนขนาดของเรือขนส่งสินค้าจำนวน 13 ลำ ให้เป็นเรือที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม และล่าสุดยังได้ประกาศเปิดตัวบริการใหม่ ‘Golden Gate Bridge’ (GGB) อีกด้วย
บริการ Golden Gate Bridge เป็นบริการในเส้นทางการค้า Transpacific บริการแรกและเพียงบริการเดียวที่วิ่งตรงจากเอเชียไปยัง Oakland และมีกำหนดเทียบท่าที่ Oakland ครั้งแรกในวันที่ 12 กุมภาพันธ์นี้ โดยบริการ GGB นั้นเป็นการปรับโครงสร้างการบริการของบริการ SEAPRIORITY EXPRESS โดยเปลี่ยนมาเข้าเทียบท่าที่ Oakland แทนท่าเรือ Los Angeles ซึ่งถูกตัดออกจากผังการบริการ
สำหรับรอบการวนเรือของบริการ GGB จะเริ่มต้นออกเดินทางจาก Shanghai – Yantian – Oakland แล้ววนกลับมาที่ Seattle – Kaohsiung และสิ้นสุดที่ Shanghai โดยใช้เวลาเดินทางจาก Yantian ถึง Oakland เพียง 12 วัน
ท่าเรือ Oakland เป็นทางเลือกที่มีความเหมาะสมสำหรับการจัดส่งสินค้าไปยังชายฝั่งตะวันตกของสหรัฐอเมริกาทดแทนท่าเรือปลายทาง Los Angeles และ Long Beach เนื่องจากมีความพร้อมในการให้บริการได้ทันที อีกทั้งยังเชื่อมต่อกับโหมดการขนส่งสินค้าทางรางไปยังปลายทางใน Chicago, Memphis, Dallas และ Kansas City และสามารถต่อขยายไปยัง Seattle ได้อีกด้วย จึงเป็นการเปิดโอกาสทางการค้าใหม่ๆ สำหรับลูกค้าในภูมิภาคแปซิฟิกตะวันตกเฉียงเหนือ (Pacific Northwest) ของสหรัฐอเมริกา
นอกจากนี้ CMA CGM ยังดำเนินมาตรการหลากหลายประการเพื่อเร่งรัดการลำเลียงตู้สินค้าเปล่ากลับสู่เอเชีย และลดความล่าช้าในท่าเรือปลายทางในเครือข่ายของกลุ่มบริษัทฯ ทั้งในสหรัฐอเมริกา เอเชีย และยุโรป สำหรับในสหรัฐอเมริกานั้น กลุ่มบริษัทฯ ได้เพิ่มจำนวนหางลากตู้สินค้า โดยเฉพาะในพื้นที่แคลิฟอร์เนียตอนใต้ พร้อมขยายฐานผู้ให้บริการรถบรรทุก เพื่อเร่งกระบวนการหมุนเวียนตู้สินค้าภายในท่าเทียบเรือ และมีการประสานงานกับพันธมิตรผู้ให้บริการขนส่งทางรางในการเพิ่มจำนวนแคร่รถไฟขนส่งตู้สินค้าในแคลิฟอร์เนียตอนใต้ และกระจายไปตามท่าเรือต่างๆ เพื่อให้การหมุนเวียนตู้สินค้ามีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น
อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Logistics Mananger เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Logistics Manager หรือคลิกที่นี่